สัตว์ร้ายแห่ง เฌโวด็อง..เป็นชื่อเรียกสัตว์กินคนกลุ่มหนึ่งมีขนสีแดง มีร่างกายส่งกลิ่นเน่าเหม็นฆ่าเหยื่อโดยใช้เขี้ยวขบแหวะอกสยดสยอง
สัตว์ร้ายแห่ง เฌโวด็อง..เป็นชื่อเรียกสัตว์กินคนกลุ่มหนึ่งมีขนสีแดง มีร่างกายส่งกลิ่นเน่าเหม็นฆ่าเหยื่อโดยใช้เขี้ยวขบแหวะอกสยดสยอง
จากเรื่องเล่าต่างๆในประวัติศาสตร์ของสัตว์ตัวนี้ที่ชื่อว่าเฌโวด็อง (ฝรั่งเศส: La Bête du Gévaudan; สัทอักษรสากล: [la bɜt dy ʒevɔdɑ̃]) ตำนานก็ว่าเป็นหมาป่าที่ตัวใหญ่ผิดปกติออกมาล่าเหยื่อโดยเฉพาะเหยื่อที่เหล่านั้นส่วนมากจะเป็นมนุษย์มันโหดร้ายมากล่าสุดมันก็ลากเหยื่อออกไปสะสมจนเจอกองกระดูกมนุษย์มากมาย บางข้อมูล..ว่าเป็นหมาป่าผสมกับหมาบ้านจนกลายพันธุ์เป็นสัตว์ร้าย...ตาม ความเชื่อต่างๆก็ยังฝังลึกอยู่ในสามัญสำนึกของมนุษย์ที่ประสบพบการเหล่านั้นในอดีตจนเป็นตำนานเล่าขานมา จนถึงปัจจุบัน
🤔สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง (ฝรั่งเศส: La Bête du Gévaudan; สัทอักษรสากล: [la bɜt dy ʒevɔdɑ̃]) เป็นชื่อเรียกสัตว์กินคนกลุ่มหนึ่ง รูปลักษณ์อย่างสุนัขป่า และว่ากันว่าคุกคามผู้คนในมณฑลเฌโวด็อง (ปัจจุบันคือ จังหวัดโลแซร์ (Lozère)) แถบเขามาร์เฌอรีด์ (Margeride) ทางตอนกลางของภาคใต้ประเทศฝรั่งเศส
ในระหว่าง ค.ศ. 1764 ถึง 1767 ประจักษ์พยานจำนวนมากให้การตรงกันว่า สัตว์ร้ายเหล่านี้มีเขี้ยวอันน่ากลัว มีเล็บอันกว้างยาว มีขนสีแดง และมีร่างกายอันส่งกลิ่นเน่าเหม็นเหลือใจ สัตว์ทั้งนี้ฆ่าเหยื่อโดยใช้เขี้ยวขบแหวะลำคอ ส่วนจำนวนเหยื่อนั้นต่างกันไป
👉🏿ตามแต่แหล่งข้อมูล เช่น นักวิชาการชื่อ เดอ โบฟอร์ (De Beaufort) ประเมินว่า สัตว์ร้ายฝูงนี้โจมตีผู้คนถึงสองร้อยสิบครั้ง ฆ่าคนไปหนึ่งร้อยสิบสามคน และทำร้ายผู้คนไปอีกสี่สิบเก้าคน
👉🏿โดยในจำนวนผู้ตายหรือถูกทำร้ายนี้ เก้าสิบแปดคนถูกกินร่างกายหรืออวัยวะบางส่วน รัฐบาลจึงจัดกองกำลัง ประกอบทั้งฝ่ายทหารฝ่ายพลเรือน ข้าราชการชั้นสูงชั้นรอง เชื้อพระวงศ์ และทรัพยากรทรงแสนยานุภาพจำนวนมาก ออกล่าสัตว์ดังกล่าว เรื่องราวของสัตว์เหล่านี้ต่อมากลายเป็นหัวข้อยอดนิยมในวิชาการสัตว์ลึกลับ (cryptozoology)
♨️ภาพพิมพ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 18 แสดงหญิงคนหนึ่งกำลังป้องกันตัวจากสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง
🤐สัตว์ร้ายตัวแรก
การโจมตีครั้งแรกที่ทำให้ผู้คนพบเห็นสัตว์ร้ายเหล่านี้ มีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 1764 โดยหญิงชาวเมืองล็องฌ็อช (Langogne) คนหนึ่ง เผชิญสัตว์ร้ายกายมหึมาตัวหนึ่ง รูปร่างอย่างสุนัขป่า ที่โผล่จากแมกไม้ และเข้าจู่โจมเธอโดยตรง แต่เมื่อฝูงวัวในนาแล่นตรงเข้ามา สัตว์ร้ายนั้นก็ผละหนีไป
