หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เปิด 6 เทรนด์สำคัญ ที่จะมากำหนดอนาคตธุรกิจโลจิสติกส์ ในปี 2565

โพสท์โดย tyuoi

เปิด 6 เทรนด์สำคัญ ที่จะมากำหนดอนาคตธุรกิจโลจิสติกส์ ในปี 2565

ในช่วงต้นปี 2563 โลกของเราต้องเผชิญกับการแพร่ระบาด

ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบศตวรรษ  อย่างไรก็ตาม

รายงาน Global Connectedness Index ประจำปี 2565 ของ DHL เผยว่า

“ธุรกิจค้าขายสินค้าเติบโตอย่างมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่

จะเกิดการแพร่ระบาดซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัวได้ท่ามกลางปัญหา

ท้าทายที่เกี่ยวกับกำลังการผลิตและสถานการณ์ความตึงเครียดทางการค้า” 

6 เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดอนาคตธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2565

ขณะที่อีคอมเมิร์ซทั่วโลกมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว

และลูกค้ามีความคาดหวังเพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการจัดส่งสินค้าที่รวดเร็วกว่าในราคาที่ต่ำ

มีนวัตกรรมใหม่อะไรบ้างเกี่ยวกับลอจิสติกส์ และการจัดส่งที่ตอบสนองความต้องการดังกล่าว

และต่อไปนี้คือ 6 เทรนด์สำคัญที่จะกำหนดทิศทางอนาคตของธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 2565

  1. ซัพพลายเชนที่มีความคล่องตัวสูง และโซลูชั่นลอจิสติกส์ 5PL สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นส่งผลให้ซัพพลายเชนทั่วโลกหยุดชะงัก และประสบปัญหาอย่างมากในการฟื้นฟูธุรกิจ

 การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ แรงงาน และวัตถุดิบ รวมถึงการตรวจตราชายแดนที่เข้มงวดรัดกุมมากขึ้น

และภาวะเงินเฟ้อ ทั้งหมดนี้ยังคงเป็นอุปสรรคที่ทำให้การค้าทั่วโลกหยุดชะงัก ดังจะเห็นได้จากปัญหาการจัดส่งที่ล่าช้าและมีสินค้าจำนวนมาก

ที่ตกค้างอยู่ตามท่าเรือและจุดขนถ่ายสินค้าทั่วโลก และคาดว่าปัญหาเหล่านี้จะยังคงดำเนินต่อไปในปี 2565

ด้วยเหตุนี้ องค์กรธุรกิจจึงต้องการระบบซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นและมีความคล่องตัวสูง สามารถปรับเปลี่ยนตามสภาวะตลาดในแบบเรียลไทม์ 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซเพราะแท้จริงแล้วลูกค้าไม่ได้สนใจเกี่ยวกับปัญหาซัพพลายเชนในวงกว้าง

เพียงแต่ต้องการให้สินค้าที่สั่งซื้อไปส่งมาถึงตามกำหนดเวลา

และถ้าแบรนด์ใดไม่สามารถทำตามได้ ลูกค้าก็มีแนวโน้มที่จะไม่กลับไปซื้ออีก

ตรงจุดนี้เองที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซควรจะเอาต์ซอร์สงานลอจิสติกส์ให้แก่พาร์ทเนอร์ผู้ให้บริการลอจิสติกส์บุคคลที่ห้า

หรือ Fifth-Party Logistics (5PL) เช่น ดีเอชแอล เพราะทุกวันนี้ระบบซัพพลายเชนมีความซับซ้อนมากขึ้น

ดังนั้นโมเดล 5PL จึงเกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการในส่วนนี้ 5PL ทำหน้าที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านลอจิสติกส์ของลูกค้า 

โดยขั้นแรกจะระบุความต้องการของลูกค้า จากนั้นก็วางแผน ดำเนินการ และจัดการโซลูชั่นลอจิสติกส์ทั้งหมด

พาร์ทเนอร์ 5PL มีขนาดธุรกิจและประสบการณ์ในการจัดหาและจัดการซัพพลายเออร์อื่นๆ

ครอบคลุมทุกส่วนของซัพพลายเชน และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อปรับปรุงทุกช่องทางการติดต่ออย่างเหมาะสม 

