15 ประโยชน์จากถั่วเขียว
ถั่วเขียว..โปรตีนสูง
ต้นถั่วเขียว (Green bean) ชื่อวิทยาศาสตร์ของถั่วเขียว คือ Vigna radiata (L.) R.Wilczek
ชื่อเรียกอื่นๆ เช่น ถั่วจิม ถั่วมุม ถั่วทอง เป็นต้น ถั่วเขียว
ถั่วเขียว (green bean)เป็นพืชในตระกูลถั่วเช่นเดียวกับ ถั่วเหลือง ถั่วลิสง ถั่วแขก และถั่วพลู ส่วนใหญ่ถั่วเขียวนิยมนำมาทำเป็นแป้ง วุ้นเส้น หรือนำไปนึ่งให้สุกแล้วนำไปทำขนม หรือนำไปเพาะทำเป็นต้นอ่อนหรือที่เรียกว่าถั่วงอก เพื่อนำมาปรุงเป็นอาหาร ถั่วงอกจะมีปริมาณวิตามิน C ที่มากกว่าถั่วเขียวที่เป็นเม็ด
ประโยชน์ของถั่วเขียว
1.ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด และป้องกันโรคหัวใจ การรับประทานถั่วเขียวสามารถลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี (LDL) และยังช่วยยับยั้งภาวะออกซิเดชั่นของไขมัน ที่จะไปทำลายหลอดเลือดได้ และเมื่อระดับคอเลสเตอรอลLDL ลดลง ความเสี่ยงเกิดโรคหัวใจก็จะลดลงด้วย เนื่องจากคอเลสเตอรอลLDL หากเข้าสู่ร่างกายแล้ว จะเข้าไปเกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือด ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีพอ ทำให้หัวใจต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อสูบฉีดเลือด และอาจก่อให้เกิดโรคหัวใจในที่สุด
2.ป้องกันภาวะการติดเชื้อ ด้วยปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเขียวที่มีมาก ไม่แพ้ซุปเปอร์ฟู้ดชนิดอื่น จึงทำให้ถั่วเขียวมีฤทธิ์ป้องกันการติดเชื้อ และการอักเสบภายในร่างกายได้ ส่งผลให้ความเสี่ยงอาการเจ็บป่วยและโรคภัยต่างๆ ลดลง
3.ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ถั่วเขียวถือเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะถั่วเขียวเป็นอาหารที่มีระดับน้ำตาลที่ต่ำ เมื่อรับประทานแล้วจะไม่ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งดีต่อการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วย
นอกจากนี้ถั่วเขียวยังป้องกันโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ โดยมีการศึกษาที่ทำการทดลองกับหนู พบว่าเมื่อให้หนูกินสารสกัดจากถั่วเขียวเข้าไป ระดับน้ำตาลในเลือดของหนูจะลดลง อีกทั้งระดับการตอบสนองของอินซูลินต่อน้ำตาลในเลือดก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงเมนูถั่วเขียวที่ใส่น้ำตาลสูง เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล หรือขนมหวานที่ทำจากถั่วเขียวจะดีที่สุด
4.ป้องกันท้องผูก ถั่วเขียวเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบการขับถ่ายได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบการขับถ่าย เช่น ท้องผูก หรือท้องอืด อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดภาวะลำไส้แปรปรวนได้อีกด้วย ในประเทศอินเดีย ได้นำถั่วเขียวมาปรุงกับขมิ้น ผักชี ยี่หร่า และขิง เพื่อเป็นยารักษาอาการปวดท้องเนื่องจากท้องผูก
5.เป็นอาหารล้างพิษ อีกหนึ่งคุณประโยชน์ที่มาจากไฟเบอร์ในถั่วเขียวก็คือ การล้างพิษให้ลำไส้ เพราะเมื่อรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์เข้าไปมากๆ ไฟเบอร์เหล่านั้นจะไปช่วยขจัดพิษต่างๆ ในร่างกายและช่วยให้ลำไส้ขับสารพิษออกมา เมื่อร่างกายสะอาดขึ้นก็จะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีมากขึ้น ทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง
