ยาคุมฉุกเฉิน ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย
การคุมกำเนิดเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ในปัจจุบันวัยรุ่นสามารถเข้าถึงเรื่องเพศได้มากขึ้นกว่าสมัยก่อน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การมีเพศสัมพันธ์ก่อนถึงวัยอันควร เริ่มเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่สามารถทำได้ คือ การคุมกำเนิด เเละการป้องกันที่ดี เพราะถ้าหากขาดการป้องกันที่ดี จนทำให้ตั้งครรภ์ขึ้นมา ก็จะเป็นปัญหาที่ตามมาภายหลังทั้งต่อตัวเอง เเละครอบครัว
การคุมกำเนิดสามารถทำได้ด้วยกันหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใส่ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธ์ การฝังยาคุม ไปจนถึงวิธีที่การกินยาคุม บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ ยาคุมฉุกเฉินมาบ้าง ชื่อของมันก็ตรงตัว ยาคุมที่ไว้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือเหตุไม่คาดคิด เช่น ถุงยางหลุด และอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ การกินยาคุมฉุกเฉิน จึงเป็นตัวเลือกที่คนใช้ เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด
โดยในวันนี้เราจะมาดูรายละเอียด และคำถามต่างๆ เกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินกัน ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี ผลข้างเคียงยาคุมฉุกเฉิน มีขายที่ไหน ไปจนถึงยาคุมฉุกเฉิน 1 เม็ด 2เม็ด เเตกต่างกันอย่างไร
ยาคุมฉุกเฉิน คืออะไร
ยาคุมฉุกเฉิน (Emergency Contraception Pill) เป็นยาคุมฉุกเฉินที่มีส่วนผสมของฮอร์โมนโพรเจสติน (Progestin) ซึ่งเป็นโปรเจสติน ประเภทฮอร์โมนเดี่ยว สำหรับยาคุมฉุกเฉินในบ้านเรานั้น มักจะใช้ Levonorgestrel ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนเเบบโพรเจสเตอโรนขึ้นมา เเต่ยังมีสรรพคุณการทำงานเหมือนกัน
ยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาที่ใช่กินในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยขาดการป้องกัน หรือไม่ได้มีการคุมกำเนิด โดยยาคุมกำเนิดฉุเฉิน สามารถลดอัตราการตั้งครรภ์ได้สูงถึง 75 - 85% เลยทีเดียว เเต่กระนั้นเองก็ต้องมีการทานยาอย่างถูกวิธี ข้อเเรก ต้องทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมง หลังมีเพศสัมพันธ์ หรือหาเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
เเละเนื่องจากยาคุมฉุกเฉินให้ผลในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี หรือก็ยามีสรรพคุณที่รุนเเรง ดังนั้น ควรทานเฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรทานบ่อยจนเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
ยาคุมฉุกเฉินทำงานอย่างไร
เรารู้เพียงเเค่ว่า ยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาที่ใช้ป้องกันการตั้งครรภ์ เพื่อให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับตัวยามากขึ้น เราควรทราบถึงกลไกการทำงานของตัวยาด้วย โดยกลไกการทำงานของยาคุมฉุกเฉิน มีดังนี้
- ยาคุมฉุกเฉิน จะเข้าไปยับยั้งการตกไข่ของฝ่ายหญิง ซึ่งการการตกไข่นั้นเอง เป็นปัจจัยที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์
- ช่วยปรับสภาพเยื่อบุโพรงมดลูก ไม่ให้ไข่ที่ผสมกับอสุจิสามารถฝังตัวจนเกิดเป็นตัวอ่อนได้
