ถอดบทเรียนจากเรื่องตำรวจคลั่งกราดยิง "พิธีการ หรือ กาลเทศะ สำคัญกว่ากัน" ???
ผ่านเหตุการณ์กราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต. อุทัยสวรรค์ มาแล้ว 2 วัน
ก็ยังคงสะเทือนใจและยังทำใจยอมรับมันไม่ได้อยู่ดี ดิฉันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ ด้วยนะคะ
-----------------------------------------------------------------------
ประเด็นวันนี้ที่ดิฉันจะมาตั้งคำถาม นั่นคือ พิธีการ หรือ กาลเทศะสำคัญกว่ากัน ???
ส่วนตัวดิฉันรู้สึกว่า ในวงการราชการเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ๆ หลาย ๆ ครั้งที่ต้องเข้าร่วมงานพิธีที่ยุ่งยาก
ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ทำไปแล้วเกิดประโยชน์อะไรตามมา หรือ ฉันเองที่สายตาไม่ดีเลยมองไม่เห็นข้อดีของพิธีการพวกนั้น
-----------------------------------------------------------------------
ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ "จากเหตุการณ์ตำรวจคลั่งกราดยิงศูนย์เด็กเล็ก ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวณมาก"
หลายครอบครัวต่างร้องไห้โศกเศร้ากันจนไม่มีกระจิตกระใจทำอะไร เพราะจดจ่ออยู่กับการได้รับศพของลูกหลาน คนรักของตนเอง
คนเป็นพ่อแม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และคนในครอบครัวของผู้สูญเสียชีวิต เค้าเจ็บปวดยืนแทบไม่อยู่แล้ว
ต้องมารอข้าราชการไทยกลุ่มหนึ่งมอบเงินเยียวยาจากสำนักนายก จัดแจงอธิบายพิธีการต่าง ๆ ก่อนขึ้นรับเงินเยียวยา
ต้องมาแสดงความเคารพท่านประธานด้วยพิธีการที่ยุ่งยาก บางครั้งอะไรควรเรียบง่ายก็ควรเรียบง่ายไหมคะ
ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องยุ่งยากแก่ประชาชน เพราะพวกเค้ามีความทุกข์ใจกันมากพอแล้ว
ไหนจะต้องจัดงานศพซึ่งก็เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการหลายขั้นตอน ควรไหมที่จะต้องมาจัดพิธีการแบบนี้ในเวลาแบบนี้
บางครั้งสิ่งที่ข้าราชการไทยควรเรียนรู้ คือ กาลเทศะหรือเปล่า???
อีกอย่างการถ่ายรูปเพื่อแสดงว่าตนเองปฏิบัติงานควรเลิกสักทีหรือเปล่า อย่าลืมว่างานสำเร็จคือสิ่งที่สำคัญกว่า
เลิกประเมินผลงานเพียงเพราะแค่ได้ถ่ายรูป แต่ควรประเมินความสำเร็จของงานแล้วชื่นชมและเห็นคุณค่าของบุคลากรทุกคนจะดีกว่าไหม
เพราะบางคนมีรูปเป็นร้อย แต่ทำงานน้อยมาก บางคนเน้นคุย ไม่เน้นลุย กับได้รับคำชื่นชม
แต่กับบางคนเน้ยลุย แต่คุยไม่เก่งก็โดนมองข้ามไป ถูกมองว่าไร้ค่า
ประเทศไทยต้องการกำลังในการพัฒนาประเทศอยู่หรือเปล่า หรือมองกันทีใครเสนอหน้าบ่อย
ส่วนคนที่ตั้งใจทำงานก็กำลังใจถดถอยไปเรื่อย ๆ
-----------------------------------------------------------------------