6.บำรุงครรภ์ให้แข็งแรง โฟเลตเป็นสารอาหารสำคัญที่พบได้ในถั่วเขียว จึงมีความสำคัญต่อการสังเคราะห์ DNA และการเจริญเติบโตของเซลล์และเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยควบคุมการทำงานของสมอง สมดุลของฮอร์โมนและระบบสืบพันธ์ุ โดยเฉพาะคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ การรับประทานโฟเลตอย่างเพียงพอจะช่วยป้องกันภาวะพิการในทารก และการคลอดก่อนกำหนด รวมถึงการป้องกันการแท้งบุตรได้ดี
7.อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุสำคัญของโรคภัยต่างๆ รวมถึงริ้วรอย การเสื่อมสภาพของร่างกายก่อนวัย โดยวิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือ การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ถั่วเขียว ซึ่งเป็นธัญพืชที่หาง่ายและมีประโยชน์มาก
8.ป้องกันภาวะโลหิตจาง ธาตุเหล็กเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญกับระบบโลหิต หากร่างกายได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จะส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ โดยเฉพาะเพศหญิงที่มักจะเกิดภาวะขาดธาตุเหล็กในช่วงมีประจำเดือน ช่วงตั้งครรภ์ ซึ่งถั่วเขียวก็มีธาตุเหล็กอยู่ไม่น้อย เหมาะสำหรับรับประทานเพื่อเพิ่มธาตุเหล็กให้กับร่างกายโดยไม่ต้องพึ่งพาอาหารเสริม
9.บำรุงผิวพรรณ และเส้นผม ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินมากมาย ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่ง บำรุงหนังศีรษะให้แข็งแรง ผมไม่หลุดร่วงง่าย
10.ป้องกันโรคมะเร็ง มีการศึกษาพบว่าถั่วเขียวมีระดับโพลีฟีนอล และโอลิโกแซ็กคาไรด์ซึ่งมีในระดับที่สูง สารทั้งสองชนิดนี้มีคุณสมบติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งและป้องกันไม่ให้เนื้อร้าย ขณะที่สารต้านอนุมูลอิสระในถั่วเขียวยังป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลายและกลายเป็นเซลล์มะเร็ง
11.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน สารไฟโตนิวเตรียนท์ที่อุดมในถั่วเขียวที่ต่อต้านการอักเสบและยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดได้ จึงช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้การรับประทานถั่วเขียวยังมีส่วนกระตุ้นการดูดซึมอาหารช่วยในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
12.ย่อยง่าย สำหรับผู้ที่เพิ่งฟื้นตัวจากการปวดท้องหรือท้องเสีย ถั่วเขียวถือเป็นอาหารที่เหมาะ เพราะย่อยง่าย และอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งเมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว จะรู้สึกอิ่มแบบไม่หนักท้องจนเกินไปค่ะ
13.ช่วยลดน้ำหนัก ถั่วเขียวช่วยลดน้ำหนักได้ดีไม่แพ้ธัญพืชอื่นๆ เพราะถั่วเขียวมีไฟเบอร์และโปรตีนสูงช่วยให้อิ่มท้องและอิ่มนานขึ้น จึงเหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่ต้องระวังเรื่องปริมาณน้ำตาลในเมนูของถั่วเขียวด้วย ไม่ควรให้มีน้ำตาลมากจนเกินไป
