คืบหน้าพ่อเมายาหยอกลูกวัย 24 วันรุนแรง
คืบหน้าพ่อเมายาหยอกลูกวัย 24 วันรุนแรง นายอำเภออุทุมพรพิสัยร่วมกับ ตม.พมจ.ซองดูฮีเข้าช่วยเหลือ ผลตรวจร่างกายแม่ลูกปกติดีทุกอย่าง เตรียมจัดหาเอกสารให้น้องมาเฟียไปทำพาสปอร์ตเพื่อเดินทางกลับไป สปป.ลาว ขณะที่ ตร.สภ.ราษีไศล เตรียมส่งตัวพ่อเมายาไปฟ้องศาลพิจารณาโทษตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายณัฐพล บัวหุ่ง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 5 ต.บัวหุ่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้มีอาการเมายาบ้าอย่างหนักและได้หยอกน้องมาเฟีย ลูกสาววัยเพียง 24 วันอย่างรุนแรง ทำให้แม่ซึ่งเป็นชาวลาวทนไม่ได้ เกรงว่าลูกสาวจะมีอันตราย เนื่องจากสามีมีอาการเมายาบ้า จึงได้ถ่ายภาพและมีการโพสต์ลงสื่อโซเชียล ซึ่งต่อมากำนัน ต.บังหุ่งและ ผู้ใหญ่บ้านบัวหุ่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ราษีไศล เข้าไปให้การช่วยเหลือ โดยทำการจับกุมนายณัฐพล ไปดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ขณะที่ นายศุกล เครือเสน อายุ 26 ปี หรือ ซองดูฮี ศิลปินชื่อดังผู้ใจบุญและคณะได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือมารับตัว นางวันนา ตะมอง อายุ 26 ปี ภรรยาชาวลาวพร้อมน้องมาเฟีย เด็กหญิงอายุ 24 วัน ไปดูแลเพื่อช่วยเหลือเตรียมส่งตัวกลับไป สปป.ลาว ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงาน ซองดูฮี บ้านสำโรง ต.สำโรง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภออุทุมพรพิสัย พร้อมด้วย นายอภิสิทธิ์ ปัญญาคง หน.กลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ศรีสะเกษ (พมจ.) น.ส.จิระพรรณ มากนวล นักสังคมสงเคราะห์ปฏิบัติการ และ น.ส.เอลาวัน วรรณวงษ์ นักจิตวิทยา สนง.บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาพบกับ นางวันนา ตะมอง แม่ชาวลาว และน้องมาเฟีย ลูกสาวอายุ 24 วัน และผู้จัดการส่วนตัวของ ซองดูฮี เพื่อหารือเกี่ยวกับการช่วยเหลือ นางวันนาและบุตรสาวที่ยืนยันว่า ขอหย่าขาดจาก นายณัฐพล สามีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส โดยได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ราษีไศล ไว้แล้วเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2565 โดยมี กำนัน ต.บัวหุ่ง และ ผญบ.บ้านบัวหุ่ง เป็นพยาน ซึ่งทางบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ ได้มารับตัวนางวันนา กับบุตรสาว เพื่อให้ไปพักที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ศรีสะเกษ โดยจะได้มีการอำนวยความสะดวกอย่างเต็มที่ พร้อมกับจะเดินทางไปส่ง นางวันนากับบุตรสาวที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคายอีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.อาทิพย์ ซึมดอน ผกก.ตม.ศรีสะเกษ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.(ญ) ชัญญา พรหมวารี รอง ผกก.ตม.ศรีสะเกษ ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือแนะนำรวมทั้งตรวจสอบเกี่ยวกับเอกสารหลักฐานของ นางวันนา เนื่องจากว่า เป็นคนต่างด้าว โดยพบว่า หนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ตของนางวันนา ยังไม่หมดอายุแต่อย่างใด และมีหนังสืออนุญาตทำงานในประเทศไทยถูกต้อง พร้อมทั้งจะได้อำนวยความสะดวกในการจัดเตรียมเอกสารของน้องมาเฟียลูกสาวของนางวันนา ไปจัดทำหนังสือเดินทางที่ จ.อุบลราชธานี รวมทั้งจะได้ประสานงานกับด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคายในการอำนวยความสะดวกให้กับ 2 แม่ลูกในการที่จะเดินทางกลับไปยังเมืองเฟือง กรุงเวียงจันทร์ สปป.ลาว ตามความประสงค์ของนางวันนา ต่อไป
