ผิดปกติหรือไม่? “ประจำเดือนสีดำ มาน้อย ”
การที่เลือดประจำเดือนมีสีคล้ำหรือสีดำนั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ หรือเป็นโรคอะไรแต่อย่างใด เพราะการที่ประจำเดือนมีสีคล้ำหรือสีดำนั้น อาจเกิดจากการที่เลือดประจำเดือนไหลออกมาแล้วไปติดค้างอยู่ที่บริเวณช่องคลอดนานเกินไป จนทำให้เลือดสีแดงเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่ประจำเดือนเริ่มมาใหม่ ๆ หรือช่วงที่ประจำเดือนใกล้จะหมด โดยเลือดจะค่อย ๆ ซึมออกมาช้า ๆ และติดค้างอยู่บริเวณช่องคลอดเป็นเวลานาน ซึ่งกว่าจะไหลออกมาเลือดก็จะกลายเป็นสีคล้ำหรือสีดำ
ทั้งนี้สาว ๆ หลายคนยังมีความเข้าใจผิด ๆ ว่าเลือดประจำเดือนนั้นคือเลือดเสีย จึงเป็นสาเหตุให้กลัวว่าเลือดสีดำที่ออกมานั้นจะเป็นเลือดที่เกิดจากร่างกายมีความผิดปกติ ดังนั้นจึงอยากให้สาว ๆ ทำความเข้าใจใหม่ว่ามดลูกมีหน้าที่สืบพันธุ์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ดังนั้นเลือดประจำเดือนจึงไม่ใช่เลือดเสียแต่เป็นเลือดที่ลอกหลุดออกมาจากเยื่อบุมดลูกที่ไม่ได้รับการปฏิสนธิ และการที่เลือดมีสีดำคล้ำก็เป็นเพราะว่าเลือดตกค้างอยู่บริเวณช่องคลอดเป็นเวลานานเท่านั้นเอง
โดยปกติสีของประจำเดือนในผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกัน เช่น สีแดงคล้ำ สีแดงสด สีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม สีน้ำตาลดำ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ได้แก่ จำนวนวันของประจำเดือน ความหนาของเยื่อบุโพรงมดลูก ภาวะตั้งครรภ์ ปริมาณของประจำเดือน
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเลือดประจำเดือนเกิดจากอะไร ?
เลือดประจำเดือนคือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกออกมาซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนจากรังไข่ในแต่ละรอบเดือน เมื่อมีไข่ตกแต่ไม่ได้รับการผสมกับอสุจิและฝังตัว ภายในสองสัปดาห์ก็จะเกิดการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาเป็นประจำเดือน
เลือดประจำเดือนสีแดงคล้ำหรือสีแดงสด
เป็นภาวะปกติในช่วงสามวันแรกของประจำเดือน เป็นช่วงที่เลือดประจำเดือนออกมามาก ในช่วงนี้จะมีอาการปวดท้องประจำเดือนร่วมด้วย เนื่องจากมดลูกมีการหดรัดตัวเพื่อให้เลือดหยุดซึ่งเป็นกลไกตามธรรมชาติเพื่อไม่ให้ร่างกายเสียเลือดมากเกินไป
เลือดประจำเดือนสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม หรือน้ำตาลดำ
มักพบในช่วงวันแรกของประจำเดือนหรือวันท้าย ๆ ของประจำเดือน เนื่องจากเลือดสีแดงปกติและมีปริมาณน้อยถูกขังไว้ในมดลูกหรือช่องคลอดเป็นระยะเวลาหนึ่งจึงเกิดการเปลี่ยนสีเป็นสีน้ำตาล
กรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกหนา เลือดประจำเดือนก็จะมามากและเป็นสีแดงสดหรือแดงคล้ำ ประมาณ 5-7 วัน ในกรณีที่เยื่อบุโพรงมดลูกบาง เช่น รับประทานยาคุมกำเนิด ประจำเดือนจะมาไม่มากอาจจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนหรือเข้ม อาจจะมีเลือดสีแดงสดออกปริมาณไม่มากซึ่งถือเป็นภาวะปกติ กรณีที่ไม่ได้คุมกำเนิดและเลือดประจำเดือนมาน้อยหรือเป็นแค่สีน้ำตาลควรปรึกษาแพทย์เนื่องจากอาจเป็นภาวะเลือดออกในช่วงแรกของการตั้งครรภ์หรือความผิดปกติของฮอร์โมน
สีประจำเดือนนั้น ผู้หญิงหลายคนมักมีคำถามว่า ประจำเดือนที่มานั้น บางครั้งเป็นสีแดงสด บางครั้งสีคล้ำเข้มไปจนถึงเกือบดำ หรือบางทีมีลิ่มเลือดออกมาด้วย สีและลักษณะเหล่านี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แล้วบ่งบอกถึงอันตรายอะไรหรือไม่?
โดยทั่วไปแล้ว ประจำเดือนที่ “ปกติ” สามารถมีสีที่ต่างกันได้ ไม่ว่าจะเป็น สีแดงสด แดงเข้ม น้ำตาล ไปจนถึงสีคล้ำเกือบดำ โดยเลือดที่ออกมาใหม่ ๆ จะเป็นสีแดงสด แต่บางครั้งเมื่อเลือดออกมาแล้ว ยังตกค้างอยู่ในโพรงมดลูกหรือช่องคลอดก่อนจะออกมาสู่ภายนอก จากสีแดงสดก็จะเริ่มคล้ำ จนกลายเป็นสีน้ำตาลหรือดำได้ สิ่งที่คุณผู้หญิงควรกังวล ไม่ได้อยู่ที่สีของประจำเดือน แต่ให้สังเกตอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่บ่งชี้ถึงบางภาวะหรือโรคต่าง ๆ เช่น
- มีเลือดออก ร่วมกับประวัติประจำเดือนขาด มาช้า หรือมาน้อยกว่าปกติ ให้สงสัยว่าอาจตั้งครรภ์ หากตั้งครรภ์แล้วมีเลือดออก ไม่ว่าจะเป็นสีอะไร ควรมาพบแพทย์
- มีเลือดออกสีแดงสด หรือสีคล้ำ มาไม่ตรงรอบประจำเดือน ปริมาณไม่มาก มีอาการตกขาวร่วมด้วย อาจมีการติดเชื้อที่ปากมดลูก หรือมดลูก
- เลือดออกเป็นสีแดงสด ร่วมกับประจำเดือนมามาก มานานกว่าปกติ หากเป็นแบบนี้หลาย ๆ เดือน ให้ระวังอาจมีติ่งเนื้อหรือเนื้องอกในมดลูก
- เลือดเป็นสีแดงจาง ๆ ปริมาณน้อย กะปริดกะปรอย อาจเกิดจากการใช้ยาคุมกำเนิด วัยใกล้หมดประจำเดือน หรือเป็นเลือดออกช่วงกลางรอบเดือนที่เกิดจากการมีไข่ตกได้
- เลือดเป็นสีเทา สีปนเขียว ๆ ข้น ร่วมกับตกขาวมาก มีปวดท้องน้อย หรือมีไข้ร่วมด้วย เป็นอาการบ่งบอกถึงการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
อย่างไรก็ตาม หากมีเลือดออกผิดปกติ ร่วมกับอาการต่าง ๆ ที่กล่าวไป อย่าลังเลใจ ให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาต่อไป
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลเวชธานี โทร 02-734-0000 ต่อ 3200