หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

กินเหล้าหนัก ตับจะเป็นอะไรไหม มาเช็คด่วน

เนื้อหาโดย Life Style Chidon

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และโรคไวรัสตับอักเสบ ล้วนเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตับเกิดการอักเสบเรื้อรัง จนนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายต่อร่างกาย ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบชนิดรุนแรง ตับแข็ง ตับวาย และมะเร็งตับ ซึ่งภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ และยังทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้

1. ตับแข็งจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ภาวะตับแข็งจากแอลกอฮอล์ (Alcoholic liver cirrhosis) คือ แผลเป็นในตับที่เกิดจากพัฒนาของเนื้อเยื่อพังผืด เพื่อมาแทนที่เซลล์ตับที่เสียหายไป ทำให้ลักษณะเนื้อเยื่อตับที่ควรเรียบจะกลายเป็นก้อนและแข็งขึ้น โรคตับแข็งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แม้จะหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วก็ตาม

โดยปกติแล้วเนื้อเยื่อตับสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่ถ้าเซลล์ได้รับความเสียหายมากเกินไป ก็จะกลายเป็นเหมือนแผลเป็นที่เป็นพังผืดถาวร ส่งผลให้ตับไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถของตับในการกำจัดสารเคมีและยาต่างๆ ออกไปจากร่างกายลดลง ซึ่งอาจทำให้เกิดสารที่เป็นสารพิษหรือสารอันตรายตกค้างอยู่ในร่างกาย

เมื่อดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากและต่อเนื่องส่งผลต่อการเกิดโรคตับ โดยระยะแรกเกิดภาวะไขมันพอกตับจากแอลกอฮอล์ ซึ่งระยะนี้มักไม่มีอาการ และถ้าหยุดดื่มตับสามารถกลับมาปกติได้ใน 4-6 สัปดาห์ ถ้ายังดื่มต่อเนื่อง ร้อยละ 20-40 ของผู้ป่วยจะเกิดตับอักเสบเรื้อรัง และพังผืดในเนื้อตับและร้อยละ 20 เข้าสู่ภาวะตับแข็ง ในเวลาประมาณ 10 ปี

ปัจจัยที่เกี่ยวข้องทำให้เกิดตับแข็ง

เมื่อมีดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับมีปัจจัยเสริมบางประการ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับจากแอลกอฮอล์มากขึ้นกว่าเดิม เช่น การดื่มในปริมาณสูง ดื่มมานาน โดยการดื่มต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ปีด้วย ปริมาณตั้งแต่ 20-30 กรัมต่อวันในเพศหญิง หรือ 40-50 กรัมต่อวันในเพศชาย สามารถก่อให้เกิดภาวะตับแข็งได้ การดื่มตอนท้องว่าง หรือร่างกายอยู่ในสภาวะขาดสารอาหารหรือ อ้วนเกินไป เป็นต้น

อาการตับแข็งจากแอลกอฮอล์

ในระยะแรกของโรคตับแข็งอาจไม่มีอาการใด ๆ เลยนอกจากผลการตรวจเลือดที่บ่งบอกความผิดปกติหรืออาจจะมีอาการไม่สบาย เบื่ออาหาร อยากอาเจียน คันตามผิวหนัง น้ำหนักตัวลดลง และเมื่อโรคตับแข็งดำเนินต่อเนื่องอาจมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น อาการดีซ่านช่องท้องและขาบวม กล้ามเนื้อลีบเล็กลง ปรากฏเส้นเลือดฝอยเหมือนแมงมุมบนผิวหนัง ผิวหนังช้ำและมีเลือดออกง่าย อาเจียนเป็นเลือดหรือมีเลือดในอุจจาระ และมีไข้เพราะมีการติดเชื้อ เป็นต้น

