FTX ยื่นล้มละลาย แล้วไงต่อ? เรื่องลับ ลวง พราง กับการดูดเงินออกครั้งสุดท้าย
FTX ยื่นล้มละลาย แล้วไงต่อ?
เรื่องลับ ลวง พราง กับการดูดเงินออกครั้งสุดท้าย
. . .
บทความนี้ ต่อจากเรื่อง “ความ เก๋า/โหด/เหี้ยม ของ CZ” (10 พย)
การยุติภาคแรกของสงคราม ระหว่าง CZ (เจ้าของ Binance) และ SBF (เจ้าของ FTX/Alameda) ตอนนั้นวิเคราะห์ว่า
“CZ บีบให้ SBF ยอมจำนน แบบมีทางเลือกแค่สองทาง
คือ ถ้าไม่ยอมเปิดเผยของมูลหรือขาย FTX ให้ CZ
ก็ยอมเข้ากระบวนการสืบค้นทางกฎหมายล้มละลาย เสี่ยงต่อคุกตะราง”
SBF ไม่มีทางเลือก นอกจากทางแรก คือพยายามทำดิลขายกิจการ FTX ทั้งหมดให้กับ CZ
หลังจากประกาศไป ได้เห็น online twitter poll คนส่วนใหญ่ (60%) คิดว่า ดิลจะผ่าน
แต่ส่วนตัวไม่คิดเช่นนั้น
“(10 พย) มีโอกาสที่ดิล Binance-FTX จะล่มได้ เพราะ
- CZ สามารถเห็นข้อมูลของ FTX แล้วยกเลิกดิลได้
- CZ คงไม่อยากเอาตัวไปเสี่ยงกับทางการเรื่อง กม ผูกขาด
- FTX มี ผถห สถาบันจำนวนมาก และคงไม่ยอมถ้าจะขายขาดทุนหนัก (ราคาขายล่าสุดที่ $32b ราคาปัจจุบัน น่าจะลดลง 70-99%)
- ลูกค้า FTX ส่วนมาก ก็ย้ายไป Binance อยู่แล้ว เทียบจาก fund flow เข้า ออก ทั้งสองบริษัท”
และดิลที่ล่มจริงๆ และเร็วกว่าที่คาดไว้มาก
. . .
#แต่ที่ลึกกว่านั้น
ย้อนไปก่อนหน้าที่ดิลจะเกิด
SBF ตั้งแรงรับสู้ซื้อ 10m $FTT ที่ราคา $14 ($140m Wall) ซึ่งน่าจะเป็นด่านสุดท้ายแล้ว
กำแพงนี้ ไม่ต่างกับ Wall Sheena ใน Attach on Titan (สำหรับน้องๆ Gen Z) หรือ กำแพงเมืองเซียงเอี้ยง ในมังกรหยก (สำหรับเพื่อนๆ Gen X/Y)
พอ $140m wall โดนโจมตี มีโอกาสแตก ก็มี ทวิตของ SBF และ CZ ออกมา ประกาศพักรบ เรื่องดิล ทำให้ราคา $FTT กลับขึ้นมาแรงเกือบ $20 (+40%) และกองพลที่ SBF ตั้งฐานไว้ที่ $14 ก็ทยอยลดลง
แม้ว่า ดิลนี้จะประกาศใน public แต่จริงๆแล้ว ทั้ง SBF และ CZ รู้อยู่ก่อนแล้วว่า “ดิลไม่มีทางเกิด”
ส่ิงที่ SBF ต้องการซื้อ คือการหยุดแรงขายชั่วคราว เพื่อรักษาด่านสุดท้าย และ “ซื้อเวลาอีกหลายวันหรืออาจจะสัปดาห์” เพื่อเคลียร์หลังบ้าน และสามารถถอนกำลังพล $140m มา (ปลด Liquidity ของตัวเอง)
ไม่รวมถึงอาจจะการทำกำไรจาก (leverage long) ทันทีที่ข่าวออกมา และบาวรุนแรงทั้งตลาด
ส่วน CZ ในเมื่อเป็นคนเปิดฉากโจมตี $FTT และ FTX เองจนย่อยยับแต่แรก ย่อมไม่ต้องการซื้อกิจการทั้งหมด (fully acquired) ตามที่ประกาศในทวิตอยู่แล้ว น่าจะเป็นการเล่นบทคนดี (white knight) เข้ามาช่วยเหลือ ทั้งๆที่เป็นคนโจมตีแต่แรก
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นถัดมา โหดร้ายกว่าเดิม
ทันทีที่ SBF ทยอยลดกองพลออกจาก $140m ภายในไม่กี่ชั่วโมง เกิดแรงโจมตีทะลุทุกแนว ลงไปล้างพอร์ต (trigger liquidation) ใน defi ที $7 ลงไปต่ำสุด $2.7
เท่ากับว่า $FTT ลงจาก $20 มา $2.7 ในไม่ถึง 3 ชั่วโมง
Wall Sheena หรือ กำแพงเมืองเซียงเอี้ยง แตกเรียบร้อยแล้ว!
