ความฝันเกิดจากอะไร?
นักจิตวิทยาท่านหนึ่งที่มีชื่อว่า
"ซิกมันด์ ฟรอยด์"
ได้กล่าวถึงความฝันไว้ว่า
"ความฝันอาจเกี่ยวข้องกับประสบการณ์ที่ผ่านมาหรือเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ส่วนใหญ่ความฝันคือแรงปรารถนา ความวิตกทุกข์ร้อน ความกลัว ที่ถูกเก็บกดอยู่ในจิตไร้สำนึก หรือเป็นความพยายามแก้ปัญหาซึ่งยังไม่สามารถลุล่วงในตอนกลางวัน จึงเกิดความไม่สบายใจจึงแสดงออกในช่วงเวลาที่นอนหลับ เพราะต้องการระบายความรู้สึกวิตกกังวลนั้นออกมา"
แล้วนักจิตวิทยาจะสามารถตีความฝันได้ไหมล่ะ?
แม้ว่าจะมีแนวคิดจิตวิทยาต่างๆ มากมายรองรับความฝัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นจะสามารถตีความความฝันของเราได้อย่างตรงไปตรงมา เพราะว่าประสบการณ์ส่วนตัวของเราเองกับนักจิตวิทยามีรายละเอียดแตกต่างกัน การที่คนใดคนหนึ่งฝันถึงสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อาจแปลความออกมาไม่เหมือนกันก็ได้
ยกตัวอย่างความฝันที่สามารถตีความออกมาได้(อาจไม่ตรง)
"ฝันว่ากำลังโดนไล่ล่า"
หลายคนเคยฝันว่ากำลังวิ่งหนีอะไรสักอย่างที่น่ากลัว แถมการวิ่งในฝันก็หนืดยกขาเท่าไรก็หนีไม่ได้เสียที อาจลองเชื่อมโยงดูว่าเรากำลังเจอเหตุการณ์ที่รับมือไม่ได้หรือยังไม่รู้วิธีที่จะจัดการให้ลุล่วงอยู่หรือเปล่า เราอาจอยากหนีสถานการณ์นั้นเพราะไม่รู้จะดีลกับมันอย่างไร
"ฝันว่าฟันหลุด"
ถ้าพูดถึงมิติความเชื่อหลายคนอาจเคยได้ยินผู้ใหญ่บอกว่าถ้าฝันว่าฟันหลุดจะเสียญาติผู้ใหญ่ แต่ในทางจิตวิทยาอาจลองเชื่อมโยงว่าตอนนี้เรากำลังเผชิญกับคนหรือสถานการณ์ที่ทำให้สูญเสียความมั่นใจอยู่หรือเปล่า
แล้วฝันร้ายบอกถึงอะไรล่ะ?
บางคนมักฝันร้ายซ้ำๆ หรือฝันถึงเหตุการณ์ สถานที่เดิมบ่อยๆ แถมบางครั้งก็ฝันต่อจากที่ค้างไว้ เราไม่สามารถฟันธงได้ในทันทีว่าคนที่ฝันแบบนี้กำลังเผชิญอยู่กับสถานการณ์อะไร แต่ค่อนข้างแน่นอนว่ามีภาวะบางอย่างที่ยังไม่คลี่คลาย หรือมีปัญหาบางอย่างที่แวะเวียนมาบ่อยๆ และยังไม่สามารถจัดการได้ อาจเป็นเรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวันที่มองข้าม เลยมาแสดงออกในความฝันเพื่อให้มองเห็นมัน ไม่ใช่เรื่องงมงาย แต่ให้ลองคิดว่ามันกำลังเป็นเมสเสจจากความต้องการภายในของเรา
สำหรับบางคนที่ไม่ได้อยากเข้าใจความฝัน แต่ฝันร้ายบ่อยจนเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปกติ ให้ลองพิจารณาดูว่า ในชีวิตประจำวันมีความวิตกกังวลถึงความฝันนั้นอยู่หรือเปล่า ส่งผลกระทบกับชีวิตส่วนตัว หรือเริ่มไม่มีสมาธิทำงานเพราะคิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องที่ฝัน ก็สามารถคุยกับผู้เชี่ยวชาญได้โดยที่เราไม่ได้ป่วยแต่อย่างใด แต่อย่างน้อยที่สุดเราก็จะได้เข้าใจตัวเองมากขึ้น
ทุกอย่างที่เกิดในตัวเราไม่ว่าอะไร ถ้าอยากจะเข้าใจเราจะเข้าใจ เพราะมันล้วนมีที่มาที่ไปเสมอ