จากเผด็จการ สลัดคราบเป็นผู้สืบทอด DNA ให้กับนักการเมือง
เมื่อพูดถึงวงการทางการเมือง หลายคนมักจะมองในแง่ลบ เพราะเปรียบเสมือนดงงูเห่าขนาดใหญ่ ที่คอยแว้งกัดคุณได้ทุกเมื่อ และแน่นอน เหยื่อของพวกอสรพิษร้ายพวกนี้คือผลประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นอำนาจ บริวาร เงิน ที่รายล้อมรอบตัว
.
ถ้าจะมองเพียงด้านเดียวก็ดูใจร้ายไป เพราะการปกครองโดยตัวแทน เป็นส่วนสำคัญของรัฐสมัยใหม่เกือบทุกที่ ไม่ว่าประเทศที่เจริญแล้ว หรือประเทศกำลังพัฒนาก็ตามที ต่อให้เราเกลียดนักการเมือง แต่เราก็ต้องพึ่งนักการเมือง ถ้าไม่มีนักการเมือง เราจะให้ใครมาต่อรองผลประโยชน์ หรือเวลาเดือดร้อนจะไปบอกใครที่มีอำนาจต่อรองได้เลย
นักการเมืองมันก็มีทั้ง 2 ด้านแหละ แต่ในสังคมไทยเรามันจะมีด้านข้างบนมากกว่าด้านที่กล่าวมาข้างต้นมากกว่า เพราะอะไร ก็เพราะ DNA ทางการเมืองไง ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งเห็นสันดานคน แล้วสันดานปาดหน้าเค้ก ส่งผู้ลงสมัครทับพื้นที่ของพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลหลายพรรคดูแล้วทุเรศ ว่าบารมีไม่มีไม่ว่า แต่สร้างศัตรูอีกดูแล้วไม่ไหว
.
8 ปีผ่านมา อำนาจก็ยึดเขามา แก้กฎแก้เกม จนระบบเละ แล้วตัวเองก็เข้าสู่ในจุดสร้างศัตรูรอบกายอีก ดูท่า คงจะแพ้ไม่ได้ ถ้าลงได้คงคนเช็คบิลยาวเป็นหางว่าวแน่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สันดานนี้แหละ มันจะไม่หมดแค่นี้ เพราะตอนนี้มันน่าจะกำลังตั้งไข่เตรียมฟักผลิตลูกหลานเพื่อพ่นพิษกันทางการเมืองในพรรคแน่ๆอีกกระมัง