ฉีดโบท็อกลดกราม ช่วยแก้ปัญหาคนใบหน้าแบบใด? มีผลอยู่ได้นานหรือไม่?
การฉีดโบท็อกกราม คือ วิธีช่วยแก้ปัญหาโครงหน้าใหญ่ให้เรียวเล็กลง เป็นหัตถการที่ใครหลายๆ คนนึกถึงอันดับต้นๆ เพราะเขาถึงได้ง่ายในปัจจุบัน แต่ก็มีหลายคนที่ยังไม่เคยฉีดและอยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกกราม เช่น โบท็อกกราม เหมาะกับใคร ช่วยแก้ปัญหาแบบไหนได้บ้าง หรือต่างจากการทำหน้าเรียวแบบอื่นอย่างไร หากคุณเป็นหนึ่งในนั้น มาพบคำตอบได้ที่บทความด้านล่างนี้
รูปภาพประกอบ Freepik
หัตถการฉีดโบท็อกกราม คืออะไร?
โบท็อก เป็นการฉีดโปรตีนสกัดที่มีชื่อว่าคลอสตริเดียม (Clostridium Botulinum) เข้าสู่ร่างกาย โดยตัวยาโบท็อกได้ชื่อว่าโบท็อกนั้นมาจากชื่อทางการค้าว่า โบทูลินั่มท็อกซิน (Botulinum Toxin Type A) ฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อยุติการทำงานของกล้ามเนื้อเป็นการชั่วคราว ส่วนมากมักใช้ฉีดบริเวณกราม น่องขา เพื่อให้มีขนาดเล็กและเรียว ได้สัดส่วนที่สวยงาม
โบท็อกลดกราม แก้ปัญหาใดได้บ้าง?
โบท็อกเมื่อฉีดที่กรามจะสามารถลดขนาดของกล้ามเนื้อบริเวณกรามได้ ทำให้ก้อนเนื้อที่ปูดออกมาตอนกัดฟันยุบตัวลง รูปหน้าชัดขึ้น เรียวเล็กลงได้ หลายคนนิยมฉีดร่วมกับการทำโบท็อกลิฟติ้งหน้าเพื่อให้ดูกระชับขึ้นด้วย
โบท็อกกรามหน้าเรียวจริงมั้ย?
การหน้าเรียวขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างกระดูก ปริมาณไขมัน หรือปริมาณกล้ามเนื้อ หากมีปัญหามาจากปริมาณกล้ามเนื้อเยอะ เมื่อฉีดโบท็อกกรามแล้วก็จะช่วยปรับโครงหน้าให้เข้ารูป ดูเรียวขึ้นได้
ใบหน้าแบบไหนที่ฉีดโบท็อกกรามแล้วเห็นผล
โบท็อกกรามเหมาะฉีดเพื่อแก้ปัญหาใบหน้าที่มีมวลกล้ามเนื้อเยอะเกินไป จนทำให้ขาดความเรียว โครงหน้าดูใหญ่ ซึ่งสามารถตรวจดูว่ามีปัญหาตรงนี้ได้โดยวิธีการกัดฟัน แล้วสังเกตว่ามีก้อนเนื้อปูดออกมาบริเวณกรามมั้ย หากมีแสดงว่าเป็นเคสที่สามารถฉีดโบท็อกกรามเห็นผลได้ดี
เปรียบเทียบโบท็อกกรามกับวิธีทำหน้าเรียวแบบอื่นๆ
- ฉีดโบท็อก การฉีดลดขนาดมัดกล้ามเนื้อที่กรามให้ยุบตัวลง ช่วยให้กรอบหน้าชัด เรียวสวย ฉีดต่อเนื่องสามารถช่วยคงสภาพได้
