"ฆ่าให้ตายด้วยการทับ" 1 ใน 5 อันดับวิธีการประหารนักโทษที่โหดร้ายที่สุดในอดีต ตอนที่ 1
นักโทษที่มีความผิดร้ายแรง อาจจะถูกลงโทษถึงขั้นประหารชีวิต แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศว่าจะมีการลงโทษ การประหารชีวิตในรูปแบบใด และก็มีหลายคนส่วนใหญ่มองว่าเป็นการกระทำที่ดูรุนแรงและโหดร้ายจนเกินไป จนในปัจจุบันได้เปลี่ยนการประหารชีวิตที่ทำให้นักโทษไม่ต้องทรมานและรุนแรงน้อยลง แต่คุณรู้หรือไม่ว่าถ้าย้อนกลับไปเมื่อหลายทศวรรษก่อน โทษประหารชีวิตนั้นมีหลายวิธี และแต่ละวิธีล้วนมีความโหดร้ายทารุนอย่างมาก และในกระทู้นี้ผมก็ได้นำเอา1ใน5การประหารที่โหดร้ายในอดีต มาให้คุณผู้อ่านได้ศึกษาและเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในอดีตครับ หมายเหตุ ภาพบางภาพหรือคำบรรยายอาจไม่เหมาะสมก็ขอ อภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
การประหารที่โหดร้ายในอดีตตอนที่1
การประหาร ฆ่าให้ตายด้วยการทับหรือการลงโทษด้วยน้ำหนัก วิธีการนี้เริ่มใช้ในทศวรรษที่13 จุดประสงค์คือเพื่อทรมานเหล่านักโทษที่ปากแข็ง ไม่ยอมคลายข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ต้องการออกมาง่ายๆ จึงต้องมีการทรมานด้วยวิธีนี้ ให้นักโทษรู้สึกเจ็บปวดทีละนิดจนต้องคลายความลับออกมา วิธีการนี้มีขั้นตอนไม่ยุ่งยากซับซ้อน เพียงแค่นำแผ่นไม้ขนาดใหญ่มาวางไว้บนหน้าอกของนักโทษ ที่ถูกตรึงแขนและขาให้อยู่กับพื้น หลังจากนั้นก็นำของที่มีน้ำหนัก ค่อยๆวางลงบนไม้ ซึ่งดูเหมือนจะเรียบง่ายแต่จริงๆแล้วโครตทรมานเลย นักโทษจะถูกสิ่งของที่วางบนไม้ ค่อยๆกดลงไปบนหน้าอกจนหายใจไม่ออกและดิ้นด้วยความทรมาน
ขั้นตอนนี้จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆและความรุนแรงจะค่อยๆเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักของสิ่งของที่วางลงไป ซึ่งสถิติที่ลงไว้ของนักโทษคือ317กิโลกรัม มีน้ำหนักเทียบเท่ากับกระสอบข้าว16กระสอบ และสภาพของศพนักโทษรายนี้คือ อวัยวะข้างในแหลกเหลว จนพุ่งออกตาม รูทวาร วิธีการนี้ ถูกใช้ต่อเนื้องจนถึงยุคล่าแม่มด ว่ากันว่ามีนักโทษที่ถูกประหารด้วยวิธีนี้กว่า3,000คน ส่วนใหญ่จะเสียชีวิต ตอนช่วงน้ำหนัก 180 กิโลกรัม และส่วนใหญ่นักโทษจะตายก่อนที่จะบอกความลับกับเจ้าหน้าที่ ที่ทรมานเขา
อ้างอิงจาก:เว็ปจัดอันดับการประหารทีโหดที่สุดในอดีต