ภาะวะแทรกซ้อนของโรคตับแข็ง

เนื้อเยื่อที่เป็นพังผืด จะขัดขวางการไหลเวียนของเลือดที่ไปเลี้ยงตับ ทำให้หลอดเลือดดำพอร์ทอลที่เชื่อมต่อระหว่างลำไส้และตับมีความดันสูงขึ้น ทำให้ดันเลือดที่จะไหลไปที่หัวใจให้ไหลผ่านเส้นเลือดอื่น แทนที่จะผ่านตับ เป็นผลทำให้มีการขยายของเส้นเลือดในเยื่อบุกระเพาะอาหารและหลอดอาหาร เกิดเป็นภาวะเส้นเลือดขอด

ถ้ามีเลือดออกด้วยอย่างช้าๆ ก็จะทำให้เกิดโรคโลหิตจาง และยังเป็นภาวะเสี่ยงที่จะมีเลือดออกอย่างรุนแรง โรคตับแข็งนอกจากสามารถนำไปสู่ภาวะตับวาย แล้วยังสามารถนำไปสู่กลุ่มอาการโรคไตเนื่องจากโรคตับ และสมองทำงานผิดปกติได้ อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสที่จะเป็นโรคมะเร็งตับด้วย

รักษาตับแข็งจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ภาวะตับแข็ง ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายมากขึ้น โดยการหยุดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้านการรักษาด้วยยานั้นจะใช้ในกรณีบรรเทาอาการ เช่น การใช้ยาลดความเสี่ยงของการมีเลือดออก ในภาวะความดันโลหิตเส้นเลือดดำพอร์ทอลสูง หรือ ยาขับปัสสาวะ หากมีอาการบวมในช่องท้อง เพื่อช่วยขจัดน้ำออกไป และการรักษาโดยการปลูกถ่ายตับจะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่มีภาวะตับวาย


2. ตับแข็งจากไวรัสตับอักเสบ

ไวรัสตับอักเสบมี 5 ชนิด ได้แก่ ชนิด เอ บี ซี ดี และอี เมื่อตับได้รับเชื้อไวรัส ก็จะเกิดภาวะตับอักเสบ ส่งผลให้ตับทำงานผิดปกติ มีอาการตับบวมโต และมีโอกาสดำเนินโรคเป็นตับแข็ง โดยอาการจะคล้ายๆ กันไม่ว่าจะมาจากเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดไหน การจะเป็นน้อยหรือมากมักขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อไวรัสที่ได้รับและความแข็งแรงพื้นฐานของผู้ป่วย อาการที่พบมากๆ ได้แก่ อ่อนเพลีย จุกแน่นใต้ชายโครงขวา ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ ร่วมกับการมีคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ท้องเสีย ปัสสาวะสีเข้ม ตัวเหลือง ตาเหลือง

ตับอักเสบเรื้อรังนำไปสู่ภาวะตับแข็ง

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และซี นำไปสู่การเกิดตับอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้จะค่อยๆ ทำลายเซลล์ตับทีละน้อยจนเกิดภาวะตับแข็งและเพิ่มโอกาสในการเกิดมะเร็งตับ รวมทั้งผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบอยู่แล้ว หากดื่มแอลกอฮอล์จะยิ่งส่งผลให้การดำเนินของโรคลุกลามอย่างรวดเร็วขึ้น จนเกิดตับแข็งและมะเร็งตับได้เร็วขึ้น

แพทย์สามารถตรวจดูการอักเสบของตับได้จากการตรวจเลือด ส่วนใหญ่ผู้ที่เป็นตับแข็งและมะเร็งตับมักไม่มีอาการในระยะแรก แค่อาจอ่อนเพลียเล็กน้อย แต่เมื่อโรคลุกลามจนอาการหนักขึ้น จะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น เช่น ท้องบวม เท้าบวม อาเจียนเป็นเลือด ตัวตาเหลือง เป็นต้น

