พระสังกัจจายน์คือใคร..?
เวลาที่ไปไหว้พระตามวัดต่าง ๆ
จะสังเกตเห็นบางวัด มีองค์พระสังกัจจายน์ประดิษฐานอยู่
เพื่อให้คนที่มาวัด ได้สักการะบูชากัน
ที่มาที่ไปขององค์พระสังกัจจายน์นั้น
พระสังกัจจายน์ หรือ พระมหากัจจายนเถระ
เป็นพระอรหันต์ ในพระพุทธศาสนา
พระสังกัจจายน์ เป็นผู้มีปัญญามาก
และเป็นผู้เลิศในทางอธิบายธรรม
เป็นเลิศในลาภ สักการะ โภคทรัพย์
และเสน่ห์เมตตามหานิยมทั้งปวง
พระสังกัจจายน์ เดิม เป็นผู้มีรูปกายงดงามสง่า
ผิวพรรณสุกใสเปล่งปลั่งดั่งทองคำ
เนื่องจากอานิสงส์ที่เคยถวายทองคำ ก่อสร้างเจดีย์ในชาติปางหนึ่ง
ท่านเกิดในสมัยของพระพุทธเจ้า ณ.กรุงอุชเชนี
เป็นบุตรของตระกูล "กัจจายนะโคตร"บิดาเป็นพราหมณ์
เวลาเกิดมีผิวพรรณสุกใสเปล่งปลั่งดั่งทองคำ
บิดามารดาจึงตั้งชื่อว่า "กัญจนะ"แปลว่าทองคำ
เมื่อเจริญวัย ได้ฟังธรรมของพระพุทธองค์ ที่วัดเชตวัน
ในเมืองสาวัตถี แคว้นโกศล จนบรรลุพระอรหัตผลก่อนบรรพชา
และพระพุทธเจ้า ประทานการบวชด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา(คือตรัสว่าจงเป็นภิกษุเถิด)
ท่านเป็นผู้มีปัญญามาก และเป็นผู้เลิศในทางอธิบายธรรม
ครั้งหนึ่ง พระมหากัจจายนเถระ ได้จาริกเข้าไปในโสเรยยะนคร เพื่อบิณฑบาต
มีกุลบุตรของเศรษฐีผู้หนึ่งนามว่า"โสรเรยยะ"
ได้พบเห็นรูปกายอันงามของท่าน
จึงบังเกิดความชื่นชมยินดี และเกิดอกุศลว่า
"น่าจะได้พระเถรเจ้าเป็นภริยาของเรา หรือไม่ก็
ขอให้ภริยาของเรา ได้มีสรีรกายงดงามดั่งพระเถรเจ้ารูปนั้น"
ด้วยจิตอกุศลนั้น ทำให้โสเรยยะ กลายเป็นเพศหญิงทันที
ทำให้เกิดความละอาย และหนีเตลิดเปิดเปิงไปถึงเมืองตักศิลา
แล้วก็ได้พบกับบุตรของเศรษฐีตระกูลหนึ่ง
ซึ่งยังเป็นโสด มิได้แต่งงาน เมื่อบุตรเศรษฐีได้พบเห็นโสเรยยะ
ซึ่งบัดนี้กลายเป็นหญิงที่งดงามมาก
จึงเกิดความเสน่หาและขอแต่งงานกับนาง
นางโสเรยยะอยู่กินกับบุตรเศรษฐี จนมีบุตรด้วยกัน 2คน
โดยที่ตนก็ได้มีบุตรแล้ว 2 คน กับภริยาที่โสเรยยะนคร ซึ่งเป็นบ้านเกิดนั่นเอง
ต่อมาโสรเรยยะได้พบกับเพื่อน ซึ่งมาทำการค้าที่เมืองตักศิลา
เพื่อนได้แนะนำให้เค้าไปสักการะ พระมหากัจจายนเถระ
ซึ่งได้เดินทางมาที่เมืองตักศิลาเช่นกัน
หลังจากที่โสเรยยะ ได้เข้าสักการะบูชา
และถวายอาหารอันประณีตแก่ พระมหากัจจายนเถระแล้ว
ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านทราบ
เมื่อ พระมหากัจจายนเถระได้ฟัง แล้ว เกิดความสะเทือนใจมาก
จึงยกโทษให้นางโสเรยยะ นางโสรเยยะจึงกลับกลายเป็นเพศชายดังเดิม
