ฉีดฟิลเลอร์ปากอย่างไรให้ได้ปากกระจับสวย แก้ปากบางเกินไป เพื่อริมฝีปากรับกับใบหน้า

การฉีดฟิลเลอร์ปาก คือ หนึ่งในเทรนด์ความงามที่หลายคนให้ความสนใจทำกันมากในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำปากกระจับ การเติมฟิลเลอร์ปากเพื่อแก้ปัญหาปากบางให้ดูอวบอิ่มมากขึ้น แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน ปากแห้งแตกเป็นร่อง ทั้งจากวัยที่เพิ่มมากขึ้นและพันธุกรรม การฉีดฟิลเลอร์ปากมีข้อควรรู้ด้วยกันหลายเรื่องที่จะช่วยให้ออกมาสวยรับกับใบหน้า เทคนิคการฉีด การเลือกทรงปากให้เหมาะกับรูปหน้า ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่ใช้ ใครอยากฉีดฟิลเลอร์ปากต้องอ่านค่ะ!

ฉีดฟิลเลอร์ปาก มีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?

นอกจากจะเลือกทรงปากที่ต้องการแล้ว การฉีดฟิลเลอร์ปากยังมีการเตรียมตัวอีกหลายขั้นตอนที่ควรรู้ ที่จะส่งผลในเรื่องระยะเวลาที่ฟิลเลอร์จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน เพื่อริมฝีปากสวยอย่างคุ้มค่าและปลอดภัย ข้อควรปฏิบัติในการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก มีดังนี้

1. หาข้อมูล ศึกษารีวิวเพื่อเปรียบเทียบผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์ปากในคลินิกที่กำลังให้ความสนใจ เลือกฉีด filler ปากกับคลินิกที่น่าไว้วางใจและได้มาตรฐาน
2. หาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสังเกตฟิลเลอร์แท้ ต้องเป็น Hyaluronic Acid (HA) ที่ผ่านการรับรองจากอย. เพื่อให้เราสามารถตรวจสอบในเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ก่อนฉีดทุกครั้ง
3. 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้งดการแว็กซ์ และควรหยุดใช้ยาทาที่ออกฤทธิ์ในเรื่องการผลัดเซลล์ผิว
4. 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก แนะนำให้งดการรับประทานยาแอสไพริน ยา NSAIDs อาทิ ibruprofen, diclofenac, ponstan รวมถึงควรหยุดกินวิตามิน เช่น St.Johns Wort, ginko biloba, primrose oil, Vitamin E, garlic, ginseng เป็นต้น
5. 24 ชั่วโมงก่อนฉีดเติมปาก แนะนำให้งดเครื่องดื่มจำพวกที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และงดการทำกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
6. สำหรับคนที่ต้องกินยาเป็นประจำ หรือเป็นคนที่มีมีโรคประจำตัว ต้องแจ้งให้หมอรับทราบก่อนฉีดอย่างครบถ้วนด้วยค่ะ

การฉีดฟิลเลอร์ปาก มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง?

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปากไม่ได้ยุ่งยากเลยค่ะ คนที่จะมาฉีดเป็นครั้งแรกอาจยังมีข้อสงสัยว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เรามาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

1. ก่อนอื่นเลยคือการนัดเข้าไปปรึกษาคุณหมอที่คลินิกที่เราเลือกแล้วว่าได้มาตรฐาน เพื่อให้หมอที่มีประสบการณ์ช่วยประเมินใบหน้า ปัญหาของริมฝีปากที่ควรแก้ไข รวมถึงให้คำแนะนำการเลือกทรงปากให้ดูสวยรับกับใบหน้า
2. แพทย์จะให้คำแนะนำถึงการเลือกฉีดฟิลเลอร์รุ่นและยี่ห้อไหนดี ให้เหมาะสมกับรูปทรงปากตามที่ต้องการและเหมาะกับลักษณะปัญหาริมฝีปากที่ต้องการแก้ไข
3. สำหรับใครที่แต่งหน้าทาปากมาจากบ้านในวันที่ฉีดฟิลเลอร์ปาก ทางคลินิกจะช่วยทำความสะอาดบริเวณจุดที่จะฉีดให้ก่อน
4. ในการฉีดฟิลเลอร์ปากทุกเคสจะมีขั้นตอนการฉีดยาชาให้ค่ะ สำหรับคนที่กลัวว่าจะเจ็บมากสามารถแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ เพราะทางคลินิกจะช่วยแปะยาชาเพิ่มเติมให้
5. ก่อนฉีดฟิลเลอร์ปากทุกครั้ง หมอจะแกะกล่องใหม่ให้คนไข้ดูต่อหน้า เพื่อเพิ่มความมั่นใจในด้านความปลอดภัย ว่าเป็นตัวยาฟิลเลอร์ของแท้ ได้มาตรฐาน
6. ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ปาก ปรับรูปทรงปากให้ดูเป็นธรรมชาติ โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์
7. การประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยให้ความเจ็บระหว่างการฉีดฟิลเลอร์ปากลดน้อยลง เนื่องจากความเย็นจากน้ำแข็งจะช่วยในเรื่องการลดบวมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
8. แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีดูแลตัวเอง ข้อควรปฏิบัติให้ filler เข้าที่ไวและคงอยู่ได้นานขึ้น หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากเสร็จเรียบร้อยแล้ว
9. ทางคลินิกจะทำนัดเพื่อให้คนไข้เข้ามาติดตามผล หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากครบระยะเวลา 1 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ริมฝีปากเข้าที่แบบเต็มที่แล้วค่ะ

