เล่าตำนาน “สิบเผ่ายิวที่สาบสูญ”
เล่าตำนาน “สิบเผ่ายิวที่สาบสูญ”
เมื่อวานนี้ในเรื่องของเพรสเตอร์จอห์น มีพูดถึงเรื่องที่มาของเพรสเตอร์จอห์นว่า อาจจะมาจากหนึ่งในสิบเผ่าที่สาบสูญของยิว คิดว่าหลายคนอาจจะอยากรู้เรื่องนี้บ้าง งั้นจะเอามาคุยให้ฟังเสียเลยดีกว่า
เรื่องของ “สิบเผายิวที่สาบสูญ” (Ten lost tribes of Israel) เริ่มต้นขึ้นภายหลังจากที่โมเซสได้นำชาวยิวหนีออกมาจากอียิปต์แล้ว หลังจากโมเซสได้นำบัญญัติ 10 ประการที่พระเจ้าประทานให้ชาวยิวแล้วก็หายสาบสูญไป โจชัว (Joshua) ผู้นำคนใหม่ของยิวจึงได้นำชาวยิวเดินทางเข้าใปในดินแดนคานาอัน (Canaan) ซึ่งพระเจ้าสัญญาว่าจะยกให้กับชาวยิว เมื่อปราบปรามชนเผ่าอื่นที่อาศัยอยู่ก่อนได้แล้ว ยิวก็ได้ตั้งราชอาณาจักรของตนที่ดินแดนคานาอัน เมื่อศตวรรษที่ 11 ก่อนคริสต์กาล
ในเวลานั้น ยิวได้แยกออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ทั้งหมด 12 กลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มได้อ้างว่าสืบเชื้อสายมาจากลูกหลานของยาคอบ ได้แก่ อาเชอร์ (Asher), ดาน (Dan), , กาด (Gad), อิสสาคาร์ (Issachar), นัฟทาลี (Naphtali), รูเบน (Reuben), สิเมโอน (Simeon) , เศบุลุน (Zebulun), ยูดาห์ (Judah), เลวี (Lewi) เบนยามิน (Benjamin) และโยเซฟ (Joseph) ซึ่งต่อมาได้แยกเป็นสองสายย่อยคือ เอฟราอิม (Ephraim) กับ มนัสเซห์ (Manaseh) ซึ่งเมื่อมีก่อตั้งราชอาณาจักรอิสราเอลขึ้นแล้ว ยิวแต่ละเผ่าก็ได้ไปตั้งถิ่นฐานในดินแดนส่วนต่าง ๆ โดยแต่ละเผ่ามีอำนาจในการปกครองตัวเอง แต่ยอมรับอำนาจของพระเจ้าซาอูล (Saul) ผู้เป็นปฐมกษัตริย์ของอิสราเอลเป็นผู้นำของชาวยิวทุกเผ่าร่วมกัน
แต่ภายหลังจากการสวรรคตของพระเจ้าโซโลมอน ในปี 928 ก่อนคริสต์กาล ก็ได้เกิดความแตกแยกในหมู่ชาวยิวขึ้น ซึ่งว่ากันว่าเกิดจากความไม่พอใจในตัวพระเจ้าโซโลมอนที่ได้ลิดรอนอำนาจของบรรดาผู้นำชนเผ่าต่าง ๆ ลงจนเกือบหมด ในที่สุดสหราชอาณาจักรอิสราเอลก็แตกออกเป็นสองส่วน คือราชอาณาจักรยูดาห์ทางใต้ ซึ่งประกอบด้วยดินแดนของยิวเพียงสองเผ่าคือยูดาห์และเบนยามิน มีกรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวง เป็นฝ่ายที่ยังสนับสนุนโอรสของพระเจ้าโซโลมอน ส่วนยิวที่เหลืออีก 10 เผ่าทางตอนเหนือได้แยกตัวไปตั้งเป็นราชอาณาจักรอิสราเอล มีเมืองหลวงอยุ่ที่นครเชเคม (Shechem)
ยิวทั้งสองฝ่ายแยกกันอยู่อย่างนี้เป็นเวลาร้อยกว่าปี ในที่สุดเมื่อปี 721 ก่อนคริสต์กาล ชาวอัสซีเรียก็ได้พิชิตราชอาณาจักรอิสราเอลทางตอนเหนือได้ และได้กวาดต้อนชาวยิวไปยังดินแดนของพวกตน ส่วนราชอาณาจักรยูดาห์นั้นยังคงอยู่ต่อมาจนถึงปี 589 ก่อนคริสต์กาล จึงถูกชาวบาบิโลเนียภายใต้การนำของพระเจ้าเนบูคัดเนสซาร์ (Nebuchadnezzar) พิชิตลง และกวาดต้อนชาวยิวจำนวนมากไปยังบาบิโลเนียเช่นกัน
อย่างไรก็ตามแม้ว่าทั้งสองราชอาณาจักรของยิวจะประสบชะตากรรมเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงคือ ในขณะที่ยิวสิบเผ่าในราชอาณาจักรอิสราเอลนั้นหลังจากถูกพวกอัสซีเรียกวาดต้อนไปแล้ว ก็ได้หายสาบสูญไปจากหน้าประวัติศาสตร์ ไม่มีใครทราบชะตากรรมของยิวเหล่านั้นอีกเลยว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง ผิดกับยิวในราชอาณาจักรยูดาห์ทั้งสองเผ่า ซึ่งแม้ว่าจะต้องแพ้สงครามถูกกวาดต้อนไปจากบ้านเมืองเดิมของตน แต่ยิวจากยูดาห์กลับยังคงรักษาความเป็นยิวเอาไว้ได้อย่างมั่นคง จนกลายเป็นบรรพบุรุษของชาวยิวในปัจจุบัน
จากเรื่องราวของยิวสิบเผ่าที่หายสาบสูญไปดังกล่าวนี้เองจึงทำให้เกิดตำนานเรื่องเล่าอีกมากมาย บ้างก็ว่าหลังจากอัสสิเรียล่มสลายแล้ว ยิวสิบเผ่าบางส่วนก็ได้กลับมายังดินแดนคานาอัน เช่น มีการอ้างว่า จอห์นเดอะแบบติสต์ ผู้ทำพิธีแบบติสต์ให้กับพระเยซู เป็นยิวเชื้อสายเผ่าเลวี มีการอ้างกันว่าคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้คือผู้ที่สืบเชื้อสายมาจากยิวเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเพรสเตอร์จอห์น รวมถึงยังมีการกล่าวอ้างถึงว่ายิวเหล่านั้นบางส่วนได้อพยพไปอยู่ในดินแดนต่าง ๆ ทั้งในยุโรป แอฟริกา และเอเชีย ไปจนกระทั่งในอเมริกาก่อนยุคโคลับมัสก็มี หรือพวกลัทธิมอร์มอนส์ในอเมริกา ก็อ้างว่าตนสืบเชื้อสายมาจากยิวสิบเผ่าที่ว่าเช่นกัน และยังมีผู้ที่สนใจค้นคว้าหาหักฐานเกี่ยวกับความเป็นไปของชาวยิวสิบเผ่าที่ว่า รวมถึงความเชื่อที่ว่า ในวันหนึ่งยิวเหล่านั้นจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งหนึ่ง