บุตรเศรษฐี สามีของนางโสเรยยะได้ทราบเรื่องทั้งหมด
ก็มีความอาลัยอาวรณ์ ขอร้องให้โสเรยยะ
ที่กลับสู่เพศชาย อยู่ด้วยกันต่อไป
แต่โสเรยยะเกิดความขมขื่น และเศร้าสลดใจ
และไม่รู้จะอยู่ในฐานะเเม่และเมียได้อย่างไร
จึงไม่ปรารถนาจะครองเรือนอีกต่อไป
และตัดสินใจออกบวชไปกับพระมหากัจจายนเถระ
ได้นามว่า"พระโสเรยยะเถรเจ้า"
เรื่องราวนี้ เป็นเหตุให้ พระมหากัจจายนเถระ
เกิดความเศร้าสะเทือนใจ ในรูปกายอันงดงามดั่งทองคำของท่าน
จึงอธิษฐานจิต ขอให้มีรูปกายอ้วนท้วน
มีพุงยื่นใหญ่ออกมา หาความงามในสรีระไม่ได้เลย
อีกสาเหตุหนึ่งที่ท่านอธิษฐานจิต ให้มีรูปกายไม่งาม คือ
พระมหากัจจายนเถระ มีรูปร่างดงาม สง่า คล้ายกับพระพุทธเจ้า
จึงได้รับการขนานนามว่า"พระควัมปติเถระ"
เมื่อออกบิณฑบาต ณ.ที่ใด มนุษย์ และเทวดา
ต่างมาแซ่ซ้องสรรเสริญว่า"ชาวเราเอย ชาวเราเอ๋ย พระบรมครูมาโปรดเราแล้ว"
แต่ พระมหากัจจายนเถระ เมื่อได้ฟังคำสรรเสริญ
และถูกยกย่องให้เทียมพระพุทธเจ้า
ก็มิได้ยินดี และมิอาจทนทานได้
และเห็นว่าเป็นการไม่สมควรยิ่ง จึงอธิษฐานจิตให้มีรูปกายไม่งามและอ้วนลงพุง
ปัจจุบันชาวพุทธกราบไหว้ สักการบูชาพระสังกัจจายน์
เพื่อให้บังเกิดความเป็นสิริมงคล 3 ประการคือ
1. โชคลาภและความอุดมสมบูรณ์
พระสังกัจจายน์ได้รับการยกย่อง ให้เป็นพระผู้อุดมด้วยโภคทรัพย์ และลาภสักการะเสมอด้วยพระสิวลี
2. สติปัญญา
เนื่องเพราะพระสังกัจจายน์ ได้รับการยกย่องจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า
เป็นเลิศในทางอธิบายความพุทธภาษิต ท่านเป็นอรหันต์ผู้มีปฎิภาณเฉียบแหลม
3. ความงามและความมีเสน่ห์
เนื่องจากเพราะก่อนที่ท่านจะอธิษฐานจิตให้รูปร่างเปลี่ยนแปลง
พระสังกัจจายน์มีผิวดั่งทองคำและมีรูปงามละม้ายเหมือนพระพุทธเจ้า
จนแม้แต่เทพยดา พรหม มนุษย์ทั้งปวงพากันรักใคร่ชื่นชม
พระสังกัจจายน์ หรือ พระมหากัจจายนเถระ
เป็นพระอรหันต์ ในพระพุทธศาสนา
เป็นคนละองค์กับพระสังกัจจายน์ของจีน
พระสังกัจจายน์ ที่พระเศียรท่านจะมีไรผม เป็นตุ่มๆ
ในขณะที่พระสังกัจจายน์จีนจะเป็นเศียรโล้นๆ ไม่มีไรผม
พระสังกัจจายน์จีน มือหนึ่งจะถือ สร้อยประคำ
แต่พระสังกัจจายน์จะไม่มีสร้อยประคำ
พระสังกัจจายน์จีน จะมีพระพักตร์ยิ้มแย้มแจ่มใส
มีหน้าตาค่อนไปทางจีน และไม่ใช่พระอรหันต์ของพระพุทธเจ้า
แต่เป็นรูปจำลองอีกแบบหนึ่งของพระโพธิสัตว์ ศรีอาริยเมตไตรย
ในคติพุทธศาสนนิกายมหายานแบบจีน
เป็นที่นิยมบูชากันอย่างกว้าขวาง เพราะเชื่อกันว่า
ท่านบันดาลโชคลาภโภคทรัพย์ และความเป็นสิริมงคล ให้แก่ผู้บูชา