🌀วันที่ 30 มิถุนายน ฌัน บูเลต์ (Jeanne Boulet) เด็กหญิงวัยสิบสี่ปี กลายเป็นเหยื่ออย่างเป็นทางการรายแรกของสัตว์ร้ายนี้ เธอถูกฆ่าใกล้หมู่บ้านเลซูบัก (Les Hubacs) ไม่ใกล้ไม่ไกลจากเมืองล็องฌ็อช
😱ดูเหมือนว่าสัตว์ร้ายฝูงดังกล่าวมุ่งทำร้ายคนยิ่งกว่าปศุสัตว์ เพราะหลายคราที่พวกมันโจมตีคน ทั้ง ๆ ที่มีสัตว์มากมายอยู่ถิ่นแถวใกล้เคียง
🌀ครั้นวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1765 ฌัก ปอร์เตอเฟ (Jacques Portefaix) กับเพื่อนอีกหกคน ซึ่งเป็นหญิงสองคน ถูกสัตว์ร้ายนั้นโจมตี พวกเขาขับมันไปโดยรวมตัวกันไว้ไม่ห่าง ความทราบถึงพระเนตรพระกรรณพระเจ้าหลุยส์ที่ 15 จึงพระราชทานเงินให้ปอร์เตอเฟจำนวนสามร้อยลีฟวร์ และอีกสามร้อยลีฟวร์ให้ไปแบ่งกันในบรรดาหกคนที่เหลือ
พระองค์ยังโปรดอุปถัมภ์การศึกษาเล่าเรียนของปอร์เตอเฟด้วย เมื่อสนพระทัยในเรื่องสัตว์นี้แล้ว พระเจ้าหลุยส์ที่สิบห้าก็โปรดให้นักล่าสุนัขป่ามืออาชีพ ได้แก่ ฌ็อง ชาลส์ มาร์ก อ็องตวน โวแมสล์ ด็องเนอวาล (Jean Charles Marc Antoine Vaumesle d'Enneval) กับลูก คือ ฌ็อง-ฟร็องซัวส์ ชาลส์ มาร์ก อ็องตวน โวแมสล์ ด็องเนอวาล (Jean-François Charles Marc Antoine Vaumesle d'Enneval) ไปจัดการสัตว์พวกนี้ สองพ่อลูกไปถึงเมืองแกลร์มงต์-แฟร์ร็องด์ (Clermont-Ferrand) เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1765
🐶 โดยพาสุนัขบลัดฮาวด์ที่ได้รับการฝึกให้ล่าสุนัขป่าไปด้วยจำนวนหนึ่ง พวกเขาใช้เวลาหกเดือนฆ่าสุนัขป่าไปเป็นอันมากด้วยเชื่อว่าเป็นสัตว์ร้ายที่กล่าวขวัญ อย่างไรก็ดี การโจมตียังมีอยู่สืบไป รัฐบาลจึงให้ ฟร็องซัวส์ อ็องตวน (François Antoine) (ซึ่งมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น อ็องตวน เดอ โบแตร์น (Antoine de Beauterne)) พร้อมกองพลอาวุธครบครัน ออกไปแทนในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1765 ฟร็องซัวส์ อ็องตวนผู้นี้เป็นเจ้าพนักงานรักษาพระแสงปืนยาวฮาร์เกอบุส (harquebus) เขาเดินทางถึงเมืองเลอมาลซีเยอ (Le Malzieu) เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน
♨️ภาพสลักในคริสต์ศตวรรษที่ 18 แสดงภาพอ็องตวนกำลังฆ่าสัตว์ร้าย
วันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1765 อ็องตวนเผชิญหน้ากับสุนัขป่ากายเขื่องสีเทา สูงแปดสิบเซนติเมตร ยาวหนึ่งเมตรกับอีกเจ็ดเซนติเมตร และหนักหกสิบกิโลกรัม บริเวณป่าใกล้เคียงกับวัดแห่งชาส (Abbaye des Chazes)