- ช่วยให้มูกบริเวณปากมดลูกเข้มข้นขึ้น ส่งผลให้เซลล์อสุจิ ผ่านเข้าไปผสมกับไข่ได้ยาก
จะเห็นได้ว่า ยาคุมฉุกเฉิน มีสรรพคุณถึง 3 อย่างที่จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นหากเราทานยาอย่างถูกวิธี เพียงเเค่นี้ก็สามารถลดการตั้งครรภ์หากไม่พร้อมได้เเล้ว
ประเภทของยาคุมฉุกเฉิน
ในปัจจุบันยาคุมฉุกเฉินเเบบที่คนรู้จักจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ยาคุมฉุกเฉินเเบบ 1 เม็ด และยาคุมฉุกเฉินเเบบ 2 เม็ด โดยชื่อก็บ่งบอกชัดเจนเเล้วว่า ต่างกันอย่างไร โดยรายละเอียดของยาคุมฉุกเฉินทั้ง 2 มีดังนี้
1.ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด
ยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวต่อกล่อง จะมีปริมาณฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) 1.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด ซึ่งถือว่าสูง ทำให้ยาคุมฉุกเฉินชนิดนี้ต้องทานภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยสามารถ กินจบได้ในเม็ดเดียว ไม่ต้องนับชั่วโมงเม็ดที่ 2 ต่อ เเต่มาพร้อมกับผลข้างเคียงของยา อาจจะเเรงกว่าเเบ 2 เม็ด
2.ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด
ยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ดต่อกล่อง มีปริมาณฮอร์โมนลีโวนอร์เจสเตรล (Levonorgestrel) 0.75 มิลลิกรัมต่อเม็ด ซึ่งความเข้มข้นของตัวยาจะน้อยกว่าเเบบ 1 เม็ดครึ่งนึง โดยยาคุมฉุกเฉินชนิดนี้มีวิธีทาน 2 แบบ
- ทานยาเม็ดที่ 1 ภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และทานยาเม็ดที่ 2 หลังจากทานเม็ดแรกไปแล้วภายใน 12 ชั่วโมง
- ทานยาคุมฉุกเฉินพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด ภายใน 72 ชั่วโมง
ยาคุมฉุกเฉินชนิด 2 เม็ด ออกเเบบมาเพื่อลดความรุนแรงจากผลข้างเคียงของยา ลดภาระที่ร่างกายต้องรับในครั้งเดียว ดังนั้นควรเลือกทานเเบบเว้นระยะ เพื่อลดภาระให้ร่างกาย แต่ต้องมีการนับชั่วโมงให้ถูกต้อง มิฉะนั้นยาคุมฉุกเฉิน จะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉิน คือ ถ้ายิ่งทานไว จะออกฤทธิ์ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นหากรู้ตัวว่า มีความเสี่ยงที่อาจตั้งครรภ์ได้ ควรรีบหายาคุมฉุกเฉินมาทานทันที เเต่นอกจากเรื่องเวลาที่ต้องควบคุมเเล้ว ยังมีเรื่องปริมาณยาสัมพันธ์กับน้ำหนักตัวของผู้ทานยามั้ย ซึ่งควรปรึกษากับเเพทย์ หรือเภสัชกร
ยาคุมฉุกเฉินต่างจากยาคุมกำเนิดทั่วไปอย่างไร
ข้อเเตกต่างของยาคุมกำเนิดทั่วไป กับยาคุมฉุกเฉิน คือ สรรพคุณการทำงานของตัวยา และเป้าหมายในการใช้ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
ยาคุมกำเนิดทั่วไป
ส่วนประกอบของยาคุมกำเนิดทั่วไป จะมี Ethinylestradiol และ Drospirenone แต่ละยี่ห้อจะมีปริมาณที่ต่างกัน โดยส่วนมากเเล้ว ยาคุมกำเนิดทั่วไป จะรับประทานตลอดทั้งเดือน แต่สรรพคุณของยาคุมกำเนิดทั่วไป ไม่ใช่การคุมกำเนิดทั่วไป แต่อย่างมีสรรพคุณอื่นๆอีก เช่น ใช้ปรับสมดุลฮอร์โมน เพื่อลดสิว, ลดปวดประจำเดือน, ใช้รักษาอาการผิดปกติ ร Premenstrual Dysphoric Disorder (PMDD) ซึ่งเป็นอาการผิดปกติจากภาวะประจำเดือนมา
ยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
