[รีวิวหนังญี่ปุ่น] ตับพังแค่ไหนกับ The Last 10 Years ความรักครั้งสุดท้ายและตลอดไป
ฟังรีวิวแบบจัดเต็มๆได้ในคลิป
The Last 10 Years (B)
สารภาพว่าพกทิชชู่เข้าโรงหลายแผ่น
แต่ไม่ได้ใช้เลย!? แป่ว เหตุผลคืออะไรกันนะ?
แปลกดี ทั้งที่ตัวหนังเองว่าด้วยเรื่องราว 10 ปีสุดท้ายในการต่อสู้ชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเผชิญโรคทางปอดที่รักษาไม่หาย กับชายอีกคนหนึ่งที่ชีวิตเคว้งคว้างจนไม่อยากใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อ เหตุการณ์ทั้งหมดเริ่มที่พวกเขาไปพบกันในวันคืนสู่เหย้ารวมรุ่นกับเพื่อนเก่าๆ ที่ทำให้ความสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่แสนจำกัดถูกสร้างขึ้นมาโดยที่ไม่ทันตั้งตัว
หากเรารักใครสักคน
เราจะอยากมีชีวิตต่อ
เพื่อที่จะได้ไปเจอเขา
อยู่กับเขา
บอกรักเขา
และจากที่ใช้ชีวิตแบบไม่กลัวตาย
จะกลับกลายเป็นกลัวขึ้นมาทันที
เพราะว่า เราไม่อยากสูญเสียใครคนนั้นของเราไป
รู้ทั้งรู้ว่าพลอตน้ำตาแตกตับพังแน่นอน
รู้ว่ากระแสคำวิจารณ์คนนั่งน้ำตาไหลกันทั่ว
รู้ว่าทำรายได้สูงยอดขายตั๋วพุ่งทะลุที่ญี่ปุ่นเป็นหนังแห่งปี
แถมมีทั้งเคนทาโร่ กับนานะ โคมัตสึ สองนักแสดงแม่เหล็ก
พร้อมกับวงดนตรี Radwimps ที่ทั้งเพลงและสกอร์ก็มีเอกลักษณ์มากๆในตัว
เออ องค์ประกอบโคตรส่งเสริมหนังขนาดนี้
แต่ดูจบแล้วแค่น้ำตาซึมนิดๆกับฉากช่วงท้ายเท่านั้นเอง
ทั้งที่เป็นพลอตที่เราชอบและน่าจะอินอยู่แล้ว
คนดูรอบๆในโรงก็พากันน้ำตาไหลสูดน้ำมูกไปหลายคน
ทว่าสำหรับเรา หนังกลับไม่ทำงานกับเราแบบนั้นขนาดนั้นแฮะ
ส่วนนึงเราว่าหนังมันยังบิ้วไม่สุด (แต่ไม่ใช่มันไม่บิ้วนะ มันก็จัดหนักจัดเต็มเหมือนกัน แต่จังหวะมัน และตัวละครนี่แหละที่ยังซื้อเราไม่ค่อยได้) ขยายความคือ ตัวละครยังไม่เข้าไปนั่งในใจเราขนาดนั้น หลายฉากมันดูรีบเล่าและพยายามไป โดยเฉพาะการเปลี่ยนปีแบบให้มันครบ10ปีแบบนี้ ไม่สามารถเทียบกับการใช้วิธีการเล่าแบบนี้กับหนังอย่าง Ito ได้เลย
คือไม่สมูธ
เหตุผล ตรรกะตัวละคร เราเข้าใจนะในสิ่งที่มันทำ
แต่บทจะมาก็มา บทจะไปก็ไป บางฉากดูเล่ากระโดดและขาดความเมคเซ้นจ์ กลายเป็นว่าเรากลับเห็นใจตัวละครพระเอกมากกว่าตัวนำนางเอกของเรื่องซะงั้น ทั้งที่นางก็ป่วยแลัวนานะก็แสดงไว้ได้ดราม่าจัดเต็ม แต่เรากลับรู้สึกดรอปกับตัวละครนี้
ช่วงแรกหนังอืดใช้ได้เลย ไม่นึกว่าหนังจะเอื่อยแบบนี้
แต่พอพ้นช่วงนึงของเรื่อง หนังก็กลับมาต่อติดกับเรา
หนังมีซีนสโลว์ที่จะเป็นเหมือนsignatureให้หนัง แต่จังหวะมันแปลกๆ โดยเฉพาะสโลว์ฉากจบ เราไม่ซื้อแฮะ แต่เข้าใจตัวละครนะในโมเม้นนั้นว่าคิดอะไร
ต่อมา เอา Radwimps มา เราว่าไม่ค่อยคุ้มเลย
ในหนังอ.มาโกโตะ ชินไค วงนี้ได้ปล่อยของเด็ดดวงกว่ามากๆ
แต่เรื่องนี้กลายเป็นแค่ช่วงเพลงเอนท์เครดิตเท่านั้น
ที่รู้สึกว่าได้ความเป็นวงนี้กลับมาหน่อย แต่ตัวสกอร์เอง
เขาก็ทำในสไตล์เขาซึ่งก็มีกลิ่นอายแบบ Your Name หรือ Weathering with you บ้าง แต่สกอร์เรื่องนี้ ยังเอาไปเทียบสองเรื่องนั้นไม่ติด คือมันยังไม่จำขนาดนั้น แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดี
ที่ดีคือการแสดงดีเลยแหละ และบรรยากาศใบไม้เปลี่ยนสี
โปรดักชั่น งานถ่ายภาพ ถือว่าทำออกมาได้งดงามสมบรรยากาศ โดยเฉพาะฉากหิมะ ดูช่างหนาวเย็นจับใจ
โดยสรุป ถ้าหนังแนวประมาณนี้
เรื่องนี้ยังแพ้หนังตับอ่อนฯของเรายาวไกล
ในขณะที่ถ้าเป็นฝั่งฮอลลีวู้ด โรคเกี่ยวกับปอดรักษาไม่หาย
และเป็นหนังรัก เรากลับคิดถึง Five Feet Apart ซึ่ง 5Feet ก็ทำไว้ได้น่าประทับใจกว่าเรื่องนี้ไปหลายขุมมากๆเช่นกัน
ฉากที่เราชอบที่สุดของเรื่องนี้ The Last 10 Years
น่าจะเป็นฉากสารภาพรักของพระเอก ประโยคในฉากนั้น
มันทำให้เราได้เข้าใจจริงๆว่า ตัวละครนี้ปรารถนาจะมีชีวิตอยู่ต่อเพื่อสิ่งใด