หากติดเชื้อไวรัสตับอักเสบต้องรีบรักษา

ไวรัสตับอักเสบ ส่วนใหญ่จะรักษาแบบประคับประคอง หรือรักษาตามอาการเพื่อลดการอักเสบของตับ และควรการพักผ่อนมากๆ ในช่วงที่มีอาการอ่อนเพลีย หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง งดแอลกอฮอล์ และหลีกเลี่ยงยาพาราเซตามอล ทั้งนี้แพทย์จะนัดให้ทำการตรวจเลือดเพื่อติดตามผลการรักษา และดูการทำงานของตับว่าดีขึ้นหรือไม่อย่างต่อเนื่อง ไวรัสตับอักเสบบีและซี ถ้าเป็นเรื้อรังต้องการติดตามการรักษาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมียาที่รักษาไวรัสตับอักเสบซีให้หายขาดได้ ส่วนไวรัสตับอักเสบบีก็มียาที่ใช้หยุดการแบ่งตัวของเชื้อและลดการอักเสบของตับได้

สำหรับการป้องกันโรคตับแข็งสามารถทำได้หลายวิธี โดยหลักแล้วจะเป็นการเลิกละพฤติกรรมที่ทำลายสุขภาพ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และหันมาดูแลตนเองมากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินมาตรฐาน ตรวจการทำงานของตับเพื่อหาความผิดปกติ พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี เพื่อไม่ให้ตับเสียหาย
 
โหวต Poll: (โหวตไม่ลับ)
มีสาระ
2
ขอบคุณที่แนะนำ
0
+1
0
+10
1
ดูว่าใครโหวตอะไรบ้าง
หากต้องการโหวต Poll, กรุณา Login เข้าสู่ระบบ ก่อนค่ะ
เนื้อหาโดย: DD News Update
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Life Style Chidon's profile


โพสท์โดย: Life Style Chidon
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
25 VOTES (5/5 จาก 5 คน)
VOTED: Bad Sector, Penjung, bedroomeyes, maddog2565, DD News Update
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ดาราจีนแชร์เทคนิค ผอมลง 15 โลใน 1 เดือน เพื่อรับบทบาทในละครพอรู้ที่มาของน้ำตกในภูสอยดาว..เล่นเอาแทบลมจับเลยทันทีเปิดตัวแฟชั่นทนายสายหยุด ที่มาพร้อมกับเครื่องประดับสุดหรู ราคาต่อชิ้นไม่ธรรมดารัสเซียเปิดฉากยิงขีปนาวุธเทพใส่ยูเครนแล้วนางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจมหัศจรรย์ถ้ำน้ำแข็งแห่งวัทนาโจกุล ไอซ์แลนด์ สวรรค์กลางธารน้ำแข็งอะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงอีกมุมของ "ยายสา" ตำนานแม่มดแห่งสมิหลา กับความลึกลับที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย"รวมภาพเรียกรอยยิ้มประจำวันนี้ วันที่เป็นวันพฤหัส ที่กระแสน้องเสือ เอวา ที่สวนสัตว์เชียงใหม่กำลังมาแรงเด้อครับเด้อเตือนจากประสบการณ์จริง ที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหาเจ๊อ้อยเข้าให้ปากคำนาน 12 ชม.ก่อนกลับต่างประเทศ"ตารางลดน้ำหนัก" ฉบับกินยังไงก็ผอม
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พอรู้ที่มาของน้ำตกในภูสอยดาว..เล่นเอาแทบลมจับเลยทันทีเทคนิคสร้างความมั่นใจง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ที่มั่นใจได้เต็มร้อยเจ๊อ้อยเข้าให้ปากคำนาน 12 ชม.ก่อนกลับต่างประเทศพระผง อ้างป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ พระพยอมขอท้าพิสูจน์หนุ่มขับรถกู้ภัยอ้างไม่ทราบ ปิดถนนขบวนรถซิ่ง“Circus Tree” ศิลปะแห่งธรรมชาติที่รังสรรค์ด้วยความอดทนและจินตนาการ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระดี สาระเด็ด
การดื่มน้ำบ่อยๆทำให้ผิวชุ่มชื้นจริงไหมสัญชาติ Nationality - ตัวย่อ ของสัญชาติต่างๆ ทั่วโลกการดูแลสุขภาพองค์รวม (Holistic Health) คืออะไร?ใครไม่รู้จัก :เห็ดลม ถือว่าเชย: มาดู ประโยชน์ และ เมนูอร่อยๆ จากเห็ดลมกันว่ามีอะไรบ้าง
ตั้งกระทู้ใหม่