ทำไมเสือผีจึงเผยจุดอ่อนสำคัญเวลาลวงเหยื่อมาเป็นอาหาร?
เสือผีในที่นี้ จัดเป็นสัตว์มายาชนิดหนึ่ง คือ เป็นสัตว์ที่มีอายุขัยยืนยาวกว่าปกติจนมีความสามารถในการสะกดจิตสร้างภาพลวงตามนุษย์ แต่ยังไม่มีฤทธิ์ถึงขั้นแปลงกายได้ และเนื่องจากเป็นเสือเฒ่าจึงสูญเสียสมรรถนะในหลายด้าน เช่น ความเร็วในการออกล่า ทักษะในการปีนต้นไม้ ฯลฯ แต่ก็ถูกทดแทนด้วยความสามารถในการสร้างภาพมายาในระดับหนึ่ง
วิธีการหาเหยื่อของพวกเสือผีจึงไม่ใช่การออกล่าแต่เป็นการสร้างภาพลวงตาให้เหยื่อหลงเชื่อและเข้าใกล้ตัวให้จับกินได้ง่ายๆ ซึ่งตามเรื่องเล่าต่างๆ มักระบุว่าพวกเสือผี(บางแหล่งเรียก เสือสมิง)จะสร้างภาพลวงตาเป็นนักเดินทางรึคนรู้จักของเป้าหมายแล้วพยายามหลอกให้เหยื่อยอมลงจากต้นไม้รึเดินตามไปจนถึงจุดที่เหมาะให้จับกินโดยง่าย ทว่าในการสร้างภาพมายานี้เองกลับทำให้พวกเสือผีเปิดเผยจุดอ่อนสำคัญของตนด้วย
ว่ากันว่า จุดอ่อนในภาพมายาของพวกเสือผี หากไม่ใช่ตะเกียงรึโคมไฟที่ถืออยู่ ก็จะเป็นย่ามรึห่อผ้าที่สะพายรึถือติดมือมา เพราะหากมองทะลุภาพมายาที่ถูกอำพรางไว้ก็จะพบว่า ตะเกียงรึโคมไฟที่ถืออยู่นั้น คือ แสงสะท้อนจากดวงตาของเสือผี ส่วนย่ามรึห่อผ้านั้นแท้จริงก็คือตำแหน่งหัวใจของพวกมัน หากยิงใส่จุดเหล่านี้ก็จะสามารถฆ่าเสือผีได้โดยง่ายนั่นเอง แล้วทำไมพวกเสือผีต้องเปิดเผยจุดอ่อนของตนเองให้ชัดเจนขนาดนี้?
จากการวิเคราะห์ ทางเราพอจะตั้งสมมุติฐานได้ว่า เสือผีเหล่านี้ ดั้งเดิมเป็นเสือมายา คือ เสือเฒ่าที่สร้างภาพลวงตาอย่างง่ายๆ ซึ่งไม่มีความสลับซับซ้อนมากนักได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น แต่เมื่อพวกมันเริ่มกินมนุษย์เป็นอาหารหลัก สัมภเวสีจากเหยื่อที่พวกมันกินก็จะเริ่มสะสมอยู่ในตัวของมันมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้ทักษะในการสร้างภาพลวงตาเริ่มกล้าแข็งขึ้น สามารถใช้สัมภเวสีที่พวกมันกินมาช่วยสร้างภาพมายาที่มีความซับซ้อนกว่าเดิมได้ ทำให้พวกมันพัฒนาจากเสือมายาขึ้นมาเป็นเสือผี รึก็คือ เสือเลี้ยงผี เป็นเสือเฒ่าที่เลี้ยงสัมภเวสีเอาไว้ในร่างของตนเอง
ทว่าแม้จะสามารถสร้างภาพลวงที่มีความซับซ้อนสมจริงลวงอายตนะประสาทของมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้น สิ่งนี้ก็ต้องแลกมาด้วยข้อเสียบางประการ เพราะแม้ว่าเสือผีจะเป็นผู้อำนาจเหนือเหล่าสัมภเวสีที่เลี้ยงไว้แต่ก็ไม่ทั้งหมด เนื่องจากในการสร้างภาพมายาที่ซับซ้อนเสือผีจำเป็นต้องยืมกำลังจากพวกสัมภเวสีที่ตนกินมาช่วย จึงเปิดโอกาสให้สัมภเวสีเหล่านั้นสามารถบิดเบือนข้อมูลแทรกภาพมายาที่ช่วยระบุตำแหน่งอวัยวะสำคัญอันเป็นจุดตายของเสือผีลงไปได้ด้วยเช่นกัน แม้จะไม่สามารถทำได้อย่างโจ่งแจ้งนักก็ตาม ซึ่งเหตุที่เหล่าสัมภเวสีต้องเจตนาระบุตำแหน่งจุดตายของเสือผีเอาไว้นี้ เป็นไปได้ว่ามันคือข้อความที่ต้องการส่งถึงผู้ที่กำลังจะตกเป็นเป้าหมายคนต่อไปที่ยังมีสติให้ตระหนักรู้ได้และช่วยกำจัดเสือผีทิ้งเพื่อปลดปล่อยพวกตนให้ได้ไปผุดไปเกิดซะที
การเผยจุดอ่อนทางกายภาพในการสร้างภาพมายาเพื่อลวงเหยื่อ จึงเป็นจุดบอดความเสี่ยงที่พวกเสือผีจำเป็นต้องยอมรับและไม่อาจแก้ไขข้อบกพร่องในระบบจุดนี้ได้ เพราะลำพังแค่กำลังของพวกมันเองก็ไม่สามารถสร้างภาพลวงตาสะกดจิตมนุษย์ในระดับสูงได้ จำเป็นต้องพึ่งพาสัมภเวสีจากเหยื่อที่กินเข้าไปเช่นกัน
ทว่า หากสัมภเวสีที่สิงอยู่ในร่างเสือเฒ่าเหล่านั้นเต็มใจให้ความร่วมมือด้วย จุดบอดข้อบกพร่องในการสร้างภาพมายาที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็จะถูกกำจัดแก้ไขให้หมดไปด้วยเช่นกัน
ลองนึกถึงดาวมรณะในสตาร์วอร์ส ที่มีคนเจตนาแอบสร้างจุดอ่อนเอาไว้ให้ถูกทำลายได้ง่ายๆสิ -_-
อนึ่ง พวกเสือผีรึสัตว์ผีชนิดอื่นๆ น่าจะสะกดจิตสร้างภาพลวงตาหลอกมนุษย์ได้แค่ครั้งละไม่กี่คน เพราะการใช้ทักษะนี้จะทำได้ก็ต่อเมื่อกำลังจิตของตัวเสือผีมีมากกว่าฝ่ายเหยื่อ รึก็คือฝ่ายเหยื่อต้องจิตอ่อนกว่าพวกมัน ซึ่งหากมีเป้าหมายมากกว่า ๑ กำลังจิตจะไม่เสถียร การปรับค่าเพื่อสร้างภาพลวงตาให้ครบทุกคนจะทำได้ยากขึ้นเพราะกำลังจิตของกลุ่มเป้าหมายมีค่าสูงกว่าบ้างต่ำกว่าบ้าง ไม่เท่ากัน การสะกดจิตเหยื่อได้ครั้งละหลายคน ระดับจิตของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมดจะต้องอ่อนกว่ากำลังจิตของตัวเสือผีเองเท่านั้น ซึ่งมีโอกาสพบได้ยากมาก