นิยาย เซโฮเกะ ฮานามิ เรื่องเล่าของนักเดินทาง(เถื่อน) ผู้หลงผิด
ผมชื่อ บ่าวฝาย วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องของตัวผมเองเมื่อครั้งหนึ่งในอดีตเคยหลงผิดไปทำสิ่งที่ผิดกฎหมายผิดศีลธรรมจนนำมาสู่ทางแยกแห่งโชคชะตาที่มันได้นำพาให้ผมกลายมาเป็นไอ้แก่พิการทางแขนจนถึงทุกวันนี้
เมื่อก่อนผมเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่าหน้าตาดีเลยแหละ ผู้หญิงต่างก็เข้ามาหาผมโดยที่ไม่ต้องทำอะไรสักอย่างรวมไปถึงร่างกายที่แข็งแรงสามารถทำได้แทบทุกอย่าง แต่อยู่มาวันหนึ่งผมก็ได้ไปพบเจอกับพวกคนรวยที่จะมาซื้อที่ดินที่ครอบครัวผมใช้ในการทำนามาตลอด พวกมันมาต่อรองว่าจะจ่ายให้ไม่อั้นถ้าหากยอมปล่อยที่ดินให้ แต่ว่าครอบครัวผมก็ไม่ยอมปล่อยแล้วก็เกิดการถกเถียงกันไปมาจนสุดท้ายพวกคนรวยยอมกลับไป ผมนึกว่าเรื่องมันจะจบแล้วสะอีก แต่ไม่ใช่เรื่องมันแค่พึ่งเริ่มหลังจากเหตุการณ์ถกเถียงเมื่อตอนนั้นจบลงผมก็เริ่มสังเกตุเห็นคนแปลกหน้ามาทำตัวลับๆล่อๆบริเวณแถวทุ่งนาอยู่แทบทุกวันมันทำให้ผมเริ่มระแวงว่าจะเป็นพวกคนรวยพวกนั้นที่จะมาทำอะไรสักอย่าง แต่พอนำไปบอกคนที่บ้านทุกคนต่างก็บอกว่าไม่ต้องคิดอะไรมากยังไงคนพวกนั้นก็กลับไปแล้ว อ่าาา...ใช่คนในบ้านไม่ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังพบเจออยู่และสุดท้ายมันก็เกิดขึ้น เมื่อวันหนึ่งผมต้องไปทำธุระในตัวอำเภอจึงทำให้ช่วงบ่ายผมจะไม่ได้อยู่ที่นั้น มันได้ทำให้เกิดเหตุการณ์วางเพลิงขึ้นและใช่ ทุกคนตายหมดทุกคนในบ้านตายหมด...ทำไมมันถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ผมใช้เวลาทำใจ1อาทิตย์เต็มๆกับการจากไปของทุกคนในบ้านผมร้องไห้ฟูมฟายและบ่นด่าตัวเองถึงความประมาทที่เกิดขึ้น ผมไม่น่าออกไปจากบ้านในช่วงเวลาที่มีคนแปลกหน้ามาทำตัวลับๆล่อๆเลยทำไมตัวผมถึงคิดไม่ถึงเรื่องแค่นี้เอง!?
