หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นิยายเรื่อง ปิ๊งรักคุณพ่อลูกติด บทที่ 3

เนื้อหาโดย lalaliilaoshi

ปิ๊งรักคุณพ่อลูกติด

ผ้ายับที่พับไว้ เขียน

บทที่ 3

 

----- (บูม)

ผมตื่นตั้งแต่ตี 5 ทุกวันเพื่อลุกขึ้นมาจัดการธุระทุกอย่างให้เสร็จทันเวลาพาลูกไปโรงเรียน อย่างที่รู้กันว่านิ้งมันไม่เอาอะไร กลางคืนไปเมาไม่อยู่ร้านเหล้า กลางวันก็นอนทั้งวัน วันไปมันไม่เมาฟ้าฝนคงถล่มหนัก แต่ผมก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเสื้อผ้ามัน มันจัดการของตัวเอง กับข้าวผมทำอะไรมันก็กินไม่อยากกินก็ออกไปซื้อเอาเอง ขอแค่อย่าสร้างปัญหาให้ผมกับลูกแค่นั้น อยากจะทำอะไร อยากอยู่ยังไงก็เชิญ

“เสร็จหรือยังคะพ่อ” น้องแบมที่นั่งรออยู่หน้าบ้านเดินเข้ามาหาผมที่ในครัว

“เสร็จแล้วค่ะ งั้นเดี๋ยวเราไปเรียกคุณครูกันนะคะ” คุณครูเป็นเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายมาเช่าอยู่บ้านป้าของผม เห็นว่าเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ก็เลยช่วยเหลือเธอบ้างตามที่ป้าสั่ง ล่าสุดก็ไปทำตัวล้ำเส้นขอเบอร์เธอเข้า ป่านนี้คงเข้าใจผิดคิดว่าผมหัวงูไปแล้วแน่ๆ จะทำอะไรผมเลยต้องมีลูกไปด้วย แต่ผมไม่ได้มีเจตนาไม่ดีจริงๆ นะ ผมแค่เห็นว่าเป็นผู้หญิงเพราะผมเองก็มีลูกสาว ถ้าวันหนึ่งน้องแบมโตขึ้นแล้วต้องใช้ชีวิตแบบนี้ ผมก็คงห่วงและอยากให้ลูกไปเจอคนดีดี สังคมดีดี แล้วผมก็ดันเชื่อว่าการทำดีจะทำให้เราได้พบเจอสิ่งดีดี

“ครูคะ เสร็จหรือยังคะ” น้องแบมเป็นคนส่งเสียงเรียก เพราะผมไม่กล้า ยังจำหน้าและน้ำเสียงของครูไอรินตอนที่ปฏิเสธไม่ให้เบอร์ได้อยู่เลย เธอทำหน้าเหมือนผมเป็นไอ้พ่อลูกติดหัวงูยังไงยังงั้น บ้านของเราอยู่ติดกันแค่รั้วกั้น แถมตรงกลางยังมีประตูเชื่อมติดกันให้เดินไปมาหากันได้สะดวก สมัยที่ป้าลีอยู่บ้านหลังนี้ ท่านเห่อหลานไปๆ มาๆ อยู่ทั้งวัน แต่พักหลังท่านทนดูพฤติกรรมของนิ้งมันไม่ไหวก็เลยย้ายหนีไปอยู่ปากซอย

“ครูคะ...”

“พ่อว่าครูน่าจะไปแล้วล่ะ บ้านก็ปิดเงียบเลย” ผมเห็นว่าน้องแบมเรียกอยู่นานแล้วไม่มีเสียงตอบรับ หรือปฏิกิริยาโต้ตอบอะไรเลย ครูเธอคงกลัวผมจนเดินไปปากซอยแล้ว เฮ้อ...ไอ้บูมนะไอ้บูม เมื่อรู้อย่างนั้นแล้วเราสองคนพ่อลูกก็พากันขึ้นรถไปโรงเรียนตามปกติ แต่เมื่อขับมาได้สักกลางซอย ก็เห็นร่างเล็กๆ ของครูไอรินเดินอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่ริมถนน

“พ่อ...นั่นไงคุณครู” น้องแบมตะโกนลั่นรถอย่างดีอกดีใจ

“เอ่อ...” จะบอกว่าไม่ต้องรับเธอไปด้วย ลูกผมก็คงมองว่าผมใจไม้ไส้ระกำแย่ แต่ไอ้ครั้นจะจอดรับก็กลัวครูเขาจะยังกลัวผมอยู่ เอาไงดีวะ

“พ่อคะ รับครูไปด้วยนะคะ” น้องแบมหันมาอ้อนวอนเสียงใส เอาวะจอดก็จอด ผมตัดสินใจชะลอรถจนกระทั่งเทียบข้างๆ ครูไอริน ก่อนจะเปิดกระจกให้ลูกสาวเป็นคนทักทาย ผมไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะไม่อยากทำให้เธอกลัวผมไปมากกว่านี้

“ครูขา” ลูกสาวตัวน้อยของผมส่งเสียงเรียกหวานจ๋อย คนที่เดินอยู่บนถนนหันมามองด้วยสีหน้าตกใจ ใบหน้าขาวนวลเต็มไปด้วยเหงื่อ ก็แหงล่ะบ้านอยู่แทบจะสุดซอยเดินมาถึงกลางซอยขนาดนี้

“ไปโรงเรียนแต่เช้าเลยนะคะ” ครูไอรินหันมาทำหน้าตกใจพร้อมกับนิ่งไปสัก 3 วินาทีก่อนจะยิ้มเจื่อนๆ แล้วตอบน้องแบม