ในขณะที่ตัวยาคุมฉุกเฉิน จะมีไว้ใช้ คุมกำเนิดในกรณีฉุกเฉินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่สามารถใช้รักษาอาการอื่นๆได้ เหมือนยาคุมทั่วไป เเละด้วยยาคุมฉุกเฉิน มีปริมาณฮอร์โมนมากกว่ายาคุมทั่วไป ทำให้มันได้ผลลัพธ์ที่เห็นชัดกว่า เเละมีผลข้างเคียงจากยาที่รุนเเรงกว่า
ข้อบ่งชี้ในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
การใช้ยาคุมฉุกเฉิน ควรใช้เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ใน “กรณีฉุกเฉินเท่านั้น” ซึ่งกรณีฉุกเฉินในทีนี้ หมายถึง
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่เต็มใจ ไม่ตั้งใจ หรือ โดนข่มขืน (Sexual Assault)
- การคุมกำเนิดผิดพลาด ไม่ถูกต้อง เช่น ถุงยางอนามัย แตก ฉีด ขาด หรือ หลุด
- นับระยะปลอดภัยผิด
- ลืมทานยาคุมกำเนิด หรือ เลยกำหนดฉีดยาคุม
- ฝาครอบปากมดลูก (Diaphragm or Cervical cap) ขาด แตก หรือ หลุด ก่อนเอาออก
- ยาฝังหลุด
- ห่วงคุมกำเนิดหลุด
ใครบ้างที่ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉิน
เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนที่สูง จึงนับว่าเป็นยาอันตรายชนิดหนึ่ง ทำให้มีผลข้างเคียงหลายอย่าง ดังนั้นการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ต้องอยู่ภายใต้การดูเเลของเเพทย์ หรือเภสัชกรเท่านั้น เพราะภาวะร่างกายของบางคนอาจจะไม่เหมาะที่จะใช้ยาคุมฉุกเฉิน โดยกลุ่มคนที่มีควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีดังนี้
- ผู้ที่เป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งของอวัยวะภายในผู้หญิง
- ผู้ที่เป็นโรคตับเฉียบพลัน โรคตับแข็ง และมะเร็งตับ
- ผู้ที่เคยเป็น หรือ เป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด
- ผู้ที่มีความดันโลหิตสูง และโรคเลือดอุดตัน
- ผู้ที่รับประทานยากันชัก หรือ เป็นโรคลมชัก
- ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ที่มีภาวะไตทำงานผิดปกติหรือ มีภาวะหลอดเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่เป็นไมเกรน
- ผู้ที่สูบบุหรี่จัด อ้วน มีไขมันในเลือดสูง
- ผู้ที่มีอายุมากกว่า 35 ปี
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน
ยังมีอีกหลายอย่างเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉิน ที่คนยังมีความเข้าใจผิดอยู่ ดังนั้นเราได้รวบรวมลิสความเข้าใจผิดเกี่ยวกับยาคุมฉุกเฉินมาให้ เพื่อเราจะได้เเก้ความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง
1.กินยาคุมฉุกเฉินแล้วไม่ท้องแน่นอน
การกินยาคุมฉุกเฉิน ไม่ใช่การป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% จากที่กล่าวข้างต้น มันป้องกันได้สูงก็จริง เเต่อยู่ที่ 75 - 85%
2.ยาคุมฉุกเฉินสามารถใช้คุมกำเนิดระยะยาวได้
ยาคุมฉุกเฉิน ไม่สามารถใช้คุมกำเนิดระยะยาวได้ สามารถใช้คุมกำเนิดได้เฉพาะกรณีที่ฉุกเฉินเท่านั้น เพราะเนื่องจากจำนวนยาที่กิน มีเเค่ 1 เม็ด หรือ 2 เม็ด ดังนั้นมันจะไม่ออกฤทธิ์คุมกำเนิดในระยะยาวอย่างเเน่นอน หากต้องการคุมกำเนิดระยะยาว ควรเลือกเป็นกินยาคุมกำเนิดทั่วไปอย่างสม่ำเสมอ
3.ยาคุมฉุกเฉินใช้คุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้
ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถใช้คุมกำเนิดก่อนมีเพศสัมพันธุ์ได้”เพราะเมื่อผ่านไป 12 ชั่วโมงหลังจากทานยาแล้ว จะไม่สามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ เพราะเนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีความรุนเเรง ทางที่ดีควรกินเฉพาะ เวลาจำเป็น ควรหาวิธีป้องกันด้วยวิธีอื่น ที่ไม่เป็นภาระกับร่างกายมากเกินไป
4.ยาคุมฉุกเฉินกินแล้วทำให้เกิดภาวะท้องยาก
ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานหรืองานวิจัยยืนยันว่า การทานยาคุมฉุกเฉินแล้วจะทำให้เกิดภาวะท้องยาก นอกจากนี้ยาคุมฉุกเฉินมีผลการคุมกำเนิดเเค่ระยะสั้น จึงไม่มีผลต้องการตั้งครรภ์ในระยะยาว
5.ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาทำแท้ง
จากกลไลการทำงานของยาคุมฉุกเฉิน จะเห็นว่ายาคุมฉุกเฉินจะสร้างปัจจัยที่ขัดขวางไม่ให้ไข่สามารถผสมกับอสุจิได้ เเต่ในกรณีที่เกิดการปฏิสนธิจนได้ตัวอ่อนเเล้ว ยาคุมฉุกเฉินจะไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งก็คือ ยาคุมฉุกเฉิน ไม่สามารถทำให้คนเเท้งลูกได้
ยาคุมฉุกเฉิน ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย
เพราะยาฉุกเฉินมีความรุนเเรง จนจัดว่าเป็นยยาอันตรายประเภทหนึ่ง ดังนั้น ควรศึกษาวิธีการทานยาให้ถูกต้อง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพ เเละปลอดภัยกับเรามากที่สุด
วิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด
- ทานยาหลังจากมีเพศสัมพันธ์ทันที หรือ ภายใน 72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยที่ประสิทธิภาพของยาจะลดลงตามระยะเวลา แต่ทางที่ดีที่สุดควรทานทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์
- การทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง สามารถลดโอกาสในการตั้งท้องได้มากถึง 85%
- ไม่ควรทานเกินวันละ 2 เม็ด
- ห้ามใช้เเทนยาคุมฉุกเฉินทั่วไป
วิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด
- สามารถทานได้ 2 วิธี คือ ทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่ 1 ให้เร็วที่สุด หรือ ภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ และทานเม็ดที่ 2 หลังจากที่ทานเม็ดที่แรก ภายใน 12 ชั่วโมง และอีกวิธี คือ การทานยาคุมฉุกเฉินพร้อมกันทั้ง 2 เม็ด ภายใน 72 ชั่วโมง
- การทานเเบบ 2 เม็ดพร้อมกัน อาจมีผลข้างเคียง ทำให้คลื่นไส้ได้
- ไม่ควรทานเกินวันละ 4 เม็ด
- ห้ามใช้เเทนยาคุมฉุกเฉินทั่วไป
ข้อดี - ข้อจำกัดของการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
ยาทุกชนิด มีทั้งข้อดี และข้อจำกัดในการใช้ ดังนั้นเราควรสรรพคุณ ไปจนถึงผลข้างเคียงของยาทุกตัวก่อนก่อนที่จะเริ่มใช้ รวมไปถึงยาคุมกำเนิดฉุกเฉินด้วยเช่นกัน
ข้อดีของการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
ช่วยคุมกำเนิดได้ดี ลดอัตราการตั้งครรภ์ได้สูง เหมาะกับการใช้ในกรณีฉุกเฉิน หากการป้องกันทางอื่นพลาดไป
ข้อจำกัดของการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
มีผลข้างเคียงจากยาสูงเพราะตัวยามีฮอร์โมนสูง ทำให้ผู้ที่รับประทานยาคุมฉุกเฉินอาจจะมีอาการข้างเคียง ได้แก่ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน นอกจากนี้ผู้ป่วยบางคนไม่สามารถใช้ยาคุมฉุกเฉินได้ หรือการใช้งานต้องอยู่ภายในคำแนะนำของเเพทย์เท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อไหนดี
