หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

“เมดูซ่า” ปีศาจสุดน่ากลัวที่มีหัวเป็นงูที่แท้จริงแล้วเมดูซ่านั้นไม่ได้โหดร้ายอย่างที่หลายคนคิด!!

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์

Medusa and Perseus
หลาย ๆ คนคงจะรู้จัก “เมดูซ่า” (Medusa) ปีศาจสุดน่ากลัวที่มีหัวเป็นงูของชาวกรีกโบราณ แต่แท้จริงแล้วจะมีใครรู้หรือไม่ว่าเมดูซ่านั้นไม่ได้โหดร้ายอย่างที่หลายคนคิด แถมยังมีภูมิหลังชีวิตที่น่าสงสารและน่าเศร้ามากอีกด้วย
เดิมที “เมดูซ่า” เป็นมนุษย์ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เธอมีหน้าตาที่สวยที่สุดในกรุงเอเธนส์ ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณหรือใบหน้าของเธอ แต่สิ่งที่งดงามที่สุดจนทำให้คนพูดถึงเมดูซ่านั่นก็คือเส้นผมของเธอที่สลวยสวยงามเหมือนเส้นไหมสีทอง เมดูซ่าเป็นหนึ่งในสามพี่น้องที่เป็นลูกของ “เมทิส” (Metis) เจ้าแห่งสติปัญญาที่สามารถแปลงกายเป็นสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ในเวลาต่อมา “ซุส” (Zeus) ต้องการพลังของเมทิส ซุสจึงวางแผนหลอกให้เมทิสเข้าไปหา และทำการข่มขืนเมทิส ก่อนที่จะล่อลวงให้เมทิสแปลงกายเป็นสัตว์เล็กอย่างแมลงวันแล้วจับกินเข้าไป

ทำให้ซุสได้ครอบครองพลังแห่งสติปัญญาในที่สุด แต่เมทิสไม่ได้ตายทันทีหลังจากที่โดนซุสกินเข้าไป เนื่องจากพลังของเธอมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เธอจึงขึ้นไปอยู่บนหัวของซุสและได้ปล่อยพลังของเธอออกมา ทำให้ซุสปวดหัวอย่างรุนแรงจนถึงขั้นหัวของซุสระเบิดออกมา และสิ่งที่ออกมาจากหัวของซุสก็คือ “อะธีน่า” (Athena) เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่าทำไมถึงมีเทพีอะธีน่าออกมา เนื่องจากว่า ณ ตอนนั้น เมทิสกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 4 อยู่ และซุสไม่รู้ว่าเมทิสกำลังตั้งท้อง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ออกมาจากหัวของซุสก็คือลูกของเมทิสนั่นเอง
ต่อมาอะธีน่าโตขึ้น เธอเพิ่งรู้ในภายหลังว่าเธอมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันถึง 3 คน ก่อนที่เมทิสจะมีเธอ ซึ่งใน 3 คนนี้ ทุกคนหน้าตาดี สละสวยกันทั้งหมด ด้วยความอิจฉาของอะธีน่าเธอจึงต้องการที่จะกำจัดพี่น้องของตัวเองออกไป แต่ด้วยความที่ลูกสาว 2 คนแรกของเมทิสเป็นเทพ เธอจึงไม่สามารถจัดการกับ 2 คนนี้ได้ แต่เมดูซ่าเป็นกึ่งคนกึ่งเทพ ดังนั้นเป้าหมายชองอะธีน่าจึงตกไปอยู่ที่เมดูซ่าเต็ม ๆ แต่เมดูซ่าได้บำเพ็ญตัวเป็นนักบวชอยู่ในวิหารของอะธีน่า และด้วยความที่อะธีน่าเป็นเทพีแห่งสติปัญญา เธอจึงไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้
แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อเทพแห่งท้องทะเลอย่าง “โพไซดอน” (Poseidon) ที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามเรื่องความงามของเมดูซ่ามานาน เขาเป็นอีกคนที่ต้องการเมดูซ่ามาครอบครอง โพไซดอนบุกเข้าไปข่มขืนเมดูซ่ากลางวิหารของอะธีน่า ซึ่งตอนนั้นอะธีน่ารู้แล้วว่าเมดูซ่าถูกข่มขืนในวิหารศักดิ์สิทธิ์ของเธอ แต่อะธีน่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังและอิจฉาเมดูซ่าอยู่แล้ว เธอจึงประกาศให้ทุกคนในเมืองรู้ว่า เมดูซ่าถูกขโมยพรหมจรรย์ที่กลางวิหารศักดิ์สิทธิ์ของอะธีน่า

 จากเหตุการณ์นี้ทำให้เมดูซ่าไม่สามารถอยู่ในวิหารนี้ได้อีกต่อไป และเธอยังถูกขับไล่ออกจากเมืองอีกด้วย แต่ก่อนที่จะถูกขับไล่ อะธีน่าได้สาปให้เธอกลายเป็นปีศาจครึ่งคนครึ่งงู จากผิวพรรณที่ขาวเนียน กลับกลายเป็นผิวแห้งเหี่ยว และมีเกล็ดขึ้นคล้ายกับงู หน้าตาตกสะเก็ด มีเขี้ยวออกมาคล้ายงู แต่สิ่งที่น่าสงสารที่สุดก็คือ ผมของเธอจากที่สวยราวกับเส้นไหมทอง กลายเป็นงูนับพันเลื้อยยั้วเยี้ยเต็มหัว แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะอะธีน่าก็ยังมีความกังวลเรื่องความสวยของเมดูซ่าอยู่ เธอจึงสาปคำสาบอีกข้อหนึ่งให้กับเมดูซ่า นั่นก็คือ หากใครมองไปที่ใบหน้าของเมดูซ่าแล้วจ้องไปที่ดวงตาของเธอ คนนั้นก็จะถูกสาปให้กลายเป็นหิน !