นางวันนา ตะมอง แม่ชาวลาว กล่าวว่า การที่ได้รับความเมตตาจากซองดูฮี นายอำเภออุทุมพรพิสัย ตม.และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาให้การช่วยเหลือตนกับลูกสาวในครั้งนี้ ตนต้องขอกราบขอบพระคุณมากและตนรู้สึกสบายใจมากที่คนไทยใจดีมาก ส่วนการที่หากว่า นายณัฐพล อดีตสามีของตนจะมาง้อขอคืนดีด้วยนั้น ตนคงจะไม่กลับไปอยู่ด้วยอีกแล้ว เพราะว่า หากกลับไปอยู่กับนายณัฐพล เหตุการณ์ต้องเลวร้ายกว่าเดิมอีก ตนขอกลับไปอยู่กับพ่อแม่ของตนที่ สปป.ลาวเช่นเดิมดีกว่า โดยจะตั้งใจเลี้ยงลูกสาวของตนให้ดีที่สุด
นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภออุทุมพรพิสัย กล่าวว่า ขณะนี้ทางอำเภออุทุมพรพิสัยได้ประสานกับ สภ.ราษีไศลและอำเภอราษีไศลในการให้ความช่วยเหลือนางวันนาและบุตรสาว ทั้งนี้ทาง ซองดูฮีได้นำนางวันนาแม่ชาวลาวและบุตรสาวอายุ 24 วันไปตรวจร่างกายที่ รพ.อุทุมพรพิสัย ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จาก ผอ.รพ.อุทุมพรพิสัยตรวจร่างกายให้ ปรากฏว่าสภาพร่างกายปกติดีไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดและในส่วนของ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ ก็ได้ช่วยเหลือในเรื่องของการตรวจสอบพาสปอร์ตของนางวันนา ตะมองและการเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทย ก็พบว่านางวันนามีอายุพาสปอร์ตถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 และสามารถที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อไปได้ แต่ว่านางวันนามีความประสงค์ที่จะเดินทางกลับ ไปอยู่ที่ ภูมลิเนาเดิมคือที่เมืองเฟือง เวียงจันทน์ สปป.ลาว ซึ่งทาง อ.อุทุมพรพิสัยก็ได้เตรียมการในด้านของการจัดเตรียมเอกสารทำหนังสือเดินทางให้กับน้องมาเฟียซึ่งเป็นบุตรสาวของนางวันนา ซึ่งน้องมาเฟียเป็นคนไทยจะต้องทำเป็นหนังสือเดินทางไทย ซึ่งตนได้ประสานกับทาง ผกก.สภ.ราษีไศลซึ่งกำลังดำเนินคดีกับ นายณัฐพล บัวหุ่ง ซึ่งเป็นบิดาของน้องมาเฟียเพื่อให้ไปให้ความยินยอมของการที่จะให้บุตรสาวทำหนังสือเดินทางและออกจากประเทศไทยไปอยู่ที่ประเทศ สปป.ลาว ได้
นายศราวุธ ทรงโฉม นายอำเภออุทุมพรพิสัย กล่าวต่อไปว่า ซึ่งการดำเนินการทำหนังสือยินยอมก็สามารถที่จะไปแจ้งยังที่ว่าการ อ.ราษีไศล ซึ่งผู้ปกครองท้องที่คือกำนัน ผญบ. และทางปลัดอำเภอจะต้องลงนามเป็นพยานและนำเอกสารนี้ไปยื่นต่อสำนักงานหนังสือเดินทาง จ.อุบลราชธานีเพื่อประกอบการขอทำหนังสือเดินทางประกอบการข้ามแดนที่ จ.หนองคายต่อไป ซึ่งตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จ.ศรีสะเกษ ได้ช่วยดำเนินการให้ในส่วนนี้ ส่วนการที่มีข่าวว่านายณัฐพล บัวหุ่ง บิดาของน้องมาเฟียจะไม่ยินยอมให้น้องมาเฟียเดินทางไปอยู่ที่ สปป.ลาวกับมารดานั้น เรื่องนี้ ผกก.สภ.ราษีไศลรวมทั้งกำนัน ผญบ.ได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนายณัฐพลแล้ว ซึ่งทราบว่านายณัฐพลก็ยินดีที่จะอำนวยความสะดวกและให้นำน้องมาเฟียไปอยู่กับมารดาที่ สปป.ลาวได้ หากทำหนังสือเดินทางเสร็จก็จะออกเดินทางทันที ซึ่งนางวันนาได้แจ้งให้ทางญาติพี่น้องที่อยู่ใน สปป.ลาวได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว ตนต้องขอขอบคุณทาง อ.ราษีไศล สภ.ราษีไศล ตม.จว.ศรีสะเกษ รพ.อุทุมพรพิสัย รพ.ราษีไศลและทางน้องยูทูปเบอร์ ซองดูฮี และพี่น้องจิตอาสาทุกคนที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือนางวันนา กับบุตรสาวในครั้งนี้
ทางด้าน พ.ต.ท.มงคล ละเหลา สว.สอบสวน สภ.ราษีไศล เจ้าของคดีนี้ กล่าวว่า ได้แจ้งข้อกล่าวหา นายณัฐพล บัวหุ่ง ในข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ซึ่งนายณัฐพล ได้ให้การรับสารภาพ ตนจะนำตัวนายณัฐพล ไปส่งฟ้องที่ศาล จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้ศาลพิจารณาลงโทษตามกฎหมายต่อไป/////
ภาพ / ข่าว ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ. ศรีสะเกษ