ในปัจจุบันมียาคุมฉุกเฉินหลากหลายยี่ห้อ มีหลายตัวเลือกให้กับผู้บริโภค โดยยาคุมฉุกเฉินที่มีชื่อเสียง เเละเป็นที่รู้จักก็จะมี ยาฉุกเฉินมาดอนน่า (Madonna) เมเปิ้ล ฟอร์ท (Maple Forte) และ โพสตินอร์ (Postinor) โดยที่แต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป
1.ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่า (Madonna)
ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่า (Madonna) มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง สามารถรบกวนกระบวนการตกไข่และการเคลื่อนไหวของอสุจิจะช่วยลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งเป็นสรรพคุณพื้นฐานของยาคุมฉุกเฉิน
นอกจากนี้ยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่า มีทั้งหมด 2 แบบ ได้แก่ ยาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ดที่มีปริมาณฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเทรล 1.5 มิลลิกรัม และ ยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด ที่มีปริมาณฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเทรล 0.75 มิลลิกรัมทั้งสองแบบมีประสิทธิภาพในการลดโอกาสการตั้งครรภ์เท่ากัน เพียงแต่ว่ายาคุมฉุกเฉินแบบ 1 เม็ด จะมีปริมาณฮอร์โมนสูงกว่า ช่วยเพิ่มความสะดวกในการทานยา
โดยยาคุมฉุกเฉินมาดอนน่าสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปในราคาอยู่ที่กล่องละ 30 - 40 บาท ใช้สำหรับคุมกำเนิดครั้งเดียว
2.ยาคุมฉุกเฉินเมเปิ้ล ฟอร์ท (Maple Forte)
ยาคุมฉุกเฉินเมเปิ้ล ฟอร์ท (Maple Forte) มาในรูปแบบยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 1 เม็ดต่อกล่อง มีปริมาณฮอร์โมนเลโวนอร์เจสเทรล 1.5 มิลลิกรัมต่อเม็ด
กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ การยืดระยะเวลาในการตกไข่ให้ช้ากว่ากำหนด ทำให้สเปิร์มไม่สามารถเกิดการปฏิสนธิกับไข่ได้ ทั้งนี้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเมเปิ้ล ฟอร์ท จัดจำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยา โดยราคาจะอยู่ที่กล่องละ 35 บาท
3.ยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์ (Postinor)
ยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์ (Postinor) เป็นยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบ 2 เม็ดต่อกล่อง และมีปริมาณฮอร์โมน Levonorgestrel 0.75 มิลลิกรัม โดยมีกลไกการออกฤทธิ์เหมือนกับยาคุมฉุกเฉินยี่ห้ออื่นๆ คือ การทำให้ระยะเวลาการตกไข่ช้ากว่ากำหนด ทำให้เซลล์อสุจกิไม่สามารถเกิดการปฏิสนธิกับไข่ได้
เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินโพสตินอร์เป็นยาคุมฉุกเฉินแบบ 2 เม็ด วิธีการทานยา คือ ทานยาเม็ดที่ 1 ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ และทานยาเม็ดที่ 2 หลังจากทานยาเม็ดแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง หากทานไม่ครบโดสที่กำหนด จะทำให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ และจัดจำหน่ายเฉพาะในร้านขายยาแผนปัจจุบันที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยา ราคาอยู่ที่กล่องละ 60 บาท