พอเริ่มทำใจได้ผมก็เริ่มสืบเรื่องทั้งหมดด้วยตัวคนเดียวตามลำพัง ผมเริ่มจะเก็บหลักฐานต่างๆได้พอนำไปให้พวกตำรวจแล้วทำการแจ้งความผมก็ได้ตระหนักถึงเรื่องบางอย่าง นั้นคือ คนพวกนี้โดยพวกคนรวยซื้อไปหมดแล้ว หลักฐานทั้งหมดที่นำส่งตำรวจถูกทำให้หายไปโดยที่ไม่มีใครรู้เลย ผมรับรู้ได้ทันทีว่าถ้าอยู่ที่นี้ต่อคงโดนเก็บเป็นรายต่อไปแน่ ผมรีบออกเดินทางหนีไปจังหวัดขอนแก่นที่ในตอนนั้นได้ยินข่าวว่ารับคนงานก่อสร้างผมก็ได้ไปทำงานที่นั้นและได้รู้เรื่องราวของ"ป่าต้องสาป"เป็นป่าที่สามารถรวยทางลัดได้แต่ในทางกลับกันก็เป็นป่าที่เหมือนทางลัดสู่ความตายด้วยเช่นกัน พอรู้เรื่องของป่ามันทำให้ผมเริ่มที่จะสนใจขึ้นมาเล็กน้อย ในช่วงเวลาที่ทำงานเป็นคนงานก่อสร้างในทุกๆวันเพื่อหาเงินกินข้าวและอยู่รอดไปวันๆผมก็ได้เอาเวลาที่ควรจะนอนตอนกลางคืนมานั่งคิดถึงเหตุการณ์ที่พึ่งพบเจอมา มันทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองต้องแก้แค้นพวกคนรวยพวกนั้นแต่การจะทำแบบนั้นเราต้องมีอำนาจที่เหนือกว่า ซึ่งเงื่อนไขของอำนาจนั้นก็คือ"เงิน" แค่มีเงินมากพอผมก็สามารถที่จะฆ่าคนพวกนั้นเพื่อเป็นการแก้แค้นได้แล้ว แต่นั้นมันก็แค่ความคิดตื้นๆ ก่อนที่ผมจะมาเจอกับอะไรบ้างอย่างที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตผมไปนับตั้งแต่ได้ค้นพบมัน!!
ในวันหยุดแรงงานผมและเพื่อนๆคนงานได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่ว่ามีหมอดูมาใหม่แถวๆนี้ด้วย เห็นว่าเป็นหญิงแก่อายุประมาณ78ปี ชื่อว่า ยายเพ็ญ ได้ยินคนอื่นพูดว่าแกดูดวงเเม่นเอามากๆพวกเราจึงคุยกันว่าจะไปดูสักหน่อยในช่วงบ่าย พอถึงเวลาที่นัดกันพวกเพื่อนๆก็ดันติดธุระกันหมดทำให้ผมต้องไปเองคนเดียว เมื่อไปถึงที่หมอดูแล้วก่อนเดินเข้าไปอยู่ๆก็รู้สึกขนลุกไปทั้งตัวมันให้ความรู้สึกเหมือนหนาวไปยันกระดูกเป็นความรู้สึกที่ตั้งแต่เกิดมาพึ่งเคยพบเจอ ทันทีที่เดินเข้าไปนั่ง ยายเพ็ญ แกมองผมเหมือนกับตกใจอะไรสักอย่างผมสงสัยว่าคงเพราะผมไม่ค่อยดูแลตัวเองละมั้งทำให้หน้าตาอาจจะดูแปลกๆไปหน่อย พอรอสักพักยายเพ็ญแกก็ได้ชี้หน้าผมพร้อมกับทำสีหน้าจริงจัง ยายแกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
"ทางแยกแห่งโชคชะตาชีวิตจะเกิดขึ้นในอีก2เดือนข้างหน้า เมื่อถึงคราวต้องเลือกทุกสิ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามทางที่เจ้าจะเดิน เมื่อเจ้าเลือกเดินต่อเจ้าจะบรรลุเป้าหมายแต่แลกมาด้วยความทรมาน แต่ถ้าหากเจ้าเลือกปล่อยวางนั้นจะทำให้เจ้าไม่บรรลุเป้าหมายแต่เจ้าจะได้รับความสุขที่แท้จริง"
ยายแกพูดแบบนั้นพร้อมกับไล่ผมออกไปทันที ผมก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทางแยกแห่งโชคชะตา อีก2เดือน? มันคืออะไร ตัวผมในตอนนั้นยังไม่ตระหนักถึงคำเตือนจากยายเพ็ญเพราะเอาแต่เชื่อว่าพวกหมอดูนั้นเป็นพวกต้มตุ๋นที่มาหลอกเอาเงินจากดูดวงเพียงเท่านั้นเอง บวกกับการที่ต้องโฟกัสกับเรื่องปากท้องการงานและการเอาตัวรอดไปวันๆรวมไปถึงการจะหาเงินเพื่อที่จะได้แก้แค้นให้คนในครอบครัว
วันเวลาผ่านไปได้ประมาณ1 เดือน แต่น่าแปลกที่ผมดันไม่ลืมคำพูดของยายเพ็ญสักที ทุกครั้งที่ผมนอนหลับคำพูดนั้นจะโผล่เข้ามาในฝันตลอดเหมือนกับเป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเรื่องนี้สำคัญขนาดไหน มันทำให้ผมต้องเช็คดูวันที่ตลอดเพราะถ้าหากวันนั้นมาถึงผมก็อยากเห็นกับตาว่ามันจะเป็นอย่างที่ยายเพ็ญแกพูดไว้ไหม?
