ฉีดฟิลเลอร์ปาก ฉีดยังไงให้สวยและเหมาะสม มีข้อปฏิบัติอย่างไรหลังฉีดอย่างไร?
ฟิลเลอร์ปาก หัตถการที่เข้ามาช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ปรับบุคลิก ภาพลักษณ์ รวมทั้งโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นตามความเชื่อ แต่จะอันตรายมั้ย ฉีดแล้วเป็นก้อนติดอยู่ในปากรึเปล่า ใครที่ยังไม่เคยฉีดแล้วอยากเริ่มเข้าสู่วงการ ให้ลองอ่านบทความนี้ดู เพราะรวบรวมคำถามที่คนสงสัย ยี่ห้อฟิลเลอร์ยอดนิยม รวมถึงการเตรียมตัวและวิธีปฏิบัติตัวหลังฉีดมาให้ได้ทำความเข้าใจทั้งหมดแล้ว
ฟิลเลอร์ปาก ฉีดเพื่ออะไร?
ฟิลเลอร์ปาก เป็นสาร Hyaluronic Acid ที่วงการความงามหยิบมาใช้ในการเติมเต็มเนื้อปาก เพื่อให้เกิดวอลุ่มอวบอิ่ม ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย ซึ่งถือเป็นหัตถการรูปแบบหนึ่ง โดยตัวสารประกอบของฟิลเลอร์เป็นสารเลียนแบบจากธรรมชาติ จึงไม่เป็นอันตราย ทำให้ร่างกายรับเข้าไปได้โดยไม่มีการต่อต้าน ปัจจุบันมีฟิลเลอร์หลายรุ่นให้เลือก ซึ่งช่วยให้ได้ผลลัพธ์ความหนา อวบอิ่มต่างกัน
ฟิลเลอร์ปากดียังไง?
ฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยแก้รูปปากและปรับสภาพปากให้สุขภาพดีขึ้นได้ดังนี้
- สร้างวอลุ่มให้ปากมีความอวบอิ่ม ดูหนาได้รูปสวยขึ้น
- ช่วยยกมุมปากที่ตกให้ขี้ขึ้น เปลี่ยนภาพรวมใบหน้าให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น
- เพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปากอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น ดูมีสุขภาพดี
- แก้ปัญหาปากแห้งลอก แห้งเป็นขุย ทาลิปไม่ค่อยติด
- ลดร่องปากลึก ดูเป็นริ้วๆ ไม่เรียบเนียน ให้กลับมาตึงขึ้น
- ปรับขอบปากให้ชัดขึ้น เห็นกระจับชัด ไม่มีรอยเหี่ยวย่นที่ขอบปาก
ทรงปากที่เหมาะกับคนไทยในการฉีดฟิลเลอร์
สัดส่วนของปากที่ได้มุมสวย เน้นด้านบนหนา 1 ส่วน ต่อ ด้านล่าง 1.6 – 1.8 ส่วน
- ปากเป็นกระจับรูปตัว M ที่ริมฝีปากบน
- มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย
- ผิวปากเรียบเนียน อิ่ม เต่งตึง ไม่มีริ้วรอย
- ขอบปากเรียบเนียนไปกับผิวหน้า ไม่มีริ้วรอยที่ขอบปาก
ฟิลเลอร์ปาก กับ ผ่าตัดปาก อะไรดีกว่ากัน
ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน โดยฟิลเลอร์ปากจะเป็นการแก้ปัญหาที่เห็นผลรวดเร็ว ปลอดภัย ทำง่ายกว่า แก้ไขได้ง่ายหากมีข้อผิดพลาด แต่ผลลัพธ์ก็จะคงอยู่ได้ระยะสั้นกว่า ส่วนการผ่าตัดปากจะนับเป็นการศัลยกรรมที่ต้องทำโดยศัลยแพทย์เท่านั้น มีผลลัพธ์ถาวร ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นก่อนที่จะกลับมาเข้ารูป ซึ่งหากเกิดข้อผิดพลาด หรือได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงพอใจก็จะแก้ไขได้ยากกว่า
ยี่ห้อฟิลเลอร์ปากยอดนิยม
เนื่องจากฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยปรับแก้รูปปากได้หลายปัญหา จึงมีหลายยี่ห้อที่ออกมาเพื่อตอบโจทย์รูปปากแต่ละแบบที่หลายคนอยากได้ มี 6 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
- Restylane vital light ฟิลเลอร์ที่มีความนุ่มในตัว อนุภาคเล็ก แก้ปัญหาปากแห้งให้กลับมาชุ่มชื้น อยู่ได้นาน 6 – 12 เดือน
- Restylane volyme เน้นให้วอลุ่มปากอวบอิ่ม มีความฟูสวย ทำให้ใบหน้าโดยรวมอ่อนเยาว์ลง อยู่ได้นาน 18 เดือน
- Juvederm volift เหมาะกับคนที่ชอบรูปปากแบบธรรมชาติ เน้นลดร่องริ้ว ปรับให้ผิวปากเรียบเนียน อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm volite ฟิลเลอร์เพิ่มปากอิ่มน้ำ เติมความชุ่มชื้นได้ดี เน้นปรับปากให้อิ่มสไตล์เซ็กซี่ อยู่ได้นาน 8 – 12 เดือน
- Juvederm ultra plus ฟิลเลอร์ที่เน้นคุณภาพจัดเต็ม ลดความเจ็บระหว่างฉีด เนื้อนิ่ม เพิ่มวอลุ่มปากฟู อยู่ได้นาน 12 เดือน
- Juvederm volume ฟิลเลอร์เนื้อแน่น พร้อมโมลิกุลใหญ่ เหมาะกับเพิ่มความฟูระดับปานกลาง อยู่ได้นาน 18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 ครั้ง เยอะมั้ย?
