เปิดความจริงดีลทรูดีแทค ที่ "สารี" ไม่ได้พูด
ช่วงระหว่างกระบวนการรวมธุรกิจทรูและดีแทค มักจะได้เห็นบทบาทของเลขาธิการสภาองค์กรของผู้บริโภค สารี อ๋องสมหวัง ออกมาร่วมคัดค้านดีลนี้กับพวกพ้องอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง ทั้งการขโมยเอกสารทางราชการไปเผยแพร่ก่อนที่หน่วยงานรับผิดชอบจะได้รับเอกสาร ตลอดจนการรณรงค์ให้ผู้บริโภคย้ายออกจากเครือข่ายมือถือของสองค่ายที่กำลังจะรวมกิจการกัน แม้จะไม่กล้าเอ่ยปากตรง ๆ ว่าให้ไปย้ายอยู่ค่ายใด แต่ก็ชัดเจนว่ามีอยู่ค่ายเดียว เนื่องจากสารีและพวกพ้องพูดมาตลอดว่า ตลาดโทรคมบ้านเรามีเพียงแค่ 3 ราย ในเมื่อเชิญชวนให้ย้ายออกจากสองราย ก็ย่อมหมายความว่าให้ไปอยู่รายที่เหลือ เรียกว่า คำพูดพันตอตัวเองอย่างปฏิเสธไม่ได้
ขณะที่เรียกร้องให้ผู้บริโภคย้ายไปอยู่ค่ายที่ตัวเองสนับสนุน ก็ยังสร้างเรื่องโกหกกล่าวหาอีกสองค่ายว่า หากควบรวมกันแล้ว จะทอดทิ้งคนในพื้นที่ห่างไกลไว้ข้างหลัง เพราะจะมุ่งพัฒนาแต่ในเขตเมือง ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการจ่ายค่าบริการแพง แล้วยังทำให้ตลาดไม่เกิดการแข่งขัน
สิ่งที่สารีและพวกพ้องนำมากล่าวอ้างมานั้น ในมุมของปฏิบัติการ IO (Information Operations) เรียกว่าเป็นกระบวนการลวงโลก โกหกคำโต ยกแต่ข้อมูลด้านลบมาดึงดูดให้คนหลงเชื่อ สร้าง Fake News หวังผลเพื่อเอื้อประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มที่ตนสนับสนุน ซึ่งหากผูู้ได้รับข้อมูลวางใจเป็นกลาง จิตแข็งสักหน่อย ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็จะพบความจริงอีกด้านที่ต่างกันลิบลับเลย
กรณีการโจมตีทรูดีแทคนี่ก็เช่นกัน เมื่อไปค้นข้อมูลก็จะพบว่า ไม่ได้เป็นอย่างที่สารีพ่นน้ำลายกล่าวอ้างแต่อย่างใด ที่ผ่านมาสองค่ายที่สารีโจมตีไม่เพียงพยายามขยายเครือข่ายให้ครอบคลุมไปยังพื้นที่ห่างไกล แต่ยังช่วยสนับสนุนเทคโนโลยีในส่วนที่โครงข่ายยังเข้าไปไม่ถึง ซึ่งช่วยให้ผู้คนในพื่นที่ห่างไกลได้เข้าถึงการสื่อสาร ติดต่อกันได้เหมือนคนในเมือง รวมถึงช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้เด็ก ๆ ชายขอบได้มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่ทัดเทียมกับเด็ก ๆ ในเมืองทั่วไป
สำหรับเรื่องค่าบริการนั้น ก็เป็นเรื่องที่พูดเกินจริงเกินเบอร์ไปมาก ก่อความร้าวฉานสร้างความเกลียดชังในสังคม เพราะในความเป็นจริง เป็นไปไม่ได้ที่ค่าบริการจะสูงขึ้นเกินขีดจำกัดเพดานราคาที่กสทช. ตั้งไว้ตามกฎหมาย ซึ่งเมื่อไปเปิดดูประกาศของกสทช. ก็จะพบตารางกำหนดเพดานราคาไว้
ส่วนประเด็นการฮั้วกันทำให้ไม่เกิดการแข่งขัน ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปตามนั้นจริง เพราะมีตัวอย่างมากมายจากกิจการในปัจจุบันทั่วโลก ที่ตลาดมีผู้เล่นเพียงสองราย แต่ก็ยังสามารถแข่งขันกันได้อย่างดุเดือดเอาเป็นเอาตาย หากคู่แข่งสองรายดังกล่าวมีความแข็งแกร่งที่ทัดเทียมสูสีกัน ตัวอย่าง โค้กกับเป๊ปซี่ และ วีซ่ากับมาสเตอร์การ์ด
แม้โลกที่เราอยุ่จะไม่ได้สวยหรู แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเสียทีเดียว ดังนั้น เมื่อเราได้รับหรือได้ฟังข้อมูลที่เป็นแง่ลบเพียงอย่างเดียว ก็อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ต้องรอฟังอีกด้านหรือหาความจริงด้านที่เหลือด้วย จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อขบวนการลวงโลกเช่นที่สารีและพวกพ้องกำลังเล่นให้ดูอยู่ตอนนี้