อยู่มาวันหนึ่งผมได้ถูกกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า นักเดินทาง ได้มาแนะนำให้ผมไปเป็นนักเดินทางกับพวกเค้าเพราะเหตุที่ว่าผมนั้นมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นอย่างมากและเค้ายังแนะนำถึงเรื่องของ วัตถุต้องคำสาป ที่ว่ากันว่ามีมูลค่าสูงเป็นอย่างมากแต่มูลค่าขอลมันก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของตัววัตถุด้วย พอได้รู้แบบนั้นผมก็ตอบรับในทันทีและแน่นอนเป้าหมายของผมคือ เงิน เท่านั้นเพราะเหตุนั้นทำให้ผมไม่ลังเลเลยที่จะเข้ารวมกับพวกเค้า พอได้รู้ช่องทางในการหาเงินบวกกับเมื่อออกจากงานก่อสร้างมันทำให้ผมมีเวลาพักผ่อน1อาทิตย์เต็มๆก่อนที่จะเริ่มงาน นักเดินทาง เพื่อตามหา วัตถุต้องคำสาป พอได้อยู่กับตัวเองนานๆโดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องงานในวันรุ่งขึ้น มันทำให้ผมเริ่มนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตอีกครั้ง ความรู้สึกเคียดแค้นมันได้กลับมาอีกครั้งและเพราะแบบนั้นมันทำให้ผมได้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดในชีวิตลงไปเพียงเพราะความต้องการที่จะแก้แค้น
วันแรกของการเริ่มงาน นักเดินทาง เพื่อตามหา วัตถุต้องคำสาป เพื่อนำมาปล่อยในตลอดมืด แต่ถึงจะแปลกใจที่ทำไมต้องลอบเข้าไปในป่าด้วยทั้งๆที่ก็มีพวกศูนย์ฝึกนักเดินทาง ถึงผมจะไม่ฉลาดมากนักแต่ก็พอจะรู้ว่าคนพวกนี้คงจะเป็นพวก นักเดินทาง ผิดกฎหมาย แต่แล้วยังไงละ?ตอนนี้ผมไม่สนอะไรทั้งสิ้นผมสนแค่การหาเงินเพื่อนำมันไปแก้แค้นพวกคนรวยพวกนั้น ไม่ว่าจะทางไหนขอแค่ได้เงินมาก็พอแล้ว มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว การเป็นคนดีสำหรับผมในตอนนี้มันไม่ได้ช่วยให้ผมหลุดจากวังวนแห่งความเคียดแค้นนี้ได้เลยสักกะนิด
พวกเราเดินทางมาในป่าที่เรียกกันว่า ทุ่งหญ้าสีทอง มันเป็นป่าที่มีทุ่งหญ้าสีเหลืองทองเต็มไปหมดตลอดทั้งป่าพอเดินเข้าไปลึกๆเราก็ได้เจอถ้ำใต้ดินแห่งหนึ่งมันมีลักษณะเหมือนถ้ำปกติทั่วไป แต่พอเดินลงไปจนถึงปลายถ้ำมันทำให้ผมเห็นกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังทำบางสิ่งที่ดูจะผิดหลักศีลธรรมเป็นอย่างมาก ในท้ายถ้ำมันปรากฎเป็นกรงขังพวกเด็กๆและคนบ้า คนไร้บ้าน ที่ด้านขวามือส่วนด้านซ้ายเป็นอุปกรณ์ที่เหมือนจะเอาไว้ใช้ในการทรมานผู้คน พอได้เห็นอะไรแบบนั้นทำเอาผมขนลุกไปทั้งตัวขาแข็งหน้าและมือชาไปหมด