รู้หรือไม่? รอยแตกลาย แก้ได้ด้วยเลเซอร์แบบไหนบ้าง? มาดูกัน
ถึงแม้รอยผิวแตกลายมักจะเกิดบริเวณใต้ร่มผ้าหรือบริเวณที่มองเห็นได้ยาก แต่ปัญหารอยแตกลายก็ยังคงเป็นปัญหาที่ทำลายความมั่นใจของสาวๆหลายท่านได้มากเลยทีเดียว รอยแตกลายมักจะเกิดบริเวณ หน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา และหน้าอก ซึ่งเป็นบริเวณที่สร้างความไม่มั่นใจสำหรับสาวๆที่ต้องการอวดผิวเนียนในชุดว่ายน้ำ โดยวิธีการรักษารอยแตกลายมีหลายหลากวิธี และการรักษาด้วยการเลเซอร์ก็เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน
เลเซอร์รอยแตกลายคืออะไร
เป็นวิธีการรักษาปัญหารอยแตกลายด้วยการฉายลำแสงที่มีความเข้มข้นสูงเป็นจังหวะไปยังผิวหนังบริเวณที่ต้องการรักษา เพื่อช่วยขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวกระจ่างใส และลดเลือนรอยแตกลายบนผิวหนังได้ ผลการรักษาด้วยเลเซอร์ปรับสภาพผิว อย่างไรก็ตามการรักษารอยแตกลายที่เพิ่งเริ่มเป็นใหม่ๆ จะได้ผลดีกว่ารอยแตกที่เป็นมานาน
สาเหตุการเกิดรอยแตกลาย
รอยแตกลาย(Stretch Mark) คือรอยด่างบนผิวหนังที่เกิดจากการยืดหดอย่างรวดเร็วของผิวหนัง ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินที่ทำหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอย่างกะทันหันทำให้เนื้อเยื่อชั้นหนังแท้ฉีกขาดออกจากกัน จึงทำให้เกิดรอยแตกลายขึ้น รอยแตกลายจะเกิดขึ้นที่ผิวหนังชั้นกลาง และมักจะเกิดในบริเวณที่มีไขมันสะสมอยู่มาก เช่น หน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา สะโพก และหน้าอก โดยรอยแตกลายนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน มักจะเกิดขึ้นในช่วงวัยรุ่นที่มีการเติบโตรวดเร็วหรือผู้ที่มีน้ำหนักเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างรวดเร็ว และคุณแม่ตั้งครรภ์
เลเซอร์รอยแตกลายมีแบบไหนบ้าง?
ในปัจจุบันเลเซอร์รอยแตกลายนั้นมีด้วยกันหลายแบบด้วยกัน แต่จะมีอยู่ 5 เครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุด ดังนี้
เลเซอร์ Picosecond
จะเป็นเลเซอร์ที่มีระดับความเร็วในการยิงลงชั้นผิวสั้นและรวดเร็ว จึงทำให้เม็ดสีที่มีความผิดปกติใต้ชั้นผิวได้รับการแก้ไขฟื้นฟูจากพลังงานเลเซอร์โดยเข้าไปกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ตรงผิวส่วนที่มีรอยแตกลายได้อย่างรวดเร็ว และละเอียดมากที่สุด
- ข้อดี: มีหน่วยการยิงที่มีความรวดเร็วมากๆ จึงทำให้ไม่ทิ้งความร้อนจากเลเซอร์เอาไว้ที่ผิวเลยลดโอกาสการเกิดผิวไหม้และความรู้สึกร้อนบนผิวหนังระหว่างรับบริการ อีกทั้งยังได้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ค่อนข้างเร็วและละเอียด สามารถแก้ปัญหาผิวได้หลากหลายครอบคลุมทุกปัญหาผิวที่หลายๆคนกังวล เช่น รอยจุดด่างดำ ความหมองคล้ำบนผิว รอยฝ้าจากแสงแดด รูขุมขนที่กว้าง
- ข้อเสีย: เป็นทางเลือกที่มีราคาสูง เนื่องจากความสามารถในการแก้ปัญหาผิวได้อย่างละเอียดและเห็นผลเร็วอีกทั้งยังต้องรักษาติดต่อกันอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ วิธีนี้คนที่ต้องการความละเอียดและรวดเร็วอาจจะต้องทำใจเผื่อความรู้สึกเจ็บแสบเหมือนผิวถูกดีดระหว่างยิงเลเซอร์เอาไว้ด้วย แต่โดยทั่วไปแล้วจะมีการทายาชาให้ล่วงหน้าก่อนเริ่มยิงเลเซอร์โดยหลังจากการยิงเลเซอร์จะเกิดรอยแดงอยู่ประมาณ 3-6 สัปดาห์
- ราคา: โดยเฉลี่ยประมาณ 3,500 - 5,000 บาท/ครั้ง
เลเซอร์ Fractional CO2