ข้อควรระวังในการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่มีปสรรพคุณที่ดีมากในการช่วยลดอัตราการตั้งครรภ์ แต่ก็มีผลข้างเคียงจากยามาก ตามที่กล้าวไว้ข้างต้น ดังนั้นการใช้ยาคุมฉุกเฉินจึงต้องมีการระมัดระวังให้ดี โดยเฉพาะหากคุณเป็นโรคเหล่านี้ควรระวังการทานยาคุมฉุกเฉินเป็นพิเศษ
- มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม
- โรคที่เกี่ยวกับตับ เช่น ตับแข็ง มะเร็งตับ
- โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ และ หลอดเลือด
- โรคเบาหวาน และ ไขมันในเลือดสูง
- โรคไมเกรน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน
อาการผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน จะมีดังนี้
- เลือดออกผิดปกติ
- ขาดประจำเดือน
- คลื่นไส้ อาเจียน
ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเมื่อทานยาคุมฉุกเฉินเข้าไป เป็นอาการที่จะหายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะอาการคลื่นไส้ อาเจียน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเเต่ละบุคคลด้วย อย่างไรก็ตามหากมีอาการที่รุนเเรงมากจนผิดปกติ ควรรีบพบเเพทย์เพื่อหาดูสาเหตุ
วิธีเก็บรักษายาคุมฉุกเฉิน
การเก็บยาคุมฉุกเฉิน ก็เหมือนกับการเก็บรักษายาทั่วๆไป หลีกเลี่ยงเเสงเเดด หรือที่ๆมีอุณหภูมิสูง เพราะอาจทำให้คุณภาพของตัวยาเสื่อมได้ โดยก่อนรับประทานยาเข้าไป เราสามารถสังเกตลักษณะของยาได้ ยามีจุดด่างดำ มีสีที่ผิดปกติหรือไม่ เพราะมันอาจหมายถึงตัวคุณภาพของยาได้เสื่อมลงเเล้ว
กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย อันตรายไหม
เนื่องจากยาคุมฉุกเฉิน มีส่วนประกอบของฮอร์โมนที่จะไปยับยั้งการตั้งครรภ์สูง ซึ่งมันมีผลข้างเคียงของยาที่สูง หรือก็คือ การทายาคุมฉุกเฉินเเม้จะได้ประสิทธิภาพที่ดี เเต่จะสร้างภาระให้กับร่างกายค่อนข้างมาก ดังนั้นไม่ควรใช้เยอะเกินไป เเละใช้เฉพาะจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉินราคาเท่าไหร่
เพราะยาคุมฉุกเฉิน เป็นยาที่มีความจำเป็น อาจมีหลายคนที่ต้องใช้ ทำให้ราคาของมันไม่เเพงเกินไปสามารถจับต้องได้ โดยเฉพาะยาคุมฉุกเฉินจะมีราคาประมาณกล่องละ 30 - 60 บาท โดยเราสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ไปจนถึงซื้อผ่านออนไลน์ได้เช่นกัน
คำถามที่พบบ่อย
ยาคุมฉุกเฉินต้องกินภายในกี่ชั่วโมง
72 ชั่วโมง หลังจากมีเพศสัมพันธ์ เเต่ให้ดีที่สุด ควรทานให้เร็วที่สุด หากรู้ตัว ไม่ต้องรอจนถึง 72 ชั่วโมง
ยาคุมฉุกเฉินคุมได้นานกี่วัน
ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ใช้คุมฉุกเฉิน ป้องกันการคุมกำเนิดครั้งเดียวเท่านั้น เพราะยาจะออกฤทธิ์เเค่ระยะสั้นๆ ไม่สามารถใช้คุมกำเนิดระยะยาวได้
กินยาคุมฉุกเฉินขณะให้นมบุตรได้ไหม
หากทานยาคุมฉุกเฉินเเล้ว ไม่ควรให้นมบุตรเป็นอันขาด เพราะตัวยาชนิดนี้สามารถขับออกมาผ่านทางน้ำนมเเม่ได้ เเม้ว่าจะยังไม่มีผลวิจัยว่า ตัวยาจะส่งผลอะไรกับลูกไหม เเต่ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงสารเเปลกปลอมไม่ให้เข้าถึงลูกดีกว่า
ข้อสรุป
จะเห็นได้ว่ายาคุมฉุกเฉินมีประโยชน์มาก สำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมมีบุตร เเต่เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียยงที่ค่อนข้างเเรง ดังนั้นทางที่ดีควรใช้วิธีการป้องกันเเบบอื่นๆ เพื่อลดภาระให้กับร่างกาย เเละใช้ยาคุมฉุกเฉินในกรณที่ฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น