- ฉีดเมโสแฟต หัตถการที่ทำโดยการฉีดตัวยาเข้าไปเพื่อสลายไขมันเฉพาะจุด โดยเฉพาะบริเวณแก้มและเหนียง สามารถลดไขมันได้ถึง 10 – 15% ปรับใบหน้าให้เรียวเล็กลงได้เช่นกัน
- ดูดไขมันหน้า การใช้เครื่องสุญญากาศสอดท่อเข้าที่ใบหน้าเพื่อดูดไขมันออกมา ช่วยให้หน้าผอมลง เหมาะกับคนที่มีปริมาณไขมันสูง เป็นวิธีที่ต้องทำโดยศัลยแพทย์
- ผ่าตัดกระดูดกราม วิธีการศัลยกรรมที่ช่วยให้หน้าเรียวเล็กได้อย่างถาวร เน้นแก้ปัญหาจากกระดูกใหญ่ หลังทำต้องมีการพักฟื้น 1 – 2 สัปดาห์
ฉีดโบท็อกต้องทำกับแพทย์เท่านั้นรึเปล่า
การฉีดโบท็อกกรามต้องได้รับการฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น หมอกระเป๋าหรือพยาบาลไม่สามารพทำการฉีดให้ได้ เพราะต้องอาศัยความรู้เรื่องกายวิภาค ไม่ว่าจะเป็นเส้นประสาทหรือเส้นเลือดบนใบหน้า นอกจากนี้ยังต้องคำนวณปริมาณโบท็อกในการฉีดด้วย หากเจอคนที่รับฉีดโบท็อกตามบ้านให้หลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด เพราะอันตรายถึงชีวิตได้ทีเดียว
ฉีดโบท็อกลดกรามแล้วไม่เห็นผล เป็นเพราะอะไร?
มีสาเหตุมาได้จากหลายปัจจัย อันดับแรกอาจเป็นเพราะฉีดในคนที่ไม่ได้มีปัญหากล้ามเนื้อเยอะแต่แรก ทำให้การออกฤทธิ์ของโบท็อกไม่เห็นผลมากเท่าที่ควร หรือมีสาเหตุมาจากการได้รับโบท็อกปลอม ปริมาณไม่เหมาะสมทำให้ดื้อโบท็อกและไม่เห็นผลลัพธ์ตามที่ควรจะเป็นเช่นกัน
ลักษณะของการดื้อโบท็อก
- ฉีดโบท็อกแต่ออกฤทธิ์ในระยะเวลาที่สั้นกว่าปกติ
- ฉีดโบท็อกไปไม่นานแต่กล้ามเนื้อกรามกลับมาเยอะเหมือนเดิม
- ในการฉีดแต่ละครั้ง ต้องเพิ่มยูนิตทุกครั้งเพื่อให้เห็นผล
- เปลี่ยนยี่ห้อโบท็อกเพื่อเร่งผลลัพธ์แล้วแต่ก็ยังไม่เกิดความเปลี่ยนแปลง
ดื้อโบท็อกเกิดจากอะไร?
- ฉีดโบท็อกปลอม หรือโบท็อกคุณภาพต่ำ ไม่ได้มาตรฐานจากการจัดเก็บที่ผิดวิธี
- ฉีดโบท็อกกับบุคคลที่ไม่มีความรู้ ทำให้เกิดความผิดพลาด
- ฉีดโบท็อกถี่เกินไป หรือปริมาณมากกว่าที่ควร
- ภูมคุ้มกันในร่างกายก่อตัวขึ้นมาต่อต้านโบท็อก
ตอนฉีดโบท็อกกรามเจ็บมากมั้ย?
ระหว่างฉีดจะมีการประคบเย็นให้คนไข้ เพื่อกันให้ตัวยากระจายไปยังจุดที่ต้องการเท่านั้น ซึ่งยังสามารถลดอาการเจ็บได้ เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวล เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้
ฉีดโบท็อกกรามแล้วทำให้ยิ้มไม่ได้จริงมั้ย?