เป็นเลเซอร์ที่มีลักษณะการปล่อยลำแสงเป็นแบบลำตรงเล็กๆ หลายตำแหน่ง เหมือนกับการยิงเลเซอร์หลายลำแสงจากในหัวยิงเดียวลงไปใต้ชั้นผิว โดยลำแสงจะเข้าไปกระตุ้นการผลัดเซลล์คอลลาเจนผิวใหม่ และกำจัดเซลล์ผิวเดิมที่เสียหายออกไปเพื่อให้รอยแตกลายจางลงในตำแหน่งที่กำหนด
ข้อดี: ราคาน่ารักสบายกระเป๋า เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ไม่ชอบความเจ็บปวด แถมยังไม่จำเป็นต้องทายาชาก่อนรับบริการเลย สามารถช่วยลดรอยดำรอยแดงและกำหนดตำแหน่งที่ต้องการได้แม่นยำเพราะเลเซอร์มีขนาดเล็ก- ข้อเสีย: ต้องเข้ารักษาหลายครั้งจึงจะมองเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- ราคา: โดยเฉลี่ยประมาณ 900 - 3,000 บาท/ครั้ง
เลเซอร์ VBeam
เป็นเลเซอร์ชนิด Pulsed Dye Laser ใช้รักษารอยแดงบนเนื้อผิวโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรอยแดงจากสิว รอยเส้นเลือดฝอย ปานแดง หรือรอยแตกลายสีแดงอมม่วง จะเป็นการยิงเลเซอร์ลงเข้าไปจัดระเบียบเส้นเลือดฝอยเล็กๆ ใต้ผิวที่ทำให้เกิดรอยแดงใหม่ กระตุ้นการสร้างเซลล์คอลลาเจนเพิ่มใต้ผิว เพื่อปรับสภาพให้ผิวที่คล้ำเป็นรอยแดงค่อยๆจางลง
- ข้อดี: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรักษารอยแดงโดยเฉพาะ อีกทั้งมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผิวมีความกระจ่างใสและความเรียบเนียนเพิ่มขึ้น
- ข้อเสีย: เป็นทางเลือกที่ราคาค่อนข้างสูง วิธีนี้อาจทำให้รู้สึกเจ็บอยู่บ้างแต่มักอยู่ในระดับที่ยังอดทนได้ จะไม่สามารถรักษารอยดำได้อย่างเห็นได้ชัด หากรอยแดงที่เกิดขึ้นเปลี่ยนแปลงเป็นโทนสีดำคล้ำ ก็จะไม่สามารถรักษาด้วยวิธี VBeam ได้ต่อไป
- ราคา: โดยเฉลี่ยประมาณ 3,000 บาท/ครั้ง
เลเซอร์ Picoway laser
นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นที่การปล่อยคลื่นความถี่สูง ในระยะเวลาที่สั้น ยิงไปยังบริเวณผิวที่มีปัญหาเป็นจุด ๆ เพื่อกำจัดและทำลายเม็ดสีส่วนเกินออกไปจากผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ โดยไม่เกิดการสะสมพลังงานความร้อนทำให้ไม่กระทบผิวบริเวณข้างเคียง และใช้เวลาในการรักษาน้อยกว่าเครื่องเลเซอร์รุ่นเดิม อีกทั้งยังปลอดภัย และได้มาตรฐาน ให้ผลการรักษาที่ดีที่สุด เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด
ข้อดี: หลังการรักษาไม่ทำให้เกิดแผลตกสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้น และด้วยประสิทธิภาพการปล่อยเลเซอร์ที่รวดเร็วและสั้นทำให้ความร้อนจากเลเซอร์ไม่เหลือตกค้างอยู่บนผิวเลย ทำให้เกิดอาการเจ็บได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องเลเซอร์รุ่นอื่น ๆ และเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าเลเซอร์รุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ใต้ชั้นผิวหนังเพื่อช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพให้ผิวแข็งแรงเรียบเนียน และดูอ่อนเยาว์ และด้วยความถี่ระดับ Picosecond ของเลเซอร์ชนิดนี้ จะสามารถทำให้เม็ดสีเกิดการแตกตัวได้ดีกว่า ส่งผลให้รักษาจำนวนครั้งน้อยกว่าเลเซอร์รุ่นเดิม สามารถเห็นผลลัพธ์การรักษาได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ- ข้อเสีย: มีราคาที่ค่อนข้างสูง หลังทำการรักษาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงมีอาการ ผิวแดงบวม 3-4 วัน ขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละบุคคล
- ราคา: โดยเฉลี่ยประมาณ 2,000 - 5,000 บาท/ครั้ง
เลเซอร์ IPL