แต่ก่อนจะได้นึกอะไรไปมากกว่านั้นผมได้มองไปเห็นตรงใจกลางที่มีกลุ่มผู้คนกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ มันเป็นเหมือนบ่อน้ำตามธรรมชาติในถ้ำ แต่มันมีสีเหลืองทองภาพข้างหน้ามันทำให้ผมรู้ถึงเจตนาของคนกลุ่มนี้มันคือการใช้เลือดเทลงไปในบ่อน้ำสีเหลืองทองนั่นและเมื่อทำแบบนั้นมันจะมี วัตถุ ประหลาดๆลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำสีเหลืองทองนั่น ทุกคนที่ได้เห็นและได้สัมผัส วัตถุ ประหลาดนั้นต่างก็ดีใจกันแล้วมีบางคนพูดออกมาว่า "มันอาจจะมีมูลค่าหลักล้านเลยก็ได้นะถ้าเราเอามันไปปล่อยตลาดมืด" ผมตาลุกวาวขึ้นมาทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ในตอนนั้นผมแทบไม่ได้สนใจในเรื่องที่ ทำไมถึงมีพวกเด็ก คนแก่ คนบ้า คนไร้บ้าน ถูกจับมาได้ผมรู้แค่ว่ามันเป็นหนทางสู่การทำเงินที่รวดเร็วมากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้อย่างแน่นอน
ผมได้รับรู้ถึงภารกิจในตำแหน่งของผม นั้นก็คือการไปลักพาตัวพวกเด็ก หรือ คนไร้บ้านมาที่ถ้ำแห่งนี้เพื่อใช้ในการรีดเลือดออกมาให้ได้เยอะที่สุดและเมื่อเรามีเลือดในปริมาณที่เยอะมากพอก็จะสามารถนำไปใช้ในการแลกเปลี่ยนเป็นพวก วัตถุต้องคำสาป ได้ แต่จากคำอธิบายของคนพวกนั้นเค้าได้บอกว่าเจ้าสิ่งนี้มันเป็นบ่อน้ำแห่งการแลกเปลี่ยน การแลกเปลี่ยนจะเกิดขึ้นโดยการใช้เลือดของสิ่งมีชีวิต แต่เลือดของมนุษย์นั้นจะมีค่าในการแลกเปลี่ยนที่มากกว่าและต้องใช้คนอย่างน้อย5คนขึ้นไปในการอธิฐานเพื่อแลกเปลี่ยนกับ วัตถุต้องคำสาป จากการทำแบบนี้มาหลายปีทำให้คนพวกนี้รู้ว่า วัตถุต้องคำสาป ที่สามารถแลกเปลี่ยนได้จะมีตั้งแต่1ดาว-4ดาวเท่านั้นซึ่งขึ้นอยู่กับดวงและปริมาณของเลือดที่ใช้ด้วย การทำแบบนี้มันจะเป็นทางลัดสู่เงินก้อนโตได้โดยง่ายถึงแม้จะผิดต่อหลักศีลธรรมและกฎหมาย แต่ตอนนี้ผมนั้นไม่สนอะไรแล้ว ผมสนแค่สักวันหนึ่งตัวเองจะได้กลับไปแก้แค้นคนพวกนั้นสักที
ผมทำแบบนี้มานานเกือบจะ1เดือนได้แล้ว แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังคงฝันถึงคำพูดของยายเพ็ญหมอดูคนนั้นอยู่ทุกๆวัน มันทำให้ผมต้องเช็ควัน,เวลาตลอดว่าเมื่อไหร่จะถึงเหตุการณ์ที่ยายแกได้พูดไว้และเมื่อมาวันนี้ผมก็ได้ดูวันที่อีกครั้ง นี้มันพรุ่งนี้แล้วนิ ผมพึมพัมกับตัวเองถึงนำทำนายของยายเพ็ญคนเดียวเงียบๆ