การได้รับโบท็อกที่มีคุณภาพ ฉีดอย่างถูกต้อง จะไม่ส่งผลให้หน้าเกร็งจนยิ้มไม่ได้ แต่จะมีอาการตึงหน้าหลังฉีดเสร็จใหม่ๆ เล็กน้อย แล้วจะหายไปในไม่นาน สามารถประคบเย็นช่วยให้ใบหน้าผ่อนคลายช่วยด้วยได้
โบท็อกอเมริกากับโบท็อกเกาหลี ฉีดของอะไรดี?
โบท็อกอเมริกาและโบท็อกเกาหลีเป็นโบท็อก 2 สัญชาติที่คนไทยนิยมฉีด ซึ่งเป็นตัวยาที่มีคุณภาพสูง มีความบริสุทธ์อยู่ที่ 99.5% โดยโบท็อกอเมริกาจะมีราคาสูงกว่า และผลลัพธ์ยาวนานกว่า ส่วนโบท็อกเกาหลีจะคุ้มค่าราคากว่านั่นเอง ยี่ห้อที่นิยมที่สุดคือ Allergan ของฝั่งอเมริกา และ Hugel ของฝั่งเกาหลี
หลังฉีดโบท็อกลดกราม เห็นผลภายในกี่วัน?
หลังจากฉีดโบท็อกกรามแล้ว ต้องอาศัยเวลาในการออกฤทธิ์ประมาณ 14 วัน เกิดการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อที่เคยปูดเวลากัดฟัน พอผ่านไปครบ 1 เดือน หน้าจะดูเรียวขึ้น และเห็นผลได้ชัดเจนสุดประมาณ 2 – 3 เดือนหลังฉีด
โบท็อกกรามออกฤทธิ์ได้นานแค่ไหน?
โบท็อกกรามสามารถคงผลลัพธ์หลังฉีดได้ประมาณ 5 – 6 เดือน ซึ่งหากต้องการคงสภาพให้หน้าเรียวต่อไปเรื่อยๆ ควรฉีดซ้ำทุกๆ 4 – 5 เดือน ไม่จำเป็นต้องรอให้ตัวยารอบก่อนหน้าหมดฤทธิ์ไปก่อน
หลังฉีดโบท็อกควรปฏิบัติอย่างไร?
- งดการดื่มแอลกอฮอล์ และการสูบบุหรี่อย่างน้อย 2 วัน
- งดการนอนราบกับพื้นหรือเตียงเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ป้องกันไม่ให้โบท็อกปลิว
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ต้องโดนความร้อนหน้าเตา ของรสจัด และอาหารหมักดอง
- เลี่ยงการเจอความร้อนสูง อย่างการเข้าซาวน่า แช่น้ำร้อน อย่างน้อย 2 วัน
- รับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสังกะสีเพื่อช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้มากขึ้น
โบท็อกกราม ราคาเริ่มต้นเท่าไหร่?
ราคาเริ่มต้นของโบท็อกขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกและปริมาณในการฉีด โดยปกติจะเริ่มที่ประมาณ 5,000 บาทต่อ 100 ยูนิต และ 3,000 บาท ต่อ 50 ยูนิต
รีวิวโบท็อกกราม
สรุปฉีดโบท็อกกรามช่วยให้หน้าเรียวได้มั้ย?
ดังที่ได้อธิบายตลอดในบทความนี้ โบท็อกกรามสามารถช่วยปรับโครงหน้าให้เล็ก เรียวขึ้นได้จริง ซึ่งต้องเป็นการฉีดเพื่อแก้ปัญหาในคนที่มีกล้ามเนื้อกรามใหญ่ กัดฟันแล้วมีก้อนปูดเด้งขึ้นมา หากมีปัญหามาจากกระดูกกรามหรือไขมัน โบท็อกก็จะไม่ตอบโจทย์ในจุดนี้ และหากอยากให้ผลลัพธ์ดีขึ้น ควรฉีดอย่างต่อเนื่องและปฏิบัติตามข้อแนะนำหลังฉีด เพื่อคงสภาพให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ยาวนาน