“ไปด้วยกันไหมคะคุณครู” น้องแบมถามต่อ

“เอ่อ....” ผมมองดูร่างเล็กๆ ที่ในเวลานี้ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถ้ารอให้ตอบก็คงตอบว่าไม่ ดูจากอาการแล้วผมเดาได้เลยว่ากำลังหาข้ออ้างที่จะเดินไปปากซอยเอง

“ไกลนะครับครูกว่าจะถึงปากซอย ถ้ายังไงไปลงที่ปากซอยก็ได้อย่างน้อยถึงตรงนั้นก็ไม่ต้องเดินแล้ว” ผมตัดสินใจชิงพูดขึ้นก่อน เพราะถ้ารอคำตอบจากครู ก็คงได้มาแค่คำปฏิเสธ เธอคงกลัวผมไปแล้วจริงๆ

“งะ งั้นก็ได้ค่ะ” และก็เป็นไปตามที่ตั้งใจ ครูไอรินยอมขึ้นรถมากับเราสองพ่อลูก ระหว่างทางน้องแบมก็ชวนครูไอรินคุยอย่างสนุกสนาน ครูเองก็คงเพลินจนลืมว่ามันถึงปากซอยแล้ว ผมเองเห็นว่าทั้งคู่กำลังคุยกันอย่างถูกคอก็ไม่อยากจะขัด อีกอย่างก็ตั้งใจจะไปส่งครูที่โรงเรียนพร้อมลูกสาวอยู่แล้วก็เลย เลยตามเลย

“โอเค ถึงแล้วค่ะ” ผมจอดรถตรงที่ประจำก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยจากตัวแล้วหันไปบอกกับสองสาวที่กำลังหัวเราะชอบใจอะไรสักอย่างอยู่

“เอ่อ...ไอรินลืมไปเลยว่าจะลงหน้าปากซอย” ครูหันมาบอกกับผมด้วยสีหน้าเกรงใจ ถึงเธอไม่บอกผมก็รู้ว่าเธอลืมไปแล้ว ก็น้องแบมขี้โม้พาครูคุยจนลืมน่ะสิ

“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถือว่าประหยัดค่าวินไปก็แล้วกัน” ผมบอกกับครูด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขรึม ผมไม่รู้ว่าควรจะต้องวางตัวยังไง ครูถึงจะไม่กลัวผม

“เย็นนี้ครูกลับพร้อมกันไหมคะ” น้องแบมหันไปถามคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง

“เอ่อ....คือว่า”

“ถ้าครูจะกลับพร้อมกันก็มารอพร้อมน้องแบมนะครับ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไร” ผมไม่อยากให้ครูต้องอึดอัดกับการแก้ตัว เพราะเธอเองก็โกหกไม่เก่ง แก้ตัวก็ไม่เก่ง ดูจะเป็นคนขี้เกรงใจ และก็ไม่ถนัดที่จะปฏิเสธเท่าไหร่นัก ไอ้ผมก็ดันไปทำให้เธอกลัวซะอีก ก็อย่างว่าผู้ชายหุ่นทรงแบบนี้เจอในที่เปลี่ยวๆ ใครก็คงคิดว่าไปดักปล้น ดักฉุดเขาแน่ๆ

“ขอบคุณนะคะ”

“ครับ” ผมไม่อยากพูดกับเธอสักเท่าไหร่ เพราะมันจะยิ่งทำให้ครูเข้าใจว่าผมคิดอะไรเกินเลย ซึ่งจริงๆ แล้วผมไม่ได้มีเจตนาแบบนั้นเลย ก็แค่อยากช่วยเหลือเพื่อนบ้านเท่านั้น ตั้งแต่มีน้องแบมผมก็ไม่เคยคิดจะมีใคร ไม่ใช่เพราะแก้ม เพราะน้อง แต่เพราะผมต้องการมอบความรักให้ผู้หญิงแค่สองคน นั่นคือแม่ และลูกสาวของผม แค่สองคนนี้เท่านั้น ตลอดเวลา 5 ปีผมไม่ได้คิดเรื่องที่จะหาใครมาในชีวิตนี้เลย ไม่เคยมองใคร แม้แต่นิ้งที่เป็นแม่ของลูก ผมก็ยังไม่เคยสนใจ

อ่านต่อ https://www.tunwalai.com/story/326250

เนื้อหาโดย: lalaliilaoshi
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
lalaliilaoshi's profile


โพสท์โดย: lalaliilaoshi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
แฟนพันธุ์แท้ Hello Kitty รับไม่ได้ ส่งข้อความให้แบนคนจีนที่ซื้อสินค้าไปหมด18 บอส 'ดิไอคอน' ถูกดีเอสไอแจ้งข้อหาผิดแชร์ลูกโซ่-กฎหมายขายตรงนักแสดงดัง แจ้งข่าว ติดเชื้อ “HIV” ก่อนโพสต์สุดเศร้า
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
จอนนี่ โซมาลี Youtuber คนดัง ก่อวีรกรรมป่วน! ชาวเน็ตแห่ #แบนจอนนี่โซมาลีอุ๊งอิ๊งเดินหน้าเอ็มโอยู44!ลั่นไม่เกี่ยวกับ'เกาะกูด'
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ผีหน้ารั้วตำนาน เขาอกทะลุ จังหวัดพัทลุงเมื่อข้าหลับตาต้องมีคนจากโลกพร่างพราวกลางใจ
ตั้งกระทู้ใหม่