เปิดเรื่องราวความรัก รักแท้ ของหญิงสาวบ้านๆ ที่ชีวิตเปลี่ยนกลายเป็นเลดี้เมืองไทย
เปิดเรื่องราวความรัก รักแท้ ของหญิงสาวบ้านๆ ที่ชีวิตเปลี่ยนกลายเป็นเลดี้เมืองไทยทันที เอาเป็นว่าเราไปตามกันเลยดีกว่าจ้า หริ่น เนตรนภา แก้วแสงธรรม ยาเนซโกวา เธอเกิดที่จังหวัดอุบลฯมีพี่น้อง 4 คน เธอเป็นพี่สาวคนโต และมีน้องแฝดหญิงสามคน หลังจบมัธยมปลายเธอสอบติดคณะยอดนิยมที่ชื่นชอบ วารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน สาขาหนังสือพิมพ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หลังเรียนจบก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงาน เริ่มจากทำงานเป็นนักข่าวออนไลน์ยุคแรกๆ ของสื่อค่ายหนึ่ง ต่อมาออกมาทำหน้าที่บรรณาธิการสำนักพิมพ์แบรนด์เอจ และบรรณาธิการบริหาร เวิร์คพอยท์ แล้วก็ออกมาเป็นโกสต์ไรเตอร์ นักเขียนอิสระ
ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เธอได้พบรักแท้กับ ท่านเซอร์มาเร็ก อติลา ยาเนเชค บารอน วอน ดูด๊าซ ซึ่งมีหุ้นส่วนเป็นนักธุรกิจชาวไทยโดยการพบกันในครั้งแรก ๆ นั้น เธอเล่าว่าต่างฝ่ายต่างก็ยังไม่ถูกใจกัน ฝ่ายชายค่อนข้างจะชอบผู้หญิงที่ดูเรียบร้อย ขณะที่ตัวเธอนั้นกระโดกกระเดก ไม่เรียบร้อย พูดจาโผงผาง แต่เพราะการไปเขียนหนังสือท่องเที่ยวที่ปราก ชื่อ ปรากในรอยหนาว จึงเป็นจุดหักเห ทำให้มีโอกาสได้ศึกษานิสัยกันและกัน จนกลายเป็นความรัก
พบกันครั้งแรกที่เวทีมวยราชดำเนิน ท่านเซอร์มาเร็กมาดูมวยไทย เนื่องจากชื่นชอบกีฬานี้เป็นพิเศษ และเป็นโปรโมเตอร์มวย นำนักมวยไทยไปชกโชว์ที่ยุโรปหลายประเทศ เช่น สเปน สาธารณรัฐเช็ก และเยอรมันนีตอนแรกที่เจอก็ไม่รู้สึกชอบเลย เพราะรู้สึกว่าเป็นคนขี้เก๊ก และดูหยิ่ง ๆ แต่ต่อมาเขาต้องการนักเขียน ก็เลยเชิญไปเขียนหนังสือท่องเที่ยวที่กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก ไปเที่ยวที่นั่นสิบวัน กับเพื่อนช่างภาพ ทำให้มีโอกาสทำความรู้จักกันมากขึ้น 3 เดือนต่อมาก็ตกลงคบกัน อีกประมาณ 1 ปีก็หมั้นและแต่งงานกันเมื่อ 7 ธันวาคม 2550