ทุกอย่างปกติ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมต้องไปตามหาลักพาตัวคนอื่นมาทำการรีดเลือด แต่ถึงอย่างงั้นผมก็ยังอดไม่ได้ที่คิดถึงเรื่องคำทำนาย เพราะนี้มันก็คือวันที่ตรงกับคำทำนายแล้วนี้ มันจะเป็นอะไรไหมนะ ผมได้แต่บ่นพึมพัมคนเดียวเงียบๆจนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันเพราะเมื่อผมกำลังจะไปลักพาตัวเด็กคนหนึ่งแถวๆกองขยะ ที่ดูเหมือนเด็กกำลังหาเศษอาหารกิน แต่แล้วเด็กคนนั้นกลับมี วัตถุต้องคำสาป ที่มีลักษณะเป็นนกหวีดไม้อันเล็กพอเด็กคนนั้นเป่านกหวีดมันก็ทำให้มีตำรวจหน่วยจู่โจมโผล่มาเหมือนกับวาร์ปมาได้ยังไงยังงั้นเลยแหละ ผมโดนจับพร้อมกับให้พาตัวไปที่ถ้ำนั้นและแน่นอนผมไม่พาพวกเค้าไปหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า วัตถุต้องคำสาป ชิ้นนั้น มันเป็นเหมือนกับกิ่งไม้ธรรมดาๆแต่พอเคาะมาที่หัวมันทำให้ผมพูดความจริงทั้งหมดออกไปโดยที่ผมเองนั้นไม่สามารถทำอะไรได้เลย เมื่อพวกตำรวจไปถึงก็ได้เกิดเสียงยิงขึ้น เสียงยิงปืนนั้นดังขึ้นได้นานสักพักก่อนจะหยุดลงพร้อมกับเสียงของตำรวจหลายรีบวิ่งออกมาจากถ้ำด้วยความแตกตื่น ตำรวจพวกนั้นรีบวิ่งหนีกันเหมือนกับเจออะไรสักอย่างที่น่ากลัวเอามากๆผมก็ได้แต่มองตามตำรวจพวกนั้นด้วยความสงสัยข้างในใจ แต่พอผมมองกลับไปที่ถ้ำก็ได้เห็นต้นตอของมัน มันเป็นตัวอะไรสักอย่างที่มีสีดำทั่วทั้งร่างกายแต่ตาเป็นสีขาว มีลักษณะเหมือนกระต่ายยืนสองขา ร่างทั้งร่างผอมแห้งหนังติดกระดูก มีขนสีดำสนิททั่วทั้งตัว เจ้าสิ่งนั้นได้เดินมาที่ผมที่ได้ถูกมัดมือไว้อยู่ถึงแม้มันจะเป็นเชือกที่ทำขึ้นมาจากเถาว์วัลชนิดหนึ่งใน ป่าต้องสาป แต่มันดันแข็งและเหนียวเกินกว่าที่มนุษย์จะสามารถฉีกมันขาดได้
เจ้าสิ่งนั้นได้เอ่ยขึ้นมาคำหนึ่ง
"เจ้าจะอยากที่จะแลกเปลี่ยนหรือไม่?"
เจ้านั้นถามออกมาแบบนั้นพร้อมกับชี้มาที่ผมมันทำให้ผมหวนนึกถึงคำทำนายของหมอดูอย่างยายเพ็ญขึ้นมาในทันที
"แลกเปลี่ยน ยังไงหรอ?"
ผมถามเจ้าสิ่งนั้นด้วยความสงสัยก็เพื่อจะให้เจ้านั้นอธิบายกลับมาถึงเรื่องการแลกเปลี่ยน
"เจ้าสามารถแลกเปลี่ยนได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะ การแก้แค้น หรือ ว่าการหาความสุข"
"ฉันอยากแก้แค้น"
"ได้อยู่แล้ว เจ้าอยากจะแก้แค้นยังไงละ"
"ฉันอยากฆ่าคนกลุ่มหนึ่ง คนพวกนั้นมันฆ่าครอบครัวฉัน"
"ข้าเห็นถึงอดีตของเจ้า คนพวกนั้นสินะที่เจ้าอยากให้ตาย"
อยู่ๆภาพในอดีตก็โผล่ขึ้นมาในหัว มันทำให้ผมตอบกลับเจ้าสิ่งนั้นด้วยความที่ไม่ทันคิดหน้าคิดหลังให้ดีสะก่อน
"ใช่เจ้าพวกนั้นสมควรตาย พวกมันสมควรตายสะให้หมด"
"การแลกเปลี่ยน แขน2ข้างของเจ้า"
ได้ยินแบบนั้นผมชะงักไปเล็กน้อย
"นั้นคือข้อแลกเปลี่ยนเพื่อฆ่าคนพวกนั้นใช่ไหม?"