กล่าวโดยสรุปก็คือ 5PL คือโซลูชั่นแบบครบวงจรที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการด้านลอจิสติกส์

 

และช่วยให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นตามกำหนดเวลา ในปี 2565 ขณะที่ซัพพลายเชนยังคงประสบปัญหาการหยุดชะงักอย่างต่อเนื่อง

ผู้ให้บริการ 5PL จะมีบทบาทสำคัญเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

  1. ลอจิสติกส์ที่ยืดหยุ่นด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

บางครั้งธุรกิจอีคอมเมิร์ซอาจไม่สามารถคาดเดาได้

 กระแสความนิยมใหม่ๆ ของผู้บริโภคอาจทำให้สินค้าบางอย่างขายดีจนหมดเกลี้ยง และทำให้ธุรกิจมีออเดอร์ล้นมือ

ตรงจุดนี้เองลอจิสติกส์ที่ยืดหยุ่นจะมีประโยชน์อย่างมาก

กล่าวคือ บริการลอจิสติกส์ที่มีความยืดหยุ่นสูงจะสามารถขยาย

หรือปรับลดขนาดให้สอดคล้องกับความต้องการภายในซัพพลายเชน

ลอจิสติกส์ที่ยืดหยุ่นเกิดขึ้นได้โดยอาศัยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

และระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่สามารถคาดการณ์เกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างฉับพลัน

และสามารถระบุได้ว่าจะต้องปรับเพิ่มขยายหรือลดขนาดตรงจุดใดของซัพพลายเชนเพื่อรับมือกับสถานการณ์

 สำหรับการดำเนินงานภายในคลังสินค้า เทคโนโลยี AI

จะรองรับกระบวนการอัตโนมัติ ทั้งในส่วนของการรับสินค้า การแพ็คสินค้า และการจัดการสินค้าคงคลัง 

ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาดำเนินการ ทำให้จัดส่งสินค้าได้เร็วขึ้น

และช่วยให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซสามารถนำเอาสินค้าออกจากรายการที่นำเสนอแก่ลูกค้าในกรณีที่มีสินค้าเหลืออยู่ในสต็อกไม่เพียงพอ เทคโนโลยี AI

มีศักยภาพในการเพิ่มผลกำไรโดยเฉลี่ย 38เปอร์เซ็นต์

และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ราว 14 ล้านล้านดอลลาร์ใน 16 กลุ่มอุตสาหกรรมใน 12 ประเทศภายในปี 2578

 สำหรับธุรกิจขนส่งและจัดเก็บสินค้า AI จะช่วยเพิ่มผลกำไรได้ประมาณ 44 เปอร์เซ็นต์

ที่สำคัญคือ ลอจิสติกส์ที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้องค์กรธุรกิจตัดสินใจโดยคำนึงถึงซัพพลายได้อย่างถูกต้องเหมาะสม

ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และลดการสิ้นเปลืองในทุกขั้นตอนของกระบวนการ และเมื่อภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซมีขีดความสามารถด้านการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น

โมเดลลอจิสติกส์นี้ก็จะถูกนำไปใช้กับธุรกิจต่างๆ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต

  1. ยานพาหนะไร้คนขับ

ปัญหาการขาดแคลนคนขับรถทวีความรุนแรงจนทำสถิติสูงสุดทั่วโลก

และสถานการณ์นี้จะรุนแรงขึ้นในปี 2565  สมาคมรถบรรทุกของสหรัฐฯ ประเมินว่าในปี 2565 จะมีปัญหาขาดแคลนคนขับรถราว 90,000 คนในสหรัฐฯ

ขณะที่ในยุโรป สถานการณ์ก็ไม่ต่างกัน โดย Transport Intelligence

คาดการณ์ว่าในปัจจุบันยุโรปประสบปัญหาขาดแคลนคนขับรถราว 400,000 คน

อย่างไรก็ดี ตอนนี้มีเงื่อนไขและสภาพแวดล้อมที่พร้อมสำหรับการขยายธุรกิจยานพาหนะไร้คนขับให้เติบโต

โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2564 การลงทุนในบริษัทรถบรรทุกไร้คนขับมีมูลค่าสูงถึง 5.6 พันล้านดอลลาร์

และคาดว่าจะมีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรมสำหรับภาคธุรกิจนี้ในปี 2565

อีคอมเมิร์ซยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว

  1. อีคอมเมิร์ซที่ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเติบโตขึ้นอย่างมาก

และทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ด้วยเหตุนี้

จึงมีการคาดการณ์ว่าอีคอมเมิร์ซจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี 2565 โดยคาดว่ายอดขายอีคอมเมิร์ซจะแตะระดับ 5.4 ล้านล้านดอลลาร์

 ขณะที่ตลาดอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศคาดว่าจะมีมูลค่า 1,508.7พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570

เพิ่มขึ้นจากระดับ 532.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2563 หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 15.5% ต่อปีในช่วงปี 2564-2570 ทั้งนี้

อีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศก่อให้เกิดประโยชน์มากมายต่อธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการขยายกิจการ

และเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าแก่ผู้บริโภคโดยตรง โดยไม่จำเป็นต้องมีกระบวนการซัพพลายเชนที่ซับซ้อน

 รายงานผลการศึกษาของดีเอชแอลคาดการณ์การเติบโตของธุรกิจ B2B อีคอมเมิร์ซว่าภายในปี 2568 ราว 80% ของการซื้อขายแบบ B2B

จะดำเนินการผ่านช่องทางดิจิทัล และกลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลจะกลายเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการเติบโตของอีคอมเมิร์ซทั่วโลก

โดยครองสัดส่วนมากถึง 73% ของผู้ตัดสินใจเกี่ยวกับการซื้อขายแบบ B2Bอีคอมเมิร์ซ

  1. หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ

ภายในคลังสินค้า การใช้โซลูชั่นหุ่นยนต์อัตโนมัติจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ

ตลาดหุ่นยนต์ช่วยงานคลังสินค้าอัตโนมัติทั่วโลกคาดว่าจะเติบโตเกือบสองเท่าภายในปี 2568 จนแตะระดับ 27.2 พันล้านดอลลาร์

และในซัพพลายเชนอีคอมเมิร์ซซึ่งความเร็วถือเป็นเรื่องสำคัญ 

อาจใช้ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติภายในคลังสินค้าเพื่อค้นหา หยิบจับ และเคลื่อนย้ายสินค้าคงคลังไปตามจุดต่างๆ อย่างรวดเร็วมากขึ้น

ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถจัดส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้ตามกำหนดเวลา

ตลาดหุ่นยนต์ลอจิสติกส์ทั่วโลกมีมูลค่า 11.7 พันล้านดอลลาร์ในปี 2564 และคาดว่าจะแตะระดับ 49.4 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570

ท่ามกลางการเติบโตของอีคอมเมิร์ซระหว่างประเทศ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรสได้เปิดตัว DHLBot

ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ช่วยจัดเรียงพัสดุอัตโนมัติในประเทศสิงคโปร์ และเกาหลีใต้

ช่วยให้ฮับและเกตเวย์สามารถจัดการพัสดุที่มีจำนวนมากขึ้น

ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวมอย่างน้อย 40 เปอร์เซ็นต์

  1. ความยั่งยืน

นี่คือคีย์เวิร์ดสำคัญสำหรับการคาดการณ์เทรนด์ด้านลอจิสติกส์และการจัดส่งสินค้าในปี 2564 และคาดว่าจะมีบทบาทสำคัญอย่างมากในปี 2565 ด้วยเช่นกัน

กล่าวคือ ผู้บริโภคมีความคาดหวังมากขึ้นว่าแบรนด์ต่างๆ จะต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

ตั้งแต่เรื่องของบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ไปจนถึงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และองค์กรธุรกิจก็เริ่มตระหนักถึงประโยชน์ทางการเงินที่ได้รับจากการลดการสิ้นเปลืองในส่วนต่างๆ ของซัพพลายเชน

ในปี 2568 ราว 20% ทั่วโลกจะเข้าสู่เทรนด์ยานยนต์ไฟฟ้า

หนึ่งในตัวการสำคัญที่สุดที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนในซัพพลายเชนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซก็คือ