. . .
#แหล่งข่าวไม่เปิดเผย
ถ้า $FTT แตก เท่ากับว่า SBF ไม่จำเป็นต้องเสียทรัพยากร มารักษาราคา $FTT อีกต่อไป สามารถนำสภาพคล่องที่เหลือมาจัดการกับปัญหาภายในของ FTX ได้ **ในขณะที่ยังปิดการถอนอยู่**
ตราบใดที่ ดิลระหว่าง Binance กับ FTX ยังอยู่ในช่วงการศึกษาอยู่ (DD, due diligence) เท่ากับว่า บรรดาเจ้าหนี้ต่างๆยังมีความหวัง และ SBF ยังสามารถซื้อเวลาต่อไปได้ โยกเงินไปมาได้
ยิ่ง DD นานเท่าไหร่ SBF ยิ่งได้เปรียบ
แต่ CZ ย่อมไม่ปล่อยเช่นนั้น
ปกติการ DD ซื้อกิจการบริษัทขนาด 1 ล้านล้านบาท ต้องดิลกับผู้ถือหุ้นหลายสิบราย ใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน
แต่ CZ ใช้เวลา “ไม่กี่ชั่วโมง!”
แต่ “เพื่อไม่ให้ดูเร็วเกินไป” จึงเริ่มจากมี ข่าวปล่อยจาก “แหล่งข่าวไม่เปิดเผย” และลงข่าวใน CoinDesk เจ้าเก่า (ที่ออกมาเปิดโปงงบของ Alameda) ว่า Binance จะถอยจากดิลจาก FTX
ทำให้ราคา $FTT ที่ฟื้นจาก $2.7 มาถึง $6.5 (+250%) ลงไปที่ $1 (-85%)
และ CZ ทวิตว่า “Exchange ไม่ควรเอาเงินลูกค้ามาใช้ และไม่ควรเอาเหรียญตัวเองมาค้ำประกัน”
และวันต่อมา Binance ถึงประกาศเป็นทางการออกมาว่าดิลไม่ได้ไปต่อ
แต่ทุกคนรู้กันหมดจาก “แหล่งข่าวไม่เปิดเผย” นานแล้ว
. . .
#ดูดเงินครั้งสุดท้าย
กลับไปจุดเดิมที่เคยวิเคราะห์ไว้ (10 พย) ว่า “ถ้า FTX ไม่สามารถขายได้ ปลายทางก็คือต้อง เข้ากระบวนการสืบค้นทางกฎหมายล้มละลาย (Chapter 11)”
Chapter 11 แปลว่า ทุกอย่างใน FTX จะถูก “แช่แข็ง”ไว้ ให้ศาลเข้ามาเป็นคนกลางดูแลไกล่เกลี่ย ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายปี
ปัญหาตอนนี้คือ ระหว่างวันนั้น จนถึงวันที่ SBF จะตัดสินใจเข้าสู่ Chapter11
นั่นคือ “ช่วงเวลาดูดเงินออกครั้งสุดท้าย”
นอกจากเจ้าของ พนักงาน ผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ พันธมิตร แล้ว ยังมีผู้ฝากที่ยังติดค้างอยู่ใน FTX อีกกว่าแสนคน แล้วใครจะได้สิทธิก่อน
ถัดมาอีก 1 วัน SBF ออกทวิตขอโทษ พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น (อย่างมากที่สุดน่าจะเป็น half-truth) และบอกด้วยว่า FTX สาขา US ซึ่งเป็นคนละบริษัทกัน ยังมีมูลค่าอยู่
ถัดจากนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมง จู่ๆก็เปิดให้มีการถอนเงินออกจาก FTX ให้ “รายย่อย” ได้อีก หลายล้าน$ แต่ก็เหมือนปลดล็อคให้มีการโอนออกของรายใหญ่ตามน้ำไปด้วยเหมือนกัน ก่อนจะปิดการถอน
ทุกคนนึกว่านี่เป็น การถอนเงินครั้งสุดท้ายแล้ว แต่ไม่ใช่
จู่ๆมีคนค้นพบช่องทางโปร 11.11 มา คือ แม้ว่าจะปิดการถอนจากผู้ฝากทั่วโลกไปแล้ว แต่ประชากรชาว Bahamas ที่เป็นที่ตั้งของสำนักงาน FTX ยังสามารถถอนเงินออกมาได้เรื่อยๆ
จึงเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น คือ มีนักลงทุน “ติดสินบน” พนักงาน FTX ที่ Bahamas ให้ถอนเงินออกมา โดยใช้ช่องทางฟอกเงิน NFT บน FTX Marketplace
ทำให้จู่ๆ NFT บน FTX Marketplace ที่มอดไปแล้ว มีราคาซื้อขายพุ่งพรวด และมีคนนำเงินออกไปทางช่องทางนี้ได้หลายล้าน$
เพราะเงินจำนวนมหาศาล อาจจะมีความพยายามดูดเงินออกอีก โดยเฉพาะ "คนที่รู้ระบบด้านใน"
และวันที่เขียนอยู่นี้ ก็เกิดการ hack ดูดเงินใน FTX ออกมาอีกกว่า $400m
คนที่มีโอกาสทำได้มากที่สุด น่าจะเป็นคนในนั่นแหละ
. . .