14.ลดอาการก่อนมีประจำเดือน สำหรับสาวๆที่มีอาการก่อนมีประจำเดือนเป็นประจำทุกเดือน ต้องรับประทานถั่วเขียวมากขึ้นเพราะถั่วเขียวมีวิตามินบี6 วิตามินบี และโฟเลต ที่ช่วยควบคุมไม่ให้ระดับฮอร์โมนแปรปรวนอันเป็นสาเหตุของอาการก่อนมีประจำเดือน นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการที่เกิดในช่วงมีประจำเดือน เช่น ปวดท้อง ปวดหัว อารมณ์แปรปรวณ ปวดกล้ามเนื้อ และอาการอ่อนเพลียได้อีกด้วย
15.บำรุงกระดูก ไม่ใช่แค่ถั่วเหลืองเท่านั้นที่มีแคลเซียมสูง แต่ยังมีถั่วเขียวด้วย เพราะถั่วเขียวเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยแคลเซียม และวิตามินเคเช่นกัน ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญในการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ดังนั้นการรับประทานถั่วเขียวก็เป็นการบำรุงกระดูกไปในตัว
นอกจากนี้ ถั่วเขียวก็ยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย เช่น การบำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน ช่วยขับปัสสาวะ แก้เหน็บชา หากนำไปต้มกับเกลือแล้วนำมาอมก็สามารถรักษาเลือดออกตามไรฟันได้อีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดถั่วเขียวดิบ ขนาด 100 กรัม
-พลังงานมากถึง 347 กิโลแคลอรี
-คาร์โบไฮเดรต 62.62 กรัม
-น้ำ 9.05 กรัม
-น้ำตาล 6.6 กรัม
-กากใยอาหาร 16.3 กรัม
-ไขมัน 1.15 กรัม
-โปรตีน 23.86 กรัม
-วิตามินบี1 0.621 มิลลิกรัม
-วิตามินบี2 0.233 มิลลิกรัม
-วิตามินบี3 2.251 มิลลิกรัม
-วิตามินบี5 1.91 มิลลิกรัม
-วิตามินบี6 0.382 มิลลิกรัม
-วิตามินบี 9 625 ไมโครกรัม
-วิตามินซี 4.8 มิลลิกรัม
-วิตามินอี 0.51 มิลลิกรัม
-วิตามินเค 9 ไมโครกรัม
-ธาตุแคลเซียม 132 มิลลิกรัม
-ธาตุเหล็ก 6.74 มิลลิกรัม
-ธาตุแมกนีเซียม 189 มิลลิกรัม
-ธาตุแมงกานีส 1.035 มิลลิกรัม
-ธาตุฟอสฟอรัส 367 มิลลิกรัม
-ธาตุโพแทสเซียม 1,246 มิลลิกรัม
-ธาตุสังกะสี 2.68 มิลลิกรัม
คุณค่าทางโภชนาการของเมล็ดถั่วเขียวต้ม ขนาด 100 กรัม
-พลังงานมากถึง 105 กิโลแคลอรี
-คาร์โบไฮเดรต 19.15 กรัม
-น้ำ 72.66 กรัม
-น้ำตาล 2 กรัม
-กากใยอาหาร 7.6 กรัม
-ไขมัน 1.15 กรัม
-โปรตีน 7.02 กรัม
-วิตามินบี1 0.164 มิลลิกรัม
-วิตามินบี2 0.061 มิลลิกรัม
-วิตามินบี3 0.577 มิลลิกรัม
-วิตามินบี5 0.41 มิลลิกรัม
-วิตามินบี6 0.067 มิลลิกรัม
-วิตามินบี9 159 ไมโครกรัม
-วิตามินซี 1 มิลลิกรัม
-วิตามินอี 0.15 มิลลิกรัม
-วิตามินเค 2.7 ไมโครกรัม
-ธาตุแคลเซียม 27 มิลลิกรัม
-ธาตุเหล็ก 1.4 มิลลิกรัม
-ธาตุแมกนีเซียม 48 มิลลิกรัม
-ธาตุแมงกานีส 0.298 มิลลิกรัม
-ธาตุฟอสฟอรัส 99 มิลลิกรัม
-ธาตุโพแทสเซียม 266 มิลลิกรัม
-ธาตุสังกะสี 0.84 มิลลิกรัม
โทษของถั่วเขียว
-การรับประทานถั่วเขียวทำให้ท้องอืด ไม่ควรกินถั่วเขียวมากเกินไป
-การรับประทานถั่วเขียวมากเกินไป อาจทำให้แป้งในร่างกายสูง และ เปลี่ยนเป็นไขมัน ทำให้เกิดไขมันสะสมในร่างกายเกินขนาด
-สำหรับผุู้ป่วยโรคเก๊าท์ ไม่ควรรับประทานถั่วเขียว เนื่องจากมีสารพิวรีน ( Purine ) อาจทำให้เกิดอาการของข้ออักเสบได้
อ้างอิงจาก: https://www.youtube.com/watch?v=IAKetDh9uXM
https://fongza.com/ถั่วเขียว/
ภาพโดย PDPics จาก Pixabay