วิศวกรเมื่อ1200ปีเขาคิดได้ไงเมื่อการสร้างบ้านแปลงเมืองเมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นบนฐานรากของท่อนไม้ใต้น้ำประมาณ 10,000,000 ท่อน
เป็นเรื่องราวอันน่าทึ่งของการสร้างบ้านแปลงเมืองเมืองเวนิสถูกสร้างขึ้นบนฐานรากของท่อนไม้ใต้น้ำประมาณ 10,000,000 ท่อน หรือท่อนไม้ 8 ถึง 10 ท่อนต่อตารางเมตร แสดงว่าต้นไม้ถูกๆตัดไปมากมายเพื่อจะเอามาสร้างเป็นฐานของเมืองซึ่งมีตัวอย่างให้เห็นเป็นหลักฐานอ้างอิงโดยเฉพาะภาพจากบทความนี้
ทำให้เห็นว่าต้นไม้ต้องมาเป็นรากฐานของเมืองเพื่อสร้างบ้านกันดินทรุดกันถล่ม มีวิวัฒนาการมาตั้งแต่ยุคสมัยโบราณนั่นเอง
เสาเข็มไม้ ..คนยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา(Renaissance)เป็นการเริ่มต้นพัฒนายิ่งการก่อสร้างอิตาลีสมัยนั้นเป็นตัวนำเลย(ที่เมืองhamburgเมืองท่าเรือเวลาเจาะวางฐานรากเจอแต่เสาเข็มไม้ทั้งนั้นอายุหลายร้อยปีแต่สภาพใหม่มากๆๆเนื้อไม้ยังสมบูณ์เหมือนวันเเรกที่ตอกลงไป
เวนิสถูกสร้างขึ้นบนฐานรากของท่อนไม้ใต้น้ำประมาณ 10,000,000 ท่อน หรือท่อนไม้ 8 ถึง 10 ท่อนต่อตารางเมตร ลำต้นทำหน้าที่เป็นฐานราก 1,200 ปีต่อมา ลำต้นเดิมเหล่านั้นยังคงรองรับเกือบทั้งหมดของใจกลางเวนิส ก่อนที่จะเริ่มสร้างบ้านที่เรียงรายไปตามลำคลอง ชาวเวนิสได้ตอกเสาเข็มไม้ลงไปที่พื้นเพื่อให้มีความมั่นคงมากขึ้น
“ฐานรากของอาคารทั้งหมดทำจากกองไม้โอ๊กที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งคงอยู่ใต้น้ำชั่วนิรันดร์… สิ่งเหล่านี้ถูกกดลงสู่พื้นอย่างแน่นหนาเป็นกลุ่มหนาแน่น จากนั้นจึงปิดกั้นด้วยไม้ขนาดใหญ่และ ช่องว่างระหว่างพวกมันเต็มไปด้วยเศษหินและซีเมนต์ ซึ่งทำให้พวกมันแข็งตัวเป็นฐานรากที่มั่นคงและมั่นคง”
วิศวกรเมื่อ1200ปีเขาคิดได้ไง
อ้างอิงจาก: The Secret Chamber,topmanman.blogspot.com/2024/05/1200-10000000.html?m=1