ข่าวของเมดูซ่าที่ถูกสาปให้เป็นปีศาจงูเริ่มแพร่กระจายออกไปยังชาวบ้าน และยังถูกปั่นกระแสให้เธอดูน่ากลัวมากขึ้น จากที่เธอมีหน้าตาที่น่าเกลียดน่ากลัวอยู่แล้ว ก็มีคนไปพูดว่า เธอทำผิดมหันต์จึงถูกสาปให้เป็นปีศาจงู เธอชั่วร้ายอย่างนั้น เธอชั่วร้ายอย่างนี้ จึงทำให้เธอถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย และยังถูกปล่อยข่าวอีกว่า ถ้าใครมองหน้าเมดูซ่าจะถูกสาปให้กลายเป็นหิน จนทำให้คนที่ไม่รู้จักตัวตนของเธอจริง ๆ ยิ่งเข้าใจว่าเธอน่ากลัวและชั่วร้ายมาก หลังจากที่เมดูซ่าได้ยินข่าวแบบนั้น เธอก็เริ่มถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากเมือง จนสุดท้ายเธอต้องเนรเทศตัวเองไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครพบเจอเธอได้อีก
จนวันหนึ่ง “เพอร์ซีอุส” (Perseus) ลูกครึ่งเทพของซุส และยังเป็นญาติห่าง ๆ กับเทพีอะธีน่า ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเหล่าเทพเพื่อไปฆ่าเมดูซ่า และจะเอาหัวเมดูซ่าไปถวายให้ราชา เทพีอะธีน่าที่แทบจะลืมเมดูซ่าไปแล้ว เมื่อเห็นว่าจะมีคนไปฆ่าเมดูซ่า ซึ่งเธอเองก็เคยปรารถนาเอาไว้อยู่แล้ว เธอจึงได้ยื่นมือเข้าไปช่วย และมอบอาวุธให้กับเพอร์ซีอุส ซึ่งก็คือโล่ เพราะเนื่องจากไม่สามารถมองหน้าเมดูซ่าโดยตรงได้ อะธีน่าจึงให้เพอร์ซีอุสใช้โล่เป็นตัวสะท้อนแทนดวงตาเพื่อดูว่าเมดูซ่าอยู่ตรงไหน จนเพอร์ซีอุสสามารถฆ่าและเอาหัวของเมดูซ่ากลับมาได้สำเร็จ
ถึงแม้ว่าเมดูซ่าถูกเพอร์ซีอุสฆ่าตายไป แต่ชะตากรรมของเธอก็ยังไม่หมดแค่นั้น หัวของเธอยังถูกนำไปใช้สาปสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ให้กลายเป็นหิน หัวของเธอถูกนำไปใช้งานอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายหัวของเธอก็ได้ไปตกอยู่กับอะธีน่า และอะธีน่าก็ได้นำหัวของเมดูซ่าไปประดับไว้ที่โล่ของเธอเอง เพื่อความน่าเกรงขามและเป็นการบ่งบอกว่าเธอเป็นคนช่วยให้เพอร์ซีอุสฆ่าเมดูซ่าได้สำเร็จ

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: แสร์, zerotype
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เศร้า นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติ เสียชีวิตแล้วที่ไทย หลังดื่มเหล้าเถื่อนปลอมที่ลาวรัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธเทพใส่ยูเครนแล้วนางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจเลขเด็ด "เสือตกถัง พลังเงินดี" งวด 1 ธันวาคม 67..รีบเลย ช้าอดหวยหมดแน่!ปริศนาในภาพเขียน Salvator Mundi โดย Leonardo da Vinciผีป่าอาถรรพ์:"ผีป่าทมิฬ""ฟิล์มแรปหลอมในอาหาร อันตรายหรือไม่? คำตอบจากบริษัทดัง!"วันนี้เป็นต้นไป ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นสะพานข้ามแยก 24 แห่งหนุ่ม"สัมภาษณ์งานออนไลน์"ไม่ได้งาน แถมเสียเงินแสน!ศาล ICC ออกหมายจับ ผู้นำอิสราเอลแล้ว"ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
อีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"เศร้า นักท่องเที่ยวสาวต่างชาติ เสียชีวิตแล้วที่ไทย หลังดื่มเหล้าเถื่อนปลอมที่ลาววันนี้เป็นต้นไป ห้ามรถบรรทุก 10 ล้อ ขึ้นสะพานข้ามแยก 24 แห่ง"ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอมเลขเด็ด "เสือตกถัง พลังเงินดี" งวด 1 ธันวาคม 67..รีบเลย ช้าอดหวยหมดแน่!
ประโยชน์ของชาเขียวโครงการช่วยเหลือให้เกิดสภาพคล่องของเศรษฐกิจรู้หรือไม่? แก๊งคอลเซ็นเตอร์มักใช้ข้อมูลอะไรหลอกลวงคุณแผนที่ที่เก่าแก่ที่สุดของยุโรปอายุ 4,000 ปี
ตั้งกระทู้ใหม่