วิธีการดูแลตัวเอง หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก 

• เพื่อให้ฟิลเลอร์สามารถคงอยู่ได้ยาวนานขึ้น และฟิลเลอร์ฟูขึ้นจากการเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ แนะนำว่าหลังฉีดฟิลเลอร์ปากควรหันมาดื่มน้ำให้มากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่ไม่ชอบดื่มน้ำควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ใส่ใจเรื่องการดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ ในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสริมฝีปากบริเวณที่ฉีด หลังการเติมฟิลเลอร์ปาก
• ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องดื่มร้อน ๆ เนื่องจากอาจทำให้ปากเกิดการอักเสบ หรือปากบวมขึ้นมาได้
• เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ริมฝีปากหลังฉีดฟิลเลอร์เกิดการเสียรูปทรง แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่หนักจนเกินไป
• หยุดพฤติกรรมการลอกหนังริมฝีปาก หรือดึงหนังบริเวณปาก เพราะนอกจากจะเป็นการทำร้ายผิวหนังบริเวณริมฝีปากแล้ว ยังทำให้ผิวหนังเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลงด้วย

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ปาก คืออะไร?

• การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม แก้ปัญหาปากบางเกินไป
• ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก แก้ปัญหาปากแตก ปากแห้ง
• แม้ฟิลเลอร์ปากผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ไม่ถาวร แต่เราก็สามารถเข้ามาฉีดเพิ่มได้เรื่อย ๆ โดยใช้เพียง 1-2 CC ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน
• ช่วยปรับรูปทรงริมฝีปากได้อย่างสะดวก รวดเร็ว เห็นผลทันที ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
• เป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
• สามารถฉีดสลายได้ หากทำแล้วรู้สึกว่าไม่พอใจกับรูปทรงปากที่ได้
• ช่วยปรับรูปทรงปากให้ได้สมมาตร แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน

ฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากไม่เท่ากันให้ดูมีสมดุลยิ่งขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ควรใช้กี่ CC ให้ออกมาสวยรับกับใบหน้า?

คนไข้ในแต่ละเคสอาจใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่แตกต่างกันไปค่ะ แนะนำว่าให้เข้าไปพบคุณหมอให้ช่วยประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมก่อนฉีดทุกครั้ง

• ปริมาณฟิลเลอร์ปากเพียง 1 cc ก็ถือว่าเพียงพอที่จะใช้ฉีดเพื่อเติมริมฝีปากให้ดูสวยได้รูปยิ่งขึ้น
• สำหรับปริมาณฟิลเลอร์ 2 cc จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้ริมฝีปากเยอะ ๆ อยากให้ปากได้รูปทรงแนวสายฝอ ที่ดูอวบอิ่มมาก ๆ

รีวิว ฉีดฟิลเลอร์ปาก

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปาก อยู่ได้นานกี่เดือน?

ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปาก หรือฉีดปากกระจับ จะคงอยู่ได้นานประมาณ 6-18 เดือน แต่ถ้าใครที่ชอบดื่มเครื่องดื่มหรือรับประทานอาหารร้อน ๆ จะส่งผลให้ฟิลเลอร์มีโอกาสสลายไปเร็วขึ้นกว่าปกติ ดังนั้น หากเรามีการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ก็จะช่วยให้ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานยิ่งขึ้นค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ปาก อันตรายไหม?