เป็นนวัตกรรมรักษาผิวที่มีชื่อเสียง มีจุดเด่นด้านการฟื้นฟูสุขภาพผิวได้อย่างทั่วถึงครอบคลุมหลายปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อปรับสภาพผิวที่เป็นร่องลึกและยังช่วยขจัดเม็ดสีเมลานินที่ผิดปกติจนเกิดเป็นรอยหมองคล้ำหรือจุดด่างดำบนเนื้อผิว ทำให้ผิวดูเปล่งประกายกระจ่างใส และยังสามารถกระชับรูขุมขนขึ้นได้อีกด้วย
- ข้อดี: มีราคาที่ถูก ทั้งนี้ เลเซอร์IPLมีความอ่อนโยนต่อผิว และไม่สร้างความเสียหายให้กับเซลล์ผิวโดยรอบแถมยังให้ความรู้สึกเจ็บน้อยกว่าเลเซอร์แบบอื่นๆ
- ข้อเสีย: ไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวคล้ำและต้องรับบริการหลายครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ในการรักษา
ราคา: โดยเฉลี่ยประมาณ 1,000 บาท/ครั้ง
เลเซอร์รอยแตกลายราคาแพงแต่คุ้มจริงไหม
ก็ต้องตอบเลยว่าจริงหากเทียบกับวิธีการอื่นๆ เช่นการทาครีมที่ต้องใช้ระยะเวลานานมากๆ กว่าจะเห็นผล แถมครีมบางตัวยังมีราคาที่สูงพอๆ กับค่าเลเซอร์ ดังนั้นการตัดสินใจทำเลเซอร์ก็ถือว่าเป็นวิธีที่คุ้มค่ากับผลลัพธ์และระยะเวลาในการรักษาที่มากกว่า
วิธีเตรียมตัวก่อนและหลังเลเซอร์รอยแตกลายต้องดูแลตัวเองยังไงให้คุ้มค่ารักษา
ความจริงแล้วในการส่วนของการดูแลตัวเองก่อนและหลังทำนั้นไม่ได้มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยากมากมาย แต่จะมีข้อควรเว้นบางอย่างที่อาจส่งผลต่อผลข้างเคียงหลังทำได้
ก่อนเข้ารับบริการ:
- เข้าพบแพทย์ก่อนเข้ารับบริการเพื่อให้แพทย์ได้ตรวจดูปัญหารอยแตกลายส่วนที่ต้องการรักษาล่วงหน้าก่อนรับบริการจริง
หลีกเลี่ยงการออกเดินทางไปข้างนอกเมื่อมีแดดจัด หรือหากจำเป็นต้องออกแนะนำให้สวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดปกปิดผิวจากแสงแดด หมวก - ใส่แว่นกันแดด และทาครีมกันแดด SPF 50+ ทุกครั้ง
- งดกิจกรรมที่สร้างความร้อนให้ร่างกาย หรือการอยู่ในที่อุณหภูมิสูงๆชั่วคราว เช่น การอาบน้ำร้อน การแช่ซาวน่า การทำสปา
- ขยันทาครีมบำรุงมอยเจอร์ไรเซอร์ให้กับผิวอย่างสม่ำเสมอ (สามารถแต่งหน้าหรือทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆได้ปกติ)
- งดการกำจัดขนบนผิวหนังเช่นการแวกซ์ขน ถอนขน หรือการเลเซอร์ผิวแบบอื่นๆ ก่อนเข้ารับบริการประมาณ 1-2 สัปดาห์
- หากเกิดปัญหาสิวอักเสบ ผิวหนังอักเสบ ผิวติดเชื้อ มีแผลสด ใกล้กับวันที่รับบริการควรเลื่อนนัดหมายออกไปและรักษาอาการให้หายเสียก่อนเข้ารับบริการ
หลังเข้ารับบริการ:
- เลเซอร์ตามจำนวนครั้งที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ อย่าเว้นระยะเวลาในแต่ละครั้งนานเกินไป เพื่อให้ผลลัพธ์หลังการรักษาเห็นการเปลี่ยนแปลงตามที่ต้องการ
- ทามอยเจอร์ไรเซอร์หรือครีมเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิวป้องกันผิวแห้งเป็นขุยตกสะเก็ดและลดความรู้สึกระคายเคืองได้
- ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อช่วยกระตุ้นให้ผิวชุ่มชื้นอยู่เสมอ
- งดการออกไปเผชิญแสงแดดจัดๆเป็นเวลานาน อาจจะส่งผลต่อผลลัพธ์ทำให้เห็นผลน้อยลง
การรักษารอยแตกลายให้จางลงได้ต้องใช้ความอดทนและความสม่ำเสมอไม่ว่าจะใช้วิธีการรักษาแบบใดก็ตาม ซึ่งหากเทียบกับผลลัพธ์และความรวดเร็วของการรักษาก็สามารถตอบได้อย่างมั่นใจเลยว่าวิธีการเลเซอร์รอยแตกลายเป็นทางเลือกที่ดีและราคาไม่แพง โดยงบสำหรับการเลือกบริการเลเซอร์รอยแตกลายนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาด บริเวณของผิว ทำให้ราคาไม่แน่นอน โดยเฉลี่ยแล้วราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท/ครั้ง ก็สามารถเข้ารับบริการได้แล้ว