เขาได้สังหารมัน และสุนัขป่าตัวนั้นต่อมาได้นามว่า “สุขัขป่าแห่งชาส” (Le Loup de Chazes) อ็องตวนแถลงอย่างเป็นทางการว่า “ด้วยรายงานอันเราได้ลงลายมือชื่อแล้วฉบับนี้ เราขอประกาศว่า เรามิเคยประสบสุนัขป่ากายใหญ่โตถึงเพียงนี้มาก่อน
🙄นี้จึงเป็นเหตุผลที่เราเชื่อว่า มันเป็นอ้ายเดรัจฉานอันสยองขวัญยิ่งนักซึ่งที่ผ่านมาได้สร้างความเสียหายเป็นอันมากแก่ชาวเรา” เหยื่อที่รอดจากการโจมตีก็เชื่อว่าสุนัขป่าตัวนี้คือสัตว์ร้ายที่ร่ำลือกัน หลังจากได้เห็นแผลเป็นบนลำตัวของมัน อันเกิดจากการที่พวกเขาป้องกันตนเองจากมัน ต่อมา สุนัขป่าตัวนี้ถูกชำแหละแล้วเข้ากระบวนการคงสภาพไว้ ก่อนส่งไปพระราชวังแวร์ซายส์ ที่ซึ่งราชสำนักเชิดชูว่าอ็องตวนเป็นวีรบุรุษ และพระมหากษัตริย์ก็พระราชทานเงินรางวัลจำนวนมากพร้อมบรรดาศักดิ์หลากหลายให้แก่เขา
🙄สัตว์ร้ายตัวที่สอง
ทว่า วันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1765 มีสัตว์ร้ายอีกตัวปรากฏที่ตำบลลาแบสแซร์แซงต์มารี (la Besseyre Saint Mary) แล้วทำร้ายเด็กไปสองคน หลังจากวันนั้นก็มีผู้คนถูกทำร้ายล้มตายอีกเป็นอันมาก
ฌ็อง ชัสเต็ล (Jean Chastel) นักล่าสัตว์ท้องถิ่น จึงออกตามฆ่าสัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ เขาพบมันแถวซ็อญโดฟวร์ (Sogne d'Auvers) และฆ่ามันเสียเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ค.ศ. 1767 เจ้าพนักงานท้องถิ่นได้ชันสูตรศพสัตว์ดังกล่าว พวกเขาผ่าท้องมัน แล้วพบซากศพมนุษย์เป็นอันมาก เมื่อสัตว์ตัวที่สองตายแล้วก็ไม่ปรากฏเหตุร้ายอีก
นักเขียนรุ่นหลัง เช่น เชอวาลเลย์ (Chevalley) เอาไปแต่งเป็นนิยายว่า ชัสเต็ลฆ่ามันโดยใช้กระสุนเงินปลุกเสกที่ผลิตเอง และมีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่า ชาสเต็ลฆ่าสัตว์ร้ายตัวที่สองขณะที่นั่งลงอ่านพระคัมภีร์แล้วสังวัธยายบทสวดพร้อมกับนักล่าคนอื่น ๆ บัดดล ปีศาจร้ายก็โผล่มาให้เห็น และจ้องมาที่ชาลเต็ล ชาลเต็ลผู้ท่องบทสวดเสร็จพอดีก็ยิงมันถึงแก่ความตาย เรื่องนี้มิใช่วิสัยสัตว์ดุร้ายทั่วไปที่จะจู่โจมทันทีและไม่จ้องดูเหยื่อเสียก่อน
😱รูปลักษณ์สัตว์ร้าย
สัตว์ร้ายที่อ็องตวนฆ่าเมื่อวันที่ 21 กันยายน ค.ศ. 1765 แล้วทำให้คงสภาพ ก่อนส่งไปถวายพระเจ้าหลุยส์ที่ 15
