เปลี่ยนเหล็กดัดประตูหน้าต่างเก่าๆ ลูกกรงเหล็กเก่าๆ ที่ผุพัง ให้กลับมาสวยงามเหมือนมืออาชีพ
สวัสดีครับ ใครมีปัญหาสนิมกัดกินเหล็กดัด หน้าต่างประตูบ้าน ลูกกรงต่างๆ กันอยู่ วันนี้ผมมีทริคเล็กๆ น้อยๆ มาให้เพื่อนลองนำไปปรับใช้ เผื่อจะได้ช่วยเซฟเงินในกระเป๋า ได้ไม่มากก็น้อย ย้ำว่าไม่ใช่ช่างทาสี ก็ทำได้ ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน รับรองว่าคุณจะ Happy ที่ได้เหล็กดัดประตูหน้าต่าง ลูกกรง ชุดใหม่ที่ช่วยทำให้คุณมีความสุขได้ง่ายๆ
ประเด็นที่หยิบมาพูดคุยแชร์ประสบการณ์ดีๆ ให้เพื่อนๆ ในวันนี้