การขนส่งสินค้า โดยข้อมูลจาก Boston Consulting Group ระบุว่า กิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการขนส่งสินค้าคิดเป็นสัดส่วน 17%

ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก  เพื่อแก้ไขปัญหานี้

จึงมีการปรับใช้ยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแพร่หลายมากขึ้น  ธนาคารเพื่อการลงทุน UBS

ประเมินว่าภายในปี 2568 ราว 20% ของรถยนต์ใหม่ที่จำหน่ายทั่วโลกจะเป็นรถไฟฟ้า

สำหรับปีนี้ บริษัทขนาดใหญ่มุ่งเน้นเป้าหมายเพื่อความยั่งยืน

และการทำให้ซัพพลายเชนทั้งหมดมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ผู้บริโภคยินดีที่จะจ่ายค่าบริการเพิ่มสำหรับการจัดส่งสินค้าด้วยวิธีที่ยั่งยืนกว่า

การให้ความสำคัญกับกระแสบริโภคนิยมสีเขียว (Green Consumerism)

สะท้อนได้ว่าแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับแนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะครองตลาดในหลายปีนับจากนี้

ดีเอชแอลตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าราว 60%

ของการให้บริการแบบลาสไมล์ โดยจะมีรถยนต์ไฟฟ้า 80,000 คันวิ่งตามท้องถนนภายในปี 2573 ิ

ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งในเป้าหมายของกลุ่มบรษัทที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากธุรกิจลอจิสติกส์ทั้งหมดให้เหลือศูนย์ (Net-Zero) ภายในปี 2593

 นอกจากนี้ เมื่อเดือนสิงหาคม 2564 บริษัทฯ ่

ได้สร้างประวัติศาสตร์ด้านการบินด้วยการสังซื้อเครื่องบิน Alice eCargo ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด จำนวน 12 ลำ จากผู้ผลิตเครื่องบิน Eviation

เนื้อหาโดย: tyuoi
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tyuoi's profile


โพสท์โดย: tyuoi
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
10 VOTES (5/5 จาก 2 คน)
VOTED: maddog2565, tyuoi
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
หนุ่มญี่ปุ่นคอสเพลย์เป็นกันดั้ม แทนที่จะสวมสูทไปงานแต่งเพื่อนเมืองใหญ่ชื่อดังระดับโลก ที่ผู้อาศัยมีระดับความเครียดมากที่สุดแปลปกสลากสัญจร จังหวัดชัยนาท งวด 1 มิถุนายน 2567หนุ่มบุรีรัมย์ คว้าแชมป์โลกนวดไทย Sport รับเงินรางวัล 100,000 บาท ในการแข่งขันนวดไทยชิงแชมป์โลกที่กระบี่"ครูไพบูลย์" เผยหุ่นแฮนซั่ม กล้ามแน่น..ในสไตล์หนุ่มไบค์เกอร์ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! เลขทะเบียนรถอัปมงคล เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุไม่แปลกใจเลย..ทำไม "โนบิตะ" ถึงไปโรงเรียนสายทุกวันระทึก! เด็กวัยขวบเศษติดในรถในสภาพที่ร้อนจัด
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ไม่แปลกใจเลย..ทำไม "โนบิตะ" ถึงไปโรงเรียนสายทุกวันเทศกาลเดินบนไฟ: ประเพณีอันเก่าแก่ของชาวกรีกฟรีน - เบ็คกี้ สองนักแสดงสาวชาวไทย เฉิดฉายเทศกาลหนังเมืองคานส์ 2024ดวงรายปักษ์ 16 - 31 พฤษภาคม 2567สถิติย้อนหลัง 10 ปี งวด 1 มิถุนายน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
การใช้ประโยชน์จาก Gemini: ผู้ช่วยอัจฉริยะจาก Googleเทศกาลเดินบนไฟ: ประเพณีอันเก่าแก่ของชาวกรีกชุดกิโมโนกับความลึกซึ้งของประเพณีญี่ปุ่น เรื่องราวชุดชั้นในไม่เชื่ออย่าลบหลู่! เลขทะเบียนรถอัปมงคล เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ
ตั้งกระทู้ใหม่