ในช่วงที่สัตว์ร้ายออกล่านั้น มีผู้คาดเดารูปลักษณ์ของมันไปต่าง ๆ นานา ตั้งแต่ว่ามันเป็นมนุษย์หมาป่า จนถึงเป็นสัตว์ที่ถูกพระผู้เป็นเจ้าสาปส่ง เจย์ เอ็ม สมิธ (Jay M. Smith) เขียนหนังสือ “อสุรกายแห่งเฌโวด็อง” (“Monsters of the Gévaudan”) ว่า ความตายที่เกิดทั้งหลายนั้นชะรอยจะเป็นผลงานของสัตว์เดรัจฉานจำพวกสุนัขป่าจำนวนหนึ่งหรือเป็นฝูง ขณะที่ริชาร์ด เอช. ธอมป์สัน (Richard H. Thompson) เขียนหนังสือ “การล่าสุนัขป่าในฝรั่งเศสรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่สิบห้า: สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง” ว่า เมื่อพิเคราะห์ลักษณะการโจมตีของสัตว์ดุร้ายหลาย ๆ ประเภทแล้ว ก็น่าเชื่อว่าสัตว์ร้ายที่ก่อเหตุนั้นเป็นสุนัขป่า
🐺แต่ก็มีผู้ร่ำลือว่า น่าจะเป็นสุนัขบ้าน หรือสัตว์ข้ามพันธุ์ระหว่างสุนัขป่ากับสุนัขบ้าน อ้างอิงขนาดร่างกายและสีสันของสัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง มิเชล ลูอี (Michel Louis) นักธรรมชาติวิทยาผู้เขียนหนังสือ “สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็อง: หมาป่าผิดตรงไหน” (“La bête du Gévaudan: L'innocence des loups”) สนับสนุนข้อนี้ ลูอีว่า ฌ็อง ชาสเต็ล เคยกล่าวว่าเห็นสุนัขบ้านพันธุ์มาสตีฟ (mastiff) ตัวใหญ่ สีแดง บ่อย ๆ ลูอีเชื่อว่าสุนัขบ้านพันธุ์นี้คือโคตรเหง้าของสัตว์ร้ายที่ก่อเหตุ เขากล่าวด้วยว่า ที่สัตว์ร้ายนี้ทนกระสุน ก็อาจเป็นเพราะมันสวมหนังสัตว์ เช่น หนังงูเหลือม เป็นเกราะ และที่มันสวมหนังสัตว์เช่นนี้ อาจเป็นคำอธิบายสำหรับสีกายอันประหลาดของมัน เขาไม่เชื่อว่าหมาในจะเป็นสัตว์ร้ายในเหตุการณ์ เพราะการชันสูตรสัตว์ร้ายที่ถูกฆ่าพบว่ามีเขี้ยวสี่สิบสองซี่ แต่หมาในมีเพียงสามสิบสี่ซี่
นักวิทยาการสัตว์ลึกลับบางคนว่า สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องอาจเป็นเผ่าพันธุ์วาฬเมโซไนคิด (Mesonychid) ที่เหลือรอดมาก็ได้ เพราะประจักษ์พยานบางคนว่ามันมีกีบ แทนที่จะมีอุ้งเล็บ และมันก็ใหญ่โตกว่าสุนัขป่าตามธรรมชาติด้วย
👉🏿ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2009 ช่องฮิสตรีแชนเนล (History Channel) ออกอากาศสารคดี "มนุษย์หมาป่าตัวจริง" ("The Real Wolfman") โดยโต้แย้งว่า สัตว์ร้ายแห่งเฌโวด็องเป็นหมาในจากเอเชียพันธุ์หนึ่งที่บัดนี้สูญพันธุ์ไปแล้วในยุโรป
อ้างอิงจาก: wikipedia และ YouTube
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ตรงนี้มีคำตอบคนละครึ่งพลัสเฟส 1 ใช้ไม่หมดสามารถนำไปใช้เฟส 2 ได้หรือไม่
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม
ปิดฉาก! มหากาฬฯ โบนัสพนักงาน “ไดกิ้น” คือ Get out












