ฉีดเมโสแฟต ลดไขมันได้จริงหรือ? ฉีดแล้วอยู่นานไหม? ดีกว่าวิธีอื่นอย่างไร
เมโสแฟต หัตการที่หลายคนอาจยังไม่รู้จัก เป็นการฉีดตัวยาเพื่อปรับสัดส่วนให้ได้รูป สลายไขมันสะสมบริเวณต่างๆ ได้ดี แก้ปัญหาให้คนที่กรอบหน้าไม่ชัด มีแก้ม หรือเซลลูไลท์ตามร่างกาย ซึ่งต่างจากการฉีดโบท็อกที่หลายคนคุ้นเคย ใครที่อยากรู้จักการฉีดเมโสแฟตดียิ่งขึ้น ทั้งวิธีการฉีด ข้อดี ความแตกต่างจากการทำหัตถการอื่นๆ บทความนี้จะมาตอบคำถามทั้งหมดที่หลายคนอยากรู้กัน
อะไรคือเมโสแฟต?
เมโสแฟต เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปที่ใต้ชั้นไขมันเพื่อสลายไขมันเฉพาะจุดตามบริเวณที่ฉีด มักนิยมสำหรับฉีดให้หน้าเรียว ลดแก้ม หรือสัดส่วนต่างๆ ในร่างกาย ให้เกิดการแตกตัวและขับไขมันออกผ่านทางระบบขับถ่าย เป็นหัตถการที่ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว
การออกฤทธิ์ของเมโสแฟต
ในตัวยาเมโสแฟตมีสารที่ออกฤทธิ์หลักๆ 3 แบบ คือ
- Artichoke Extract ที่จะทำการกระตุ้นให้ร่างกายสังเคราะห์ไขมันหรือกระบวนการ Anabolism
- Mesotabyl ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายลดการสร้างคอลเสเตอรอลในเนื้อเยื่อ ทำให้ไขมันลดน้อยลง
- L-carnitine ออกฤทธิ์ในการนำพลังงานไขมันมาใช้ ทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้ดี
ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟตสามารถแก้ไขปัญหาให้กับคนที่มีไขมันสะสม และต้องการลดเฉพาะจุดซึ่งยากต่อการแก้ด้วยวิธีการธรรมชาติ เช่น คนที่แก้มเยอะ หรือมีเหนียง เพราะช่วยสลายไขมันได้ดีในเวลารวดเร็ว และผลลัพธ์คงอยู่ค่อนข้างนาน สัดส่วนกระชับขึ้น จะยิ่งมีประสิทธิภาพถ้าออกกำลังกายและควรบคุมอาหารร่วมด้วย หรือการทำพร้อมการรักษาด้วยวิธีการอื่นๆ
ฉีดเมโสแฟตตรงไหนได้บ้าง?
เมโสแฟตสามารถฉีดเพื่อลดไขมันเฉพาะจุดได้ทั่วบริเวณร่างกาย แต่จะเหมาะกับพื้นที่ที่ไม่ได้มีไขมันสะสมมากจนเกินไป หลังฉีดสามารถสลายไขมันได้ถึง 10 – 15% มีจุดที่ฉีดได้และเป็นที่นิยม ดังต่อไปนี้
- ฉีดลดแก้ม เป็นการฉีดตัวยาเข้าไปบริเวณกระพุ้งแก้ม เพื่อแก้ปัญหาให้กับคนที่มีแก้มเยอะ ได้ผลประมาณ 60 – 70% เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วม
- ฉีดลดเหนียง เหมาะกับคนที่มีคางสองชั้น เหนียงออก สามารถฉีดเพื่อลดความหนาของชั้นไขมัน ช่วยให้กรอบหน้าชัด ดูสมส่วนมากขึ้น
- ฉีดลดพุง เน้นสลายไขมันที่หน้าท้องเพื่อลดส่วนเกิน เหมาะสำหรับทำควบคู่กับวิธีการลดไขมันแบบอื่นๆ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีไขมันสะสมค่อนข้างมาก
- ฉีดลดไขมันต้นแขน-ต้นขา เป็นการฉีดที่ช่วยลดไขมันสะสม ควรฉีดร่วมกับวิธีการอื่นๆ สามารถรักษาเซลลูไลท์ได้ดี ควรควบคุมอาหารควบคู่ด้วยเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น
วิธีการช่วยลดสัดส่วนนอกจากการฉีดเมโสแฟต
- โบท็อก เป็นการฉีดลดกล้ามเนื้อด้วยสาร Botulinum Toxin ออกฤทธิ์ลดกล้ามเนื้อชั่วคราว ส่งผลให้สัดส่วนที่หนา ใหญ่จากกล้ามเนื้อ ดูบางลง สมส่วนขึ้น
- Hifu การรักษาผิวให้กระชับด้วยวิธีการยิงคลื่นความถี่สูงเข้าสู่ร่างกาย สร้างพลังงานความร้อนในเซลล์ผิว เพื่อเกิดการปรับโครงสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระชับขึ้น
- Thermage ช่วยกระชับผิวด้วยการส่งคลื่นวิทยุไปในชั้นผิวหนังแท้ สร้างความร้อน เพื่อกระชับโครงสร้างคอลลาเจนในผิวให้มีความแข็งแรง ยืดหยุ่นขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ สามารถลดไขมันไปในตัวได้ด้วย
- Ulthera เป็นการส่งคลื่นเสียงที่มีความถี่สูง เข้าไปกระชับผิวหนัง รักษาความหย่อนคล้อยดี รวมทั้งผลลัพธ์คงอยู่นาน 5 – 6 เดือน แต่จะค่อนข้างเจ็บและไม่เหมาะกับคนที่มีชั้นไขมันหนา ควรเลือกทำวิธีการลดสัดส่วนแบบอื่นๆ อย่างการฉีดเมโสแฟตควบคู่
- การดูดไขมัน การรักษาด้วยเครื่อง เป็นการต่อท่อเพื่อทำการดูดไขมันส่วนเกิดออกจากจุดต่างๆ ควรทำที่โรงพยาบาล เพราะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง และอาจเกิดผลข้างเคียงเป็นอาการบวมช้ำได้ เหมาะกับทำในพื้นที่ที่มีไขมันสะสมเป็นจำนวนมาก
เมโสแฟตต่างกับโบท็อกอย่างไร?
วิธีปรับสัดส่วนที่นิยมสุดก็จะเป็นการฉีดเมโสแฟตและการฉีดโบท็อก มีความแตกต่างกัน คือ เมโสแฟตจะเป็นการฉีดเพื่อให้ร่างกายเกิดกระบวนการสลายไขมัน ทำให้ไขมันสะสมในส่วนต่างๆ ที่ฉีดลดลง สัดส่วนดูกระชับขึ้น ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาคนละจุดกับโบท็อก ที่เป็นการฉีดโปรตีนเพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อชั่วคราว ตอบโจทย์กับคนที่มีกรามใหญ่ หรือส่วนอื่นๆ ในร่างกายใหญ่จากมวลกล้ามเนื้อ
เมโสแฟต กับ โบท็อก ทำ 2 อย่างพร้อมกันได้มั้ย?
ทำพร้อมกันได้ เนื่องจากเป็นการแก้ปัญหาคนละจุด ซึ่งสำหรับคนที่มีปัญหาสัดส่วนใหญ่ทั้งจากไขมันและกล้ามเนื้อ เมื่อฉีดควบคู่กัน 2 วิธีจะยิ่งทำให้ผลลัพธ์เห็นผลได้ดียิ่งขึ้น
ฉีดเมโสแฟตเห็นผลจริงมั้ย ต้องฉีดกี่ครั้ง?
การฉีดเมโสแฟตให้เห็นผลได้ดี ลดไขมันเฉพาะจุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรฉีดสม่ำเสมอทุกๆ 3 เดือน โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีเมื่อฉีดไปแล้ว 5 – 7 วัน และจะลดลงเรื่อยๆ จนลดลงเต็มที่เมื่อผ่านไปประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ การฉีด 1 ครั้งสามารถคงผลลัพธ์ได้ประมาณ 3 เดือน
ฉีดเมโสแฟตเจ็บมั้ย?
การฉีดเมโสแฟตจะมีการใช้เข็มฉีดตัวยาเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งระหว่างที่ฉีดจะมีการเดินตัวยา ทำให้อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อยระหว่างนั้น แต่โดยปกติแล้วคลินิกที่ฉีดให้จะมีการประคบเย็นช่วย จึงไม่รู้สึกเจ็บมาก สามารถทนได้
ผลข้างเคียงจากการฉีดเมโสแฟต ฉีดแล้วเป็นก้อนมั้ย?
การฉีดเมโสแฟตที่มีคุณภาพ จะมีการกระจายตัวยาที่ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ทั้งหมด ไม่เกิดผลข้างเคียงที่มีก้อนตามส่วนต่างๆ ปัญหาการฉีดแล้วเป็นก้อนล้วนมาจากการได้รับตัวยาที่ไม่มีคุณภาพ หรือเก็บรักษาไม่ดี ทำให้หลงเหลืออยู่ หากเลือกฉีดเมโสแฟตที่ได้มาตรฐานก็มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดปัญหานี้
อันตรายจากการฉีดเมโสแฟตนอกคลินิก
ตัวยาที่ไม่ได้คุณภาพ ของปลอม หรือการเก็บรักษาไม่ดี รวมทั้งการฉีดด้วยบุคคลทั่วไป ซื้อมาฉีดเอง อาจทำให้ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เสี่ยงต่อการฉีดผิดจุดอย่างการฉีดเข้าเส้นเลือดที่เป็นอันตรายถึงชีวิต นอกจากนี้ยังมีโอกาสติดเชื้อจากการใช้อุปกรณ์ที่ไม่สะอาดได้ด้วยเช่นกัน
วิธีดูแลไม่ให้เมโสแฟตหมดฤทธิ์ไว
1.งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รวมทั้งไม่สูบบุหรี่ เพื่อให้ตัวยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่
2.ดื่มน้ำสะอาดปริมาณมาก เพื่อกระตุ้นการขับของเสียได้ดี
3.พักผ่อนให้เพียงพอ เร่งการดูดซึมตัวยาให้เห็นผลไวยิ่งขึ้น
4.ออกกำลังกายและรับประทานอาหารไขมันต่ำ ช่วยไม่ให้เกิดการสะสมไขมันขึ้นใหม่
รีวิวหลังฉีดเมโสแฟต
สรุปเมโสแฟตควรทำมั้ย เหมาะกับใครบ้าง?
ใครที่อ่านมาจนจบบทความก็คงเข้าใจหลักการทำงานของเมโสแฟต ซึ่งช่วยลดไขมันสะสมเฉพาะจุด คนที่เหมาะกับการทำหัตถการนี้จึงควรเป็นคนที่มีปัญหาสัดส่วนใหญ่จากไขมัน และอยากให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นเร็วและคงอยู่นาน ถ้าพิจารณาแล้วตอบโจทย์ตามที่กล่าวมา การตัดสินใจทำเมโสแฟตจะช่วยได้ดี คุ้มค่าในการทำด้วยนั่นเอง