บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ มีประโยชน์อย่างไร?
ในปัจจุบันเทรนด์รักษ์โลก การใส่ใจสิ่งแวดล้อม กำลังมาแรงมาก ๆ ซึ่ง 1 ในเทรนด์รักษ์โลกที่ผู้ผลิตและผู้บริโภคสายกรีนตระหนักถึงเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ คือ การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ
ซึ่งข้อดีของการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดโลกร้อนเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยลดมลพิษจากขยะได้ เพราะบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติสามารถย่อยสลายได้เอง อีกทั้งยังไร้สารเคมีตกค้างในบรรจุภัณฑ์ ดีต่อสุขภาพผู้บริโภค
โดยวัสดุจากธรรมชาติที่ถูกนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์มักจะเป็นวัสดุที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก ๆ แต่บางคนอาจยังไม่เคยทราบ ดังนั้นวันนี้เราได้รวบรวมวัสดุจากธรรมชาติมาให้แล้ว สำหรับผู้ที่สนใจอยากผันตัวมาเป็นสายกรีน รักษ์โลก ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ตามมาอ่านกันได้เลย
วัสดุจากธรรมชาติที่สามารถนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์
ชานอ้อย
โดยส่วนใหญ่จะนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สำหรับใส่อาหารทดแทนการใช้กล่องโฟม เช่น กล่องอาหาร กล่องข้าว เพราะชานอ้อนสามารถย่อยสลายหลังจากใช้แล้วใน 45 วัน เมื่อเทียบกับกล่องโฟมที่ต้องใช้เวลาย่อยสลายมากถึง 450 ปี อีกทั้งยังสามารถใช้ได้บ่อย ๆ ไม่ทำให้เกิดสารเคมีตกค้างในอาหารเหมือนกับการใช้กล่องโฟมอีกด้วย
ใยกล้วย
เป็นเส้นใยจากธรรมชาติที่ไร้สารตกค้าง สามารถนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์แทนพลาสติกได้ เช่น ถ้วย ชาม ที่ย่อยสลายง่าย ไม่ทำลายโลก อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณขยะฝังกลบในภาคการเกษตรได้อีกด้วย
กาบหมาก
กาบต้นหมากที่ร่วงลงพื้นสามารถนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์รองรับอาหาร หรือจานข้าวได้เช่นกัน โดยบรรจุภัณฑ์จากกาบหมากสามารถย่อยสลายเองได้หลังจากใช้งาน 45 วัน
อีกทั้งยังสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้เหมือนกับบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ เป็น 1 ในวัสดุจากธรรมชาติที่เป็นฝีมือคนไทยคิดค้นเองและผลิตเอง
มันสำปะหลัง
มันสำปะหลังเป็นวัสดุจากธรรมชาติที่เป็นอีกหนึ่งทางเลือก สามารถนำมารีไซเคิลเป็นถุงใส่ของได้เทียบเท่ากับถุงพลาสติกปกติเลย แถมยังใช้เวลาย่อยสลายเองเพียง 180 วัน ต่างจากถุงพลาสติกที่ใช้เวลาย่อยสลายถึง 450 ปีเลยทีเดียว
เยื่อไผ่
โดยส่วนมากแล้วเยื่อไผ่จะถูกนำมาผสมกับชานอ้อยเพื่อผลิตออกมาเป็นบรรจุภัณฑ์
ธรรมชาติ เช่น จานข้าว ช้อนส้อม และแก้วน้ำ เป็นต้น
โดยคุณสมบัติของวัสดุธรรมชาติ 2 ชนิดนี้ เมื่อถูกนำมาผสมกันจะมีความเหนียวแน่น แข็งแรง รองรับการใส่น้ำร้อนได้ หรืออาหารปรุงสุกใหม่ก็ย่อมได้เช่นกัน อีกทั้งเยื่อไผ่ผสมชานอ้อยสามารถใช้เวลาย่อยสลายเองได้ภายใน 60 วัน ไม่ทิ้งมลพิษให้กับโลกของเราอย่างแน่นอน
ประโยชน์ของการใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ
- ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้า
- เพิ่มมูลค่าสินค้าได้อย่างน่าประทับใจ
- ต้นทุนการผลิตที่ลดลง
- สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง
หวังจะทำให้ผู้อ่านได้ทำความรู้จักวัสดุจากธรรมชาติที่นำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์มากยิ่งขึ้น โดยบรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย นอกจากจะรักษ์โลกแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนการผลิต สร้างรายได้ให้กับท้องถิ่นอีกด้วย เป็นวิธีที่คุ้มค่าทั้งการผลิตและผลลัพธ์ที่ตามมา
ถ้าเราร่วมมือกันใช้บรรจุภัณฑ์จากธรรมชาติ รักโลก รักสิ่งแวดล้อม ก็จะช่วยทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีกด้วย