ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวถึงยังไม่ฟื้น มาตราการจากรัฐความหวังครั้งสุดท้าย
เห็นข่าว ททท. จ่อเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ เพื่อของบจากรัฐบาลเพิ่ม 1,035.75 ล้าน มาทำโปรเจค “เราฟื้นด้วยกัน” ที่จะใช้ในการ “บูสเตอร์ช็อต” หรือวัคซีนเข็มกระตุ้น หวังช่วยฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ
มานั่งฉุกคิดว่า จะฟื้นได้จริงหรือป่าว!?
และที่บอกว่า “บูสเตอร์ช็อต” ฟื้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั้งระบบ จะทำได้จริงไหม แล้วต้องใช้ระยะเวลานานแค่ไหน
เพราะทุกวันนี้คนไทย ถึงจะออกจากบ้านเดินทางท่องเที่ยวในประเทศขยับเพิ่มมากขึ้น แต่ก็เที่ยวกันแบบตระหนี่ถี่เหนียว ยังต้องกั๊กเงินในกระเป๋าไว้ยามฉุกเฉิน
และตอนนี้ เหมือนจะมีความหวังลางๆ กับโครงการใหม่
#ศบค อนุมัติขยายวีซ่านักท่องเที่ยว มีผล 1 ต.ค.หวังเพิ่มรายได้-กระตุ้นเดินทาง
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เห็นชอบขยายระยะเวลาพำนักของผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งเพิ่มรายได้การท่องเที่ยว โดยกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง และเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ดังนี้
1. ขยายระยะเวลาพำนัก สำหรับผู้ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราในการเข้าประเทศ ทั้งที่ไทยให้แต่ฝ่ายเดียว และที่มีความตกลงระหว่างกัน จากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน
2. ขยายระยะเวลาพำนัก สำหรับผู้ได้รับ Visa on Arrival (VOA) จากไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน
3.การขยายระยะเวลาพำนักของผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรข้างต้น ให้มีผลตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ถึง 31 มีนาคม 2566
4. มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการตามมติ ศบค.ต่อไป
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะกระตุ้นการท่องเที่ยวได้ขนาดได้ ต้องมาจับตาดูกัน
จากสถานการณ์ต่างๆ เราคิดว่า...คงต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรกว่าที่จะกลับมาฟื้นได้เหมือนเดิมก่อนเกิดโควิด และยังคงเฝ้ารอการเยียวยาจากรัฐ มาเป็น “อัศวินม้าขาว” ช่วยประคับประคองกันมากกว่านี้ มาช่วยพยุงขึ้นเดินได้ตามปกติ
แต่ก็ต้องขอบคุณรัฐบาลที่ยังพยายามออกโปรเจคต่างๆ มาช่วย ถึงแม้บางโปรเจคอาจจะยังช่วยไม่ตรงจุด หรือกระจายไม่ทั่วถึงก็ตาม
อ้างอิงจาก: ศบค.โครงการรับนักท่องเที่ยว