TAXI หื่น!ลวงสาวต่างด้าวไปข่มขืนเสร็จกิจแล้วส่งให้ตำรวจจับ ข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
อ่านข่าวแล้วสุดซ้ำใจในฝีมือคนด้วยกันที่ทำกันได้ขนาดนี้...
สาวเมียนมาร์แอบเข้ามาไทย เพื่อทำงาน เลยโพสหางานในเฟส คนร้ายเลยบอกว่ามีงานจะพาไปสมัคร(คงมีวิธีพูดให้เหยื่อไว้ใจ)
แต่พาเข้าโรงแรมข่มขืน แล้วที่แสบกว่านั้นข่มขืนเสร็จพาส่งตำรวจ ไปแจ้งว่าคนหลบหนีเข้าเมือง(คนโดนข่มขืนพูดภาษาไทยไม่ได้)
แต่ตำรวจไทยกะรอดเพราะตำรวจคงสื่อสารกันไม่ได้...แต่ตำรวจไทยไม่ธรรมดา หลบหนีเข้าเมืองเรื่องเล็ก ข่มขืนสิเรื่องใหญ่...นำมาสู่การตามล่าจับคุม...
ไปอ่านเนื้อข่าว..จากเพจพี่สรยุทธ์...
เมื่อวันที่ 23 เมษายน พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะ รอง ผอ.ศพดส.ตร., พ.ต.อ.เศรษฐพันธ์ ศรีสาคร ผกก.สน.หัวหมาก แถลงข่าวจับกุม
นายอดิเรก หรือหมี อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 685/2565 ลงวันที่ 8 เมษายน 2565 ในข้อหา
1.พรากผู้เยาว์อายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี โดยผู้เยาว์ไม่เต็มใจไปด้วยเพื่อการอนาจาร
2.ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยให้ผู้ถูกกระทำเข้าใจว่าผู้กระทำมีอาวุธปืน
3.หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น
4.ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธในเวลากลางคืน
5.ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็กเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
6.มีเครื่องวิทยุคมนาคมไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยจับกุมได้ที่บริเวณแขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.หัวหมาก รับแจ้งเหตุจาก น.ส.เอ ( นามสมมุติ) อายุ 17 ปี สัญชาติเมียนมา ว่า ถูกคนร้ายซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่ อ้างชื่อบุคคลอื่นหลอกลวงว่าจะพาไปสมัครงาน ก่อนจะพาเข้าโรงแรมม่านรูดและข่มขืนกระทำชำเรา และหลังก่อเหตุคนขับแท็กซี่คนดังกล่าว ก็พาตัวผู้เสียหายไปส่งตำรวจ แจ้งให้จับกุมในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายหญิงชาวเมียนมา อายุ 17 ปี ได้ให้น้าสาวซึ่งสามารถพูดและอ่านภาษาไทยได้ ช่วยโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กของน้าสาวเอง ก่อนที่นายอดิเรกจะใช้เฟซบุ๊กซึ่งใช้ใบหน้า และ ชื่อของบุคคลอื่น ทักมาว่าต้องการรับเข้าทำงาน และจะให้รถแท็กซี่ไปรับตัวผู้เสียหาย จนน้าสาวของผู้เสียหายหลงเชื่อ
วันที่ 1 เมษายน นายอดิเรก ได้ขับรถแท็กซี่สีชมพู มารับผู้เสียหายจากที่พัก และหลอกว่าจะพาไปหานายจ้าง ซึ่งน้าสาวได้ให้ผู้เสียหายขึ้นรถไปเพียงลำพัง แต่แทนที่นายอดิเรกจะพาผู้เสียหายไปหานายจ้าง กลับพาเข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในซอยอินทมาระ 31 โดยอ้างว่าจะพาไปตรวจ ATK และให้ผู้เสียหายรออยู่ในห้องพักโรงแรมดังกล่าว
จากนั้นในเวลา 21.30 น.วันเดียวกัน นายอดิเรกได้กลับเข้ามาในโรงแรมอีกครั้ง และจับผู้เสียหายใส่กุญแจมือ ก่อนจะข่มขืนกระทำชำเรา ซ้ำยังมีการถ่ายภาพขณะลงมือข่มขืนเหยื่อเอาในโทรศัพท์มือถือด้วย และยังลักเอาโทรศัพท์กับเงินสด 500 บาท ของผู้เสียหายไป
หลังจากที่นายอดิเรกก่อเหตุแล้ว ได้ขับรถพาผู้เสียหายไปส่งที่ สน.คลองตัน โดยได้แจ้งกับตำรวจว่า ให้จับกุมผู้เสียหายเนื่องจากเป็นบุคคลต่างด้าวที่ไม่พกหนังสือเดินทาง จากนั้นจึงรีบขับรถออกไปทันที
ตำรวจ สน.คลองตัน พร้อมล่ามแปลภาษา จึงได้สอบสวนผู้เสียหายเบื้องต้น จนทราบว่าถูกนายอดิเรกหลอกไปข่มขืนก่อนนำมาส่งตำรวจ จึงได้ให้การช่วยเหลือ และพาตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สน.หัวหมาก เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจ ศพดส.ตร. ร่วมกับ ตำรวจ สน.หัวหมาก ได้ติดตามจับกุมตัวนายอดิเรก ได้ในที่สุด โดยมีพฤติกรรมของผู้ต้องหา จะนำภาพและเบอร์โทรศัพท์ไปทิ้งไว้ในเพจเฟซบุ๊กสำหรับหางาน เมื่อมีผู้หลงเชื่อก็จะตกเป็นเหยื่อ
ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้หลอกลวงเหยื่อ พาไปโรงแรมหลอกว่าจะมีการตรวจ ATK และให้อาบน้ำชำระร่างกายสำหรับตรวจเชื้อ และ ลงมือข่มขืน ก่อนจะใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้จริง โดยอ้างว่าก่อเหตุเป็นครั้งแรก
เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบว่ายังมีผู้ตกเป็นเหยื่ออีกหลายราย มีหนึ่งรายที่ถูกหลอกลวงว่าจะพาไปทำงานย่านหนองแขม แต่ถูกมาไปยังห้องพักย่านประชาชื่น ซึ่งยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการลงมือข่มขืนหรือไม่ ทั้งยังพบว่านายอดิเรกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนคนลงพื้นที่ภาคใต้ โดยอยู่ระหว่างการขยายผล
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ผู้เสียหายหญิงสาวชาวเมียนมา เดินทางเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้แจ้งข้อหา เนื่องจากกรณีนี้ผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อ เจ้าหน้าที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความเป็นมนุษย์ จะเข้ามาดูแลและเยียวยาสภาพจิตใจก่อนส่งตัวกลับประเทศต่อไป
ส่วนผู้เสียหายรายอื่น หากมีเบาะแส สามารถมาแจ้งข้อมูลได้ที่ สน.หัวหมาก
ขอบคุณข้อมูลภาพ
อย่าไว้ใจใครง่ายๆ