พี่ศรีโดนต่อย!!กลางวงนักข่าวตอนสัมภาษณ์ #คนกระทำยอมรับตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน มีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย
ชุลมุน! ‘ศรีสุวรรณ’ โดนต่อย หน้ากองปราบ ระหว่างร้อง ปม ‘เดี่ยว13’ หนุนม็อบ ด้านคนลงมือวัย 62 ปี บอก วันนี้ยอมทิ้งงาน ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน มีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย
วันนี้ เวลา 10.30 น. ที่ บก.ปอท. นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เพื่อขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามครรลองของกฎหมาย กรณีมีบุคคลทอล์คโชว์ เดี่ยวไมโครโฟน-13
ซึ่งเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ มีการใช้ถ้อยคำบางคำพูด อันอาจมีลักษณะส่งเสริมให้บุคคลร่วมชุมนุมสาธารณะที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจขัดต่อความมั่นคงของรัฐ และหรือละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประกอบ พรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 หรือไม่ อย่างไร
นายศรีสุวรรณ ระบุว่า บทพูดของการโชว์เดี่ยวไมโครโฟนดังกล่าว มีบางคำพูด อาทิ “วันนี้รถติดเยอะหน่อย มีม็อบไล่คนที่เราอยากจะไล่เขา ก็ให้อภัยเขาไปนะครับ ถือว่าเขาทำงานแทนเรา” นั้น จะสื่อความหมายไปอย่างอื่นมิได้ นอกเสียจากการพูดเพื่อที่จะสื่อหรือโฆษณาให้ผู้ฟังหรือผู้ชม ได้เข้าใจตรงกันว่า มีเจตนาหรือจงใจที่จะให้ทุกคนที่รับฟังและรับชม ให้อภัยกลุ่มผู้ที่ออกมาชุมนุมสาธารณะที่เกิดขึ้นหลายๆครั้งเมื่อช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานั้น “ทำงานแทนเรา” นั่นเอง โดยที่การชุมนุมเหล่านั้นล้วนผิดกฎหมาย ฝ่าฝืนข้อกำหนดใน ม.9 แห่ง พรก.ฉุกเฉิน 2548 และมีการสอดใส้การชุมนุมเป็นเรื่องการยกเลิก ปอ.112 และการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ มิใช่การชุมนุมเพื่อขับไล่ผู้นำรัฐบาลแต่อย่างใดไม่
นายศรีสุวรรณระบุว่า กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัวของบุคคลใดบุคคลหนึ่งแต่อย่างใด หากแต่อาจเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความผิดต่อแผ่นดิน อาจกระทบต่อความมั่นคง และอาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน อันเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.84 ม.85 และหรือ ม.87 ประกอบ ม.14 แห่งพรบ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2550 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 ต้องระวางโทษกึ่งหนึ่งของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นด้วย และหรือต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงต้องนำความพร้อมพยานหลักฐานมาแจ้งต่อ บก.ปอท. ให้ใช้อำนาจตามกฎหมายในการตรวจสอบ สอบสวน กรณีดังกล่าวว่าเข้าข่ายความผิดอาญาต่อแผ่นดินหรือไม่ หากพบว่าเป็นความผิด ให้ดำเนินการตามครรลองของกฎหมายต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าว
ทั้งนี้ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า การที่มาร้องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับรัฐบาล ที่ผ่านมา ถ้ารัฐบาลทำไม่ถูกต้อง ตนก็ร้องมาตลอดอยู่แล้ว ส่วนโน๊ต อุดม เขาก็เคยวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาทุกยุคทุกสมัยอยู่แล้ว แต่บางคำพูดที่เป็นการยุยงส่งเสริมม้อบ ตนไม่เห็นด้วย
หลังจากนั้น ปรากฎว่านายวีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล ในนามของกลุ่ม ศักดินาเสื้อแดงต่อต้านเผด็จการ ซึ่งแฝงตัวมาเป็นนักข่าว ทำท่าทีสอบถามประเด็นการร้องเรียนของนายศรีสุวรรณ ว่าหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญ ตัดสินคดี 8 ปีนายกรัญมนตรี จะมีการแจ้งความคนเห็นต่างหรือไม่ แต่ยังไม่ทันจะถามจบ นายวีรวิชญ์ได้เข้าไปทำร้าย ชกต่อยนายศรีสุวรรณ ทันที กลางวงสัมภาษณ์ ทำให้นักข่าวอึ้งกันทั้งวงสัมภาษณ์
หลังจากนั้น นายวีรวิชญ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนคาใจเพราะหลังจากศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยปม 8 ปี นายกรัฐมนตรี นายศรีสุวรรณ ออกมาประกาศว่า ใครชุมนุม จะแจ้งความจะแจ้งจับหมด ซึ่งตนเป็นคนหนึ่งที่ชุมนุม วันนี้ตั้งใจมาตบเพื่อสั่งสอน ซึ่งมีตำรวจที่รู้จักฝากมาตบด้วย
“กราบขอโทษกองปราบที่มาทำแบบนี้ เพราะไม่มีโอกาสเลย ผมเฝ้าและแอบดูว่านายศรีสุวรรณจะไปร้องอะไรบ้าง เมื่อเช้าตนยอมทิ้งงาน ตนอายุ 62 ปี จะเป็นอะไร ไม่สนใจ อยากให้เห็นว่า คำว่าประชาธิปไตย ทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง ประเทศนี้เป็นของประชาชน ไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่ง ถ้าถูกดำเนินคดีพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และที่มาวันนี้ไม่ได้มีใครจ้างมา แต่ตั้งใจมาด้วยตัวเอง”
ขอบคุณข้อมูลภาพ