รัสเซียบุกยูเครน VS สหรัฐฯและพันธมิตรบุกอิรัก กับความชอบธรรมของสงคราม!!!
สหรัฐฯเคยเข้ามาปฏิบัติภารกิจต่อต้านก่อการร้ายเมื่อปี 2003 โดยเป็นผู้นำในการบุกอิรัก ซึ่งเชื่อว่าอิรักครอบครองอาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธอัลกออิดะห์
ในปี 2007 กองทัพสหรัฐ อเมริกาได้ส่งกำลังทหารเข้าไปในอิรักมากถึง 170,000 นาย ก่อนที่จะถอนกำลังทหารกลับมาในปี 2011 แต่ยังคงปล่อยทหารประจำการเอาไว้ประมาณ 20,000 นาย เพื่อทำหน้าที่คุ้มกันสถานที่สำคัญทั้งหลายทั่วอิรัก เช่น สถานทูต สถานกงสุล รวมถึงยามทหารนาวิกโยธินสหรัฐฯหลายสิบคน นอกจากนี้ยังมีทหารรับจ้างอีกประมาณ 4,500 คน ที่ประจำการอยู่ในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ
ในปี 2013 สหรัฐได้เริ่มนำเครื่องบินสอดแนมกลับมาใช้งานอีกครั้ง เพื่อเป็นการเฝ้าระวังภัยไม่ให้รัฐบาลอิรักตกเป็นเป้าของกลุ่มผู้ก่อการร้ายติดอาวุธ
สงครามนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายมากกว่า 70,000 คน โดยแบ่งเป็นพลเรือนที่ถูกลูกหลงจากการทิ้งระเบิดในอิรัก 6,000 คน และพลเรือนที่ถูกไอซิสสังหาร 28,000 คน ทำให้ประชาชนกว่า 550,000 คนต้องย้ายที่อยู่ออกจากบ้านเกิดของตน ซึ่งรวมถึงยุทธภัณฑ์และอาคารที่ได้รับเสียหายได้แก่ รถถัง 164 คัน Humvee 388 คัน โครงสร้างพื้นฐานน้ำมัน 2,638 แห่ง รถบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่า 1,000 คัน นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บ-เสียชีวิตสามารถแบ่งออกเป็นสัญชาติต่างๆ ได้ดังนี้
1.สหรัฐอเมริกา ทหารเสียชีวิต 69 นาย
2.ประเทศฝรั่งเศส ทหารเสียชีวิต 1 นาย
3.ประเทศอังกฤษ พลเรือนเสียชีวิต 3 นาย
4.ประเทศแคนาดา ทหาร 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย
5.ประเทศซาอุดิอาระเบีย ยามชายแดน 3 นาย
6.ประเทศตุรกี ทหารบาดเจ็บ 4 นาย
.....
🇺🇸 🇮🇶 ถึงเวลาที่สหรัฐฯ ขอโทษสำหรับการบุกรุกอิรัก?
9 มี.ค. 2018
มาร์ค คิมมิตต์ นายพลจัตวาเกษียณอายุของสหรัฐฯ ซึ่งดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและหัวหน้าโฆษกกองทัพในอิรักระหว่างปี 2546 ถึง 2547 กล่าวว่า "เราต้องการทำอะไรใหม่หรือไม่" มาร์ก คิมมิตต์ ยอมรับสหรัฐฯ "ได้ยอมรับบางส่วนว่ามีสิ่งผิดปกติในอิรัก" (หมายเหตุ: สหรัฐฯกล่าวหาว่าอิรักมีอาวุธนิวเคลียร์ร้ายแรงจำนวนมาก แต่ภายหลังอิรักแพ้สงคราม กลับไม่ปรากฏอาวุธดังกล่าว ความจริงก็คือสหรัฐฯอ้างเหตุเพื่อความชอบธรรมและการสนับสนุนของพันธมิตร ในการบุกอิรัก)
เขากล่าวว่ากองทัพประเทศของเขาไม่มีอะไรต้องขอโทษ การกระทำของสหรัฐในช่วงเริ่มต้นของสงครามยังคงส่งผลกระทบที่ก้องกังวาน รวมถึงข้อกล่าวหาที่ว่าศูนย์กักกันของสหรัฐฯ เช่น Camp Bucca กลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ สำหรับกลุ่มติดอาวุธในอิรัก และช่วยวางรากฐานสำหรับการก่อตั้งรัฐอิสลามแห่งอิรักและลิแวนต์ (หรือที่รู้จักในชื่อ ISISor ISIS) “ตอนนั้นผมกังวลว่าการกักขังคนจำนวนมากของสิ่งที่กองทหารราบเชื่อว่าเป็นภัยคุกคามด้านความปลอดภัยจะกลับมาหลอกหลอนเราอีก” คิมมิตต์กล่าว
“ผมบอกสิ่งนี้กับเพื่อนร่วมงานของผม และผมบอกสิ่งนั้นกับหัวหน้าของผม” แม้ว่าเขาจะเห็นด้วยว่าสงครามอิรักอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กลุ่มหัวรุนแรง คิมมิตต์ ยืนยันว่า ISIL ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นในอิรัก คิมมิตต์ ทำงานรับใช้อยู่ในอิรักในช่วงเวลาของการสังหารหมู่ที่ถูกกล่าวหาโดยทหารสหรัฐ เมื่อถูกถามถึงพลเรือนที่ไม่มีอาวุธหลายสิบคนถูกสังหารในสถานที่ต่างๆ เช่น ฟัลลูจาห์ ฮาดิธา มาห์มูดียา และบาลัด
คิมมิตต์ หักล้างการอ้างว่าพลเรือนถูกสังหารโดยทหารอเมริกันโดยเจตนา “ผมไม่ได้แนะนำว่าบางครั้งสงครามไม่ได้ฆ่าพลเรือนผู้บริสุทธิ์ นั่นเป็นราคาของสงคราม” เขากล่าว
“ในฐานะทหาร สิ่งที่คุณทำ คือพยายามลดค่าใช้จ่ายให้น้อยที่สุด แต่ใครก็ตามที่เชื่อว่ามีหลักประกันว่าจะไม่เกิดความเสียหายในสงคราม ก็ คือการอาศัยอยู่ในสรวงสวรรค์ของคนโง่”
ในรายการ UpFront พิเศษประจำสัปดาห์นี้ เราท้าทาย Mark Kimmitt อดีตนายพลจัตวาแห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับผลที่ตามมาและบทเรียนที่ได้รับหลังจากสงคราม 15 ปีในอิรัก
ที่มา: https://youtu.be/48lVwfMZEvI