เฒ่าบ่นโซเชี่ยล
ชายชรากับมือถือ
ผมในวัย 56 รู้สึกสับสนกับเทคโนโลยีสมัยใหม่บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าเราแก่เกินไปสำหรับการเรียนรู้เทคโนโลยี ที่ปัจจุบันแพร่หลายอยู่ในมือของทุกเพศทุกวัย
ผมเคยไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หันไปมองโต๊ะข้างๆเห็นครอบครัวเล็กๆพ่อแม่และลูกชาย เดาได้ว่าอายุเด็กผู้ชายคนนั้นไม่น่าเกิน 3 ขวบ เมื่อทั้งสามคนมานั่งที่โต๊ะเด็กน้อยก็เริ่มมีอาการงอแงและอยู่ไม่สุข ก็ตามประสาของเด็กที่อยากเรียนรู้และอยู่ในวัยซุกซน ทันใดนั้นคุณแม่ของน้องก็หยิบโทรศัพท์มือถือยื่นให้กับเด็กชายวัย 3 ขวบ สิ่งนั้นทำให้เด็กน้อยคนนั้นหยุดซนหยุดงอแง และหยุดนิ่งอยู่กับมือถืออย่างเงียบๆก้มหน้าก้มตาจ้องมองเทคโนโลยีในมือ ซึ่งก็ไม่ต่างจากพ่อแม่ของเด็กเลยเมื่อสั่งอาหารเสร็จ คนเป็นพ่อและแม่ก็หยิบโทรศัพท์มือถือก้มหน้าโดยไม่มีการพูดจากันสักคำ มันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับคนสมัยนี้ แต่ตาเฒ่าอย่างผมเห็นแล้วก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่า สิ่งที่อยู่ในมือพวกเขาเหล่านั้นทำให้ร่างกายเขาสงบนิ่งแค่นั้นจริงๆหรือ
คนยุคปัจจุบันให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่าสิ่งที่อยู่ข้างๆ เขากำลังปลูกฝังอะไรบางอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ให้กับเด็กรุ่นใหม่ มันเป็นยุคสมัยที่อะไรก็ง่ายเพียงนิ้วสัมผัส ต้องการสิ่งไหนอยากรู้สิ่งใด ก็มีตัวช่วยสำคัญอยู่ในมือตลอดเวลา
ก็ไม่แปลกใจเลยที่เด็กยุคนี้จะไม่เห็นความสำคัญของผู้ใหญ่ ไม่เชื่อในคำพูดของผู้ใหญ่ไม่ใช่คำสอนของคุณครู เพราะพวกเขาสามารถค้นคว้าหาเองได้
ว่าแล้วผมก็หยิบมือถือเครื่องเล็กๆแบบปุ่มกดขึ้นมาพิจารณา แต่พูดกับตัวเองเบาๆว่า เทคโนโลยีเล็กๆในมือของฉันอันนี้เพียงแค่นี้ก็เหมาะกับฉันแล้ว
ตาเฒ่าบ่นทุกเรื่อง