"ใช่ เจ้าจะได้บรรลุตามเป้าหมายถ้าหากเจ้ายอมแลกกับแขน2ข้างนั้น"
"เพียงเจ้าตอบ ยอมแลก ข้าจะทำให้คนพวกนั้นตายให้หมดเลย"
ทันใดนั้นคำพูดของยายเพ็ญ ก็โผล่ขึ้นมาในหัว
(เมื่อเจ้าเลือกเดินต่อเจ้าจะบรรลุเป้าหมายแต่แลกมาด้วยความทรมาน แต่ถ้าหากเจ้าเลือกปล่อยวางนั้นจะทำให้เจ้าไม่บรรลุเป้าหมายแต่เจ้าจะได้รับความสุขที่แท้จริง)
"ถ้าหากฉันตอบว่า ไม่ ละ?"
"นั้นก็จะทำให้เจ้าไม่สามารถแก้แค้นคนพวกนั้นได้เจ้าอย่าลืมสิคนพวกนั้นฆ่าครอบครัวของเจ้าเพียงเพราะไม่สามารถซื้อที่ดินของครอบครัวเจ้าได้ เจ้าจะยอมปล่อยพวกมันไปงั้นรึ?"
"และนี้เป็นโอกาสแก้แค้นครั้งเดียวของเจ้าในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่เพราะถ้าเจ้าปฎิเสธที่จะทำมันหลังจากนี้เจ้าจะต้องติดคุกตลอดชีวิตเนื่องจากการมายุ่งเกี่ยวกับป่าแห่งนี้โดยไร้ซึ่งกฎเกณฑ์จากพวกมนุษย์และคนพวกนั้นก็จะยังใช้ชีวิตปกติสุขสบายโดยที่ทิ้งไว้แค่ความเคียดแค้นที่จะอยู่กับเจ้าไปตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ในคุก"
อ่า.....ใช่ เจ้าสิ่งนั้นพูดถูก มันทำให้ผมนึกหวนถึงวันคืนที่แสนมีความสุขกับครอบครัวธรรมดาๆของผมและผมก็ได้ถูกพวกคนรวยพรากทุกสิ่งทุกอย่างไป ถ้าผมไม่แก้แค้นและฆ่าพวกมันสะ ผมมันก็คงจะไม่ต่างกับคนโง่เลยละนะ
"ผมยอม แลกเปลี่ยน"
"ตามที่เจ้าต้องการ"
อยู่ๆก็ปรากฎภาพในหัวถึงการตายของพวกคนรวยที่เคยมาขอซื้อที่ดินของผมรวมถึงพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของครอบครัวผม พวกมันทุกตัวตายด้วยการหัวใจวาย ถึงแม้จะสะใจที่ได้แก้แค้นสักที แต่ลึกๆในใจผมก็ยังแอบรู้สึกเสียใจอยู่ไม่ใช่น้อยที่ปล่อยให้ทุกอย่างมันเกิดขึ้นทั้งๆที่ต้นเหตุมันก็มีส่วนมาจากผมเองที่ดูแลครอบครัวได้ไม่ดีพอ ถ้าหากผมปกป้องพวกเค้าได้ดีกว่าที่เป็นอยู่เหตุการณ์แบบนี้คงไม่เกิดขึ้นและสุดท้ายถึงแม้ผมจะแก้แค้นแล้วจบเหตุการณ์นี้ลงได้ แต่ยังไงผมก็ต้องกลับไปติดคุกอยู่ดี
เมื่อทุกอย่างจบลงเจ้าสิ่งนั้นก็ได้เดินกลับลงไปในถ้ำเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แขนทั้งสองข้างหายไปเหมือนกับว่าผมเป็นพวกพิการทางแขนมาตั้งแต่เด็ก ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ ป่าที่มีลมพัดส่งให้เส้นผมที่ไม่เคยตัดพริ้วไหวไปตามลม ทุกอย่างมันจบลงแล้ว ผมโดนจับและนำตัวไปสืบสวน ผมได้รับโทษตลอดชีวิตจากการรับสารภาพ ทุกๆวันในคุกผมเอาแต่นั่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตเมื่อวัยเด็กก่อนที่จะมาเจออะไรแบบนี้ ผมเคยเล่นเป็นฮีโร่กับเพื่อนๆ แต่...สภาพผมในตอนนี้กลับกลายเป็นวายร้ายไปสะงั้น ฮ่าๆๆๆ ผมนึกสมเพชตัวเองในทุกๆวันพร้อมกับหัวเราะเยาะตัวเอง จบ