หากเราเลือกใช้ฟิลเลอร์แท้และฉีดกับหมอที่มีประสบการณ์ การฉีดฟิลเลอร์ปาก ไม่อันตรายค่ะ เทคนิคการฉีดที่ถูกต้องของหมอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากปากจะเป็นตำแหน่งที่มีเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กจำนวนมาก ฉีดเติมปากกับหมอที่มีประสบการณ์จะช่วยลดความเสี่ยงฟิลเลอร์จะอุดตันได้

ทำไมหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก แล้วเกิดเป็นก้อน?

• การเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ หรือรุ่นที่ไม่เหมาะกับปัญหาริมฝีปากในแต่ละคน
• การฉีดฟิลเลอร์ปลอม ตัวยาไม่ได้มาตรฐาน จนส่งผลเสียขึ้นได้ในภายหลัง
• การฉีดฟิลเลอร์ปากกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ ทั้งนี้ ปากคือบริเวณที่มีการขยับเขยื้อนบ่อย หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณสมบัติเนื้อแข็ง จะไม่เหมาะกับการนำมาใช้ฉีดเติมเต็มริมฝีปาก

ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี?

• ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Kysse
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
• ฟิลเลอร์เนื้อละเอียด แต่มีความคงตัว
• ช่วยสร้างขอบริมฝีปากได้อย่างชัดเจน ช่วยเติมริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม รวมถึงช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก
• เป็นรุ่นที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับใช้ฉีดเติมเต็มริมฝีปาก
• ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Refyne
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
• filler รุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้ฉีดเพื่อช่วยเติมเต็มให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม
• ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม และยืดหยุ่น
• ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Volyme
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
• ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มปานกลาง อุ้มน้ำ มีความยืดหยุ่นสูง
• filler รุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้ฉีดมุมปาก
• หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก จะไม่เกิดเป็นก้อนในภายหลัง
• ให้ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ

• ฟิลเลอร์ Restylane รุ่น Vital Light
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก ช่วยแก้ปัญหาริมฝีปากแห้งได้เป็นอย่างดี
• filler รุ่นนี้เหมาะสำหรับใครที่ไม่อยากเพิ่มความหนาของริมฝีปากให้มากไปกว่าเดิมนัก
• ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volift
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
• filler รุ่นนี้หลังฉีดไม่เกิดเป็นก้อน
• ให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม มีความละเอียด ยืดหยุ่นสูง
• ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Volite
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อละเอียด ช่วยในเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
• filler รุ่นนี้เหมาะสำหรับใครที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปาก อยากจะฉีดเพื่อเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย
• ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Ultra Plus
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
• filler รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ฉีดแล้วฟูมาก เหมาะสำหรับใครที่อยากฉีดเติมปากให้ดูอวบอิ่ม อยากมีริมฝีปากแบบ สายฝอ
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม
• ฟิลเลอร์ Juvederm รุ่น Voluma
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 18 เดือน
• ฟิลเลอร์ฟูปานกลาง เนื้อแข็ง และแน่น
• ฟิลเลอร์รุ่นนี้สามารถคงอยู่ได้นานมากที่สุด
• เป็นรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่อยากฉีดฟิลเลอร์ปากให้ดูอวบอิ่ม และอยากให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน
• ฟิลเลอร์ Belotero รุ่น Volume
• หลังฉีดอยู่ได้นานประมาณ 12-18 เดือน
• เป็นฟิลเลอร์เนื้อแน่น ฉีดแล้วอยู่ทรง ใช้ฉีดเพื่อเพิ่ม Volume ให้ริมฝีปากได้เป็นอย่างดี
• ฟิลเลอร์รุ่นนี้เป็นรุ่นที่เหมาะกับใครที่อยากฉีดปากให้อวบอิ่มมาก แบบสายฝอ

การฉีดฟิลเลอร์ปาก เพื่อทำปากกระจับสวย ๆ เติมเต็มริมฝีปากให้อวบอิ่ม ได้รูป ชุ่มชื้น ไม่แห้งแตก แก้ปัญหาปากไม่เท่ากัน ปากบางเกินไป ทาลิปสติกแล้วตกร่อง การที่จะฉีดเติมฟิลเลอร์ปากให้ได้ผลลัพธ์ออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ คุ้มค่าและปลอดภัยนั้น ควรศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบรีวิว เพื่อเลือกคลินิกเสริมความงามที่ได้มาตรฐาน น่าไว้วางใจ และเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้นค่ะ