หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

บีเอลซิบูโฟ กบปีศาจยุคไดโนเสาร์ กบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสูญพันธุ์ไปแล้วในยุคครีเตเชีย 65-70 ล้านปีก่อน

โพสท์โดย Man

บีเอลซิบูโฟ กับปีศาจ ยุคไดโนเสาร์ กบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกสูญพันธุ์ไปแล้ว ในยุคครีเตเชียสตอนปลาย65-70 ล้านปีก่อน

🐸Beelzebufo กบปีศาจ กบตัวนี้เป็นกบที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก ถูกค้นพบครั้งแรกเป็นฟอสซิลในมาดากัสการ์แต่น่าเสียดายที่มันได้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว ...

บีเอลซิบูโฟ หรือ กบปีศาจ หรือ คางคกปีศาจ หรือ กบจากนรก (อังกฤษ: Beelzebufo) (แล้วแต่ความสะดวกในการเรียกสัตว์ตัวนี้นะครับจะเป็นกบหรือคางคก) เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่จำพวกกบที่สูญพันธุ์ไปแล้วในยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 65-70 ล้านปีก่อน ในยุคครีเตเชียสตอนปลาย

ข้อมูลเบื้องต้น การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์, ชนิดต้นแบบ ...


โดยคำว่า Beelzebufo นั้น มาจากคำว่า "บีเอลซิบับ" ซึ่งเป็นปีศาจตนหนึ่งในความเชื่อทางคริสต์ศาสนา เป็นปีศาจแมลงวัน และ bufo เป็นภาษาละตินแปลว่า "คางคก" ส่วนชื่อชนิดนั้น ampinga หมายถึง "โล่" ในภาษามาลากาซี

บีเอลซีบูโฟ ถูกค้นพบครั้งแรกเป็นฟอสซิลในมาดากัสการ์เมื่อปี ค.ศ. 1993 จากคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษและอเมริกัน ก่อนที่จะใช้เวลาศึกษานานกว่า 14 ปี จึงได้มีการอนุกรมวิธานอย่างเป็นทางการ โดยบีเอลซีบูโฟนั้นมีความยาวได้ถึง 40 เซนติเมตร (16 นิ้ว) และน้ำหนัก 4 กิโลกรัม (9 ปอนด์) ขนาดพอ ๆ กับลูกโบว์ลิ่ง

นับเป็นสัตว์จำพวกกบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการค้นพบมา โดยพบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในยุคปัจจุบัน คือ กบโกไลแอท ในทวีปแอฟริกา ยังมีความยาวเต็มที่เพียง 32 เซนติเมตร (13 นิ้ว) เท่านั้น


ภาพสามมิติของโครงกระดูกขนาดเต็มตัว
บีเอลซีบูโฟ มีส่วนหัวขนาดใหญ่ มีปากที่กว้างและขากรรไกรที่ทรงพลัง รวมทั้งยังมีฟัน และยังมีลักษณะทางกายภาพที่มีกะโหลกค่อนข้างหนา จึงเชื่อว่าสามารถกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก หรือตัวอ่อนของไดโนเสาร์ที่เพิ่งฟักออกมาเป็นอาหาร

อีกทั้งในวงจรชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้ำหรือพงหญ้าเหมือนกับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกทั่วไป หากแต่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กึ่งแห้งแล้ง ส่วนรูปแบบการล่าเหยื่ออาจคล้ายกับกบในปัจจุบันคืออำพรางตัวแล้วกระโดดเข้าหาเหยื่อ และเชื่อด้วยว่ามีแรงกัดเทียบเท่ากับสัตว์กินเนื้อและสัตว์นักล่าบนบกในยุคปัจจุบัน เช่น หมาป่า, เสือโคร่ง หรือสิงโต

🐸บีเอลซีบูโฟ จัดอยู่ในวงศ์กบเขา (Ceratophryidae) โดยเฉพาะในสกุล Ceratophrys ซึ่งยังเป็นกบที่มีการสืบสายพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน เป็นกบขนาดใหญ่และพบกระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาใต้

บีเอลซิบูโฟ หรือ กบปีศาจ หรือ คางคกปีศาจ หรือ กบจากนรก (อังกฤษ: Beelzebufo) เป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกขนาดใหญ่จำพวกกบที่สูญพันธุ์ไปแล้วในยุคก่อนประวัติศาสตร์เมื่อกว่า 65-70 ล้านปีก่อน ในยุคครีเตเชียสตอนปลาย

โดยคำว่า Beelzebufo นั้น มาจากคำว่า "บีเอลซิบับ" ซึ่งเป็นปีศาจตนหนึ่งในความเชื่อทางคริสต์ศาสนา เป็นปีศาจแมลงวัน และ bufo เป็นภาษาละตินแปลว่า "คางคก" ส่วนชื่อชนิดนั้น ampinga หมายถึง "โล่" ในภาษามาลากาซี

👉🏿บีเอลซีบูโฟ ถูกค้นพบครั้งแรกเป็นฟอสซิลในมาดากัสการ์เมื่อปี ค.ศ. 1993 จากคณะนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษและอเมริกัน ก่อนที่จะใช้เวลาศึกษานานกว่า 14 ปี จึงได้มีการอนุกรมวิธานอย่างเป็นทางการ