#บทที่11
อดีตเป็นสิ่งที่จบไปแล้ว ทำได้แค่ใช้เป็นกรณีศึกษา และบทเรียนในอนาคต
แล้วอนาคตจะเป็นอย่างไร?
1/ Chapter11 ในมุมดีคือ ทำให้หยุดการ “ดุดเงินออกจาก FTX” จากทุกฝ่าย และมีตัวกลางที่แท้จริงเข้ามาบริหารจัดการ
2/ Chapter11 สามารถ “ชำแหละ” FTX ออกเป็นส่วนๆ แล้วแยกขายได้ ไม่ต้องซื้อเหมาเข่งเหมือนดิล Binance-FTX แต่แรก
3/ ส่ิงที่แบ่งขาย รวมถึง ลูกค้า แบรนด์ ระบบ เหรียญที่มีอยู่ ใบอนุญาติ (ซึ่งอย่างหลังน่าจะเป็น one piece ที่ CZ ต้องการจริงๆ)
4/ คนที่มีเงินฝากและติดอยู่ใน FTX ก็มีโอกาสได้คืน แต่จะได้มั้ย หรือเท่าไหร่ กว่าก็รู้ก็ หลังจากกระบวนการส้ินสุด ซึ่งอาจจะกินเวลา “หลายปี”
สิ่งที่น่าสนใจคือ SBF ได้ลาออกจาก CEO FTX แล้ว และคนใหม่ที่มาแทนไม่ใช่ใครอื่น คือ John J. Ray III อดีตมือปรับโครงสร้างของ ENRON ในอดีต
ENRON เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่อันดับ 7 ใน US ในเวลานั้น แต่มีการตกแต่งบัญชี จนจับได้แและบริษัทล้มละลาย หุ้น ENRON จาก Bluechip ก็ลงมาเหลือ $0
(เรื่องความเสี่ยงของ ENRON มีเขียนไว้ในบทความ (16 ตค) “คำแนะนำ การทยอยลงทุนแต่ละเดือน” เรื่องแนะนำให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยง)
. . .
#รู้ว่าไม่รู้อะไร
สุดท้ายยังมีความเห็นแบบเดิม
ถ้าสงครามระหว่าง CZ vs SBF คือบทหนึ่ง ตอนนี้กำลังสู่บทต่อๆไป
“(10 พย) หลายคนคิดว่าจบแล้ว แต่จริงๆอาจจะไม่จบ
ตอนนี้ เสมือนว่า ทั้ง FTX และ Alameda ล้มละลายแล้ว แต่มีหนี้สินกับใครเท่าไหร่ ไม่มีใครทราบ ยังมีคริปโตที่ lock อยู่ ที่รอการขายอีกเท่าไหร่?
คริปโตทั้งตลาด น่าจะอยู่ในภาวะเสี่ยงสูงมาก ⚠️⚠️⚠️⚠️”
การลงทุนในช่วงที่มีความไม่แน่นอนสูง บางครั้งเราก็เหมือนคนตาบอดคลำช้าง สิ่งที่รู้อาจเป็นเพียงเสี้ยวเดียวจากทั้งหมด ที่ตรงกับอคติความเชื่อเดิมของเราแค่นั้น
ในโลกการลงทุน สอนว่า
“รู้ว่า คนอื่นไม่รู้อะไร เพื่อสร้างกำไร”
แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ
“รู้ว่า เราไม่รู้อะไร เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย”
เป็นกำลังใจให้กับผู้เสียหายในเหตุการณ์นี้ และขอให้ลงทุนอย่างมีสติครับ