ในเคสทั่วไปการฉีดฟิลเลอร์ปาก 1 ครั้ง จะใช้ปริมาณในการฉีดอยู่ที่ 1 – 2 ซีซี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรูปปากแบบที่อยากได้ของแต่ละบุคคล
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานกี่เดือน?
ฉีดฟิลเลอร์ปากจะคงอยู่ได้นานมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือก ซึ่งรุ่นที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาปากแห้งลอก จะอยู่ได้ระยะสั้นกว่า สูงสุดประมาณ 6 เดือน ส่วนรุ่นที่เน้นเพิ่มวอลุ่ม เนื้อปากแน่น อิ่มฟู สามารถอยู่ได้นาน 12 – 18 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วเป็นก้อนในปาก เพราะอะไร?
การฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดก้อนในปาก เป็นได้มาจากหลายสาเหตุ ข้อแรกเลยก็คือการฉีดฟิลเลอร์ในปริมาณมากไป หรือเลือกยี่ห้อที่ไม่เหมาะกับรูปปาก ทำให้ตัวฟิลเลอร์ไม่สามารถสลายไปได้ กรณีที่ 2 เป็นได้จากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม ทำให้เข้ากับร่างกายไม่ได้ ค้างเป็นก้อนอยู่ในปาก กรณีนี้อาจต้องไปขูดออกเลยทีเดียว
ฉีดฟิลเลอร์ปากจะก่อให้เกิดอันตรายมั้ย?
ฉีดฟิลเลอร์ปาก เป็นหัตถการยอดนิยมก็จริง แต่ก็ต้องได้รับการทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะมีการฉีดที่ต้องอาศัยความรู้เรื่องระบบประสาทบนใบหน้าร่วมด้วย หากฉีดฟิลเลอร์กับผู้เชี่ยวชาญก็มั่นใจได้ว่าไม่เป็นอันตราย ในทางตรงกันข้ามการฉีดกับหมอกระเป๋า หรือคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็จะส่งผลเสียได้
ฟิลเลอร์ปาก ตอนฉีดเจ็บมั้ย?
เจ็บไม่มาก สามารถทนได้สบาย เพราะในตัวยาฟิลเลอร์ก็มียาชาเป็นส่วนผสม ช่วยลดอาการระหว่างฉีดได้ จะมีช่วงที่ทิ่มเข็มเท่านั้นที่จะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย สามารถขอแปะยาชากับคลินิกก่อนฉีดได้หากฉีดครั้งแรกและกังวลในจุดนี้
แนะนำการเตรียมความพร้อมก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หาคลินิกที่น่าเชื่อถือ พร้อมให้บริการด้วยมาตรฐาน มีฟิลเลอร์ที่ได้คุณภาพ
- งดวิตามินและยาบางชนิดที่ส่งผลต่อหลอดเลือดแข็งตัว อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- เว้นจากการเลเซอร์ปากหรือสครับล่วงหน้า 1 สัปดาห์ก่อนฉีดฟิลเลอร์
วิธีดูแลปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- งดสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์
- ไม่สัมผัสความร้อนโดยตรง เช่น การกินอาหารหรือทำอาหารหน้าเตานานๆ
- เลี่ยงแสงอาทิตย์ หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องโดนความร้อนสูงอย่างน้อย 2 วัน
- งดวิตามินที่ส่งผลต่อการละลายลิ่มเลือด
ทำอย่างไรให้ฟิลเลอร์ปากอยู่ทนขึ้น?
ควรดูแลร่างกายตามวิธีปกติแต่เน้นเพิ่มความใส่ใจยิ่งขึ้น อย่างการนอนหลับให้เพียงพอ ดื่มน้ำปริมาณมากๆ ต่อวัน อย่างน้อย 2 – 3 ลิตร รวมถึงเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นในส่วนของวิตามิน โปรตีน และคอลลาเจนเพื่อช่วยเสริมฟิลเลอร์ให้แข็งแรง นอกจากนี้ก็ควรเลี่ยงพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยเช่นกัน
รีวิวฟิลเลอร์ปาก
สรุปฉีดฟิลเลอร์ดีมั้ย มีข้อเสียรึเปล่า?
ฉีดได้ หากมั่นใจว่าฟิลเลอร์ที่เลือกฉีดและคลินิกที่ทำมีความน่าเชื่อถือ เพราะการได้รับตัวฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานร่วมกับผู้ฉีดที่มีความรู้ก็จะทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดได้ผลลัพธ์ดี เลี่ยงอันตรายจากของปลอมหรือการฉีดปริมาณที่ไม่เหมาะสมได้ ซึ่งข้อผิดพลาดนี้สามารถทำให้ฟิลเลอร์ไม่สลายตัว คาอยู่ในเนื้อปากได้เลยทีเดียว การเลือกคลินิกจึงเป็นปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างแรกมาก่อนราคานั่นเอง