👉🏿โดยบีเอลซีบูโฟนั้นมีความยาวได้ถึง 40 เซนติเมตร (16 นิ้ว) และน้ำหนัก 4 กิโลกรัม (9 ปอนด์) ขนาดพอ ๆ กับลูกโบว์ลิ่ง นับเป็นสัตว์จำพวกกบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีการค้นพบมา

โดยพบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในยุคปัจจุบัน คือ กบโกไลแอท ในทวีปแอฟริกา ยังมีความยาวเต็มที่เพียง 32 เซนติเมตร (13 นิ้ว) เท่านั้น

🐸บีเอลซีบูโฟ มีส่วนหัวขนาดใหญ่ มีปากที่กว้างและขากรรไกรที่ทรงพลัง รวมทั้งยังมีฟัน และยังมีลักษณะทางกายภาพที่มีกะโหลกค่อนข้างหนา 

👉🏿จึงเชื่อว่าสามารถกินสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์เลื้อยคลานขนาดเล็ก หรือตัวอ่อนของไดโนเสาร์ที่เพิ่งฟักออกมาเป็นอาหาร อีกทั้งในวงจรชีวิตไม่ได้เกี่ยวข้องกับน้ำหรือพงหญ้าเหมือนกับสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกทั่วไป หากแต่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กึ่งแห้งแล้ง ส่วนรูปแบบการล่าเหยื่ออาจคล้ายกับกบในปัจจุบันคืออำพรางตัวแล้วกระโดดเข้าหาเหยื่อ 

👉🏿และเชื่อด้วยว่ามีแรงกัดเทียบเท่ากับสัตว์กินเนื้อและสัตว์นักล่าบนบกในยุคปัจจุบัน เช่น หมาป่า, เสือโคร่ง หรือสิงโต

🐸บีเอลซีบูโฟ จัดอยู่ในวงศ์กบเขา (Ceratophryidae) โดยเฉพาะในสกุล Ceratophrys ซึ่งยังเป็นกบที่มีการสืบสายพันธุ์มาจนถึงปัจจุบัน เป็นกบขนาดใหญ่และพบกระจายพันธุ์ในทวีปอเมริกาใต้ 

โพสท์โดย: เรียบเรียงข้อมูลเพิ่มเติมโดย man
อ้างอิงจาก: วิกิพีเดีย google และ YouTube
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Man's profile


โพสท์โดย: Man
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: karn23, maddog2565
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่ม Grabcar สุดงงไปส่งลูกค้าผู้หญิง แต่เจอแม่ของลูกค้าดักขวางหน้ารถก่อนถาม “มึงเป็นอะไรกับลูกกู”...เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เบนซ์วัย 16 นามสกุลดัง พุ่งชนไซต์งาน แต่โชคดีไร้เจ็บ‘Luxury Shaming’ อับอายที่จะอวดว่ารวย เทรนด์เศรษฐีจีนยุคใหม่ เลิกอวดรวย ขอแพงแบบเงียบ ๆเภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!เวียดนามมีรถไฟฟ้าใต้ดินใช้แล้ว!!“สุขภาพดี โลกดี” 5 หนทางปรับพฤติกรรม สู่การมีสุขภาพดีอย่างยั่งยืน (Sustainable Wellness)มะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคร้ายที่มากับเมนูอร่อยเมียวางยาผัวในเครื่องดื่ม หวังได้เงินมรดก 30 ล้าน แต่สุดท้ายกลับไม่ได้อะไรเลยจะโดนจับอยู่แล้ว! สาวฝรั่งยังจะขอเอ้าท์ดอร์ให้เสร็จก่อนจะโดนจับ!เตโอตีวากาน (Teotihuacan) กับตำนาน วันสิ้นโลก เมืองโบราณที่ไม่รู้ใครสร้างเมื่อฉันไปบาหลี EP.5 Tirta Gangga
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ผู้โดยสารบนเที่ยวบินสหรัฐฯ ถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก กรณีนำสุนัขบำบัดทางจิตใจขึ้นเครื่อง 😌จะโดนจับอยู่แล้ว! สาวฝรั่งยังจะขอเอ้าท์ดอร์ให้เสร็จก่อนจะโดนจับ!แจกสูตร ข้าวเหนียวหมูปิ้งนุ่มๆ หอมๆ ทำง่าย อร่อยทุกคำ! 🐷🍢เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เบนซ์วัย 16 นามสกุลดัง พุ่งชนไซต์งาน แต่โชคดีไร้เจ็บ
กระทู้อื่นๆในบอร์ด รวมสาระบทความแบ่งปั่นกัน
หาดทรายแปลกๆแหวกธรรมชาติ หาดแก้วมหัศจรรย์แห่งอ่าว Ussuri รัสเซียดอกไม้ที่ชื่อว่า Puya berteroniana เป็น ดอกไม้สีแปลก เท่าที่เคยพบเห็นมารถตักดินยักษ์KRUPP BAGGER 288 รถตักดินขนาดใหญ่ที่สามารถขุดดินได้วันละ 240,000 ตันปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลกๆครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยอัตราการตกของดาวตกที่ถี่มาก เฉลี่ยแล้วมากถึง 100,000 ดวงต่อชั่วโมง!
ตั้งกระทู้ใหม่