เลดี้หริ่น เล่าอีกว่า ตอนแรกที่พบและคบหาดูใจกัน ช่วง 2 ปีกว่าๆ เธอไม่รู้เลยว่ามาเร็กมีฐานันดรศักดิ์อะไร คิดว่าเป็นเพียงฝรั่งที่ชอบมวยไทย และเป็นโปรโมเตอร์มวยธรรมดาๆ คนหนึ่งเท่านั้น เพราะตลอดเวลาเขาไม่เคยแสดงตัว ซึ่งเธอเองก็ไม่ได้สนใจในเรื่องยศศักดิ์อะไร จนกระทั่งแต่งงานแล้วถึงได้รู้ก็มักมีคนบอกว่าหริ่นเป็นซินเดอเรลล่าเมืองไทย คงต้องบอกว่าไม่เป็นอย่างนั้นหรอกค่ะ ซินเดอเรลล่า ต้องเป็นเจ้าหญิงตกยาก และมีแม่เลี้ยงใจร้าย แต่ตัวเองเป็นแค่คนทำงานธรรมดาเหมือนสาวออฟฟิศทั่วไป แล้วก็มีคุณแม่ใจดีด้วยค่ะ มีครอบครัวที่อบอุ่นพอสมควร
เมื่อถูกถามว่าชีวิตเปลี่ยนไปมากไหม เมื่อแต่งงานแล้วเป็นบารอนนิส หรือเลดี้ เธอบอกว่า ก็เปลี่ยนไปบ้าง แต่ไม่ได้เปลี่ยนตัวตนที่เป็นสิ่งสำคัญ เปลี่ยนเรื่องมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวไปตามประเทศต่าง ๆ ในยุโรป เพราะสามีสนับสนุนให้เขียนหนังสือท่องเที่ยว ถ้าไม่ว่างพาไปเองเขาก็ให้ผู้ช่วยพาไป เลยมีโอกาสได้ทำงานที่รัก ส่วนเรื่องชีวิตประจำวัน สามีก็ตั้งเงินเดือนให้ ก็พยายามใช้ให้อยู่ในปริมาณนั้น ไม่ให้เกิน ไม่พยายามใช้ของยี่ห้อดังถ้าไม่จำเป็น ถ้าจำเป็นก็ไม่ให้เกินเงินเดือน เวลาอยู่ที่เช็กก็จะสบายหน่อย มีคนคอยดูแลแต่อยู่เมืองไทย ก็ธรรมดาค่ะ ถ้าสามีอยู่ด้วยก็จะนอน กินอยู่ ในโรงแรม แต่ถ้าสามีไม่อยู่ จะไปนอนออฟฟิศที่ทำเป็นสำนักพิมพ์หนังสือ อยู่ง่าย ๆ กินริมถนนเหมือนเดิม ชอบแบบนี้ด้วยค่ะ สบายดี ถามต่ออีกว่าพอเป็นเลดี้แล้วได้เจอเรื่องแปลกๆ ไหม เจ้าตัวเล่าว่า ก็มี เช่นมีคนพยายามเสนอขายที่ให้เป็นร้อยๆ ล้าน หรือมาขอเงิน หรือขอให้หาแฟนให้ ก็ต้องอุเบกขา วางเฉย แม้จะสงสาร แต่ต้องคิดว่าทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเอง เราเองก็ไม่ได้ดีกว่าคนอื่น มีทุกข์ มีปัญหาเหมือนกัน คนเรามันมีทุกข์กันคนละแบบ
โลกเปิดกว้างขึ้น เลยมีการแต่งงานข้ามวัฒนธรรมหรือเชื้อชาติกันมากขึ้น มันไม่ใช่เรื่องแปลก ดีหรือไม่ดี อีกต่อไปแล้ว อยู่ที่เราเลือกคนดีหรือไม่ดีมากกว่า แต่ถ้าเราพยายามตั้งใจ คิดจะมองหาแต่สามีชาวต่างชาติ ทั้งที่ความรักเป็นเรื่องของพรหมลิขิต ก็เหมือนวิ่งไล่ตามเงา ทุกอย่างก็จะไม่ราบรื่น เจอทุกข์ อาจเจอคนไม่ดี ไม่ใช่เนื้อคู่ที่ดีของเรา ปล่อยให้เป็นไปตามเบื้องบนกำหนดดีกว่า แต่จะอย่างไรก็ขอให้ทุกคนโชคดีในเรื่องของความรักนะคะ เป็นทิ้งท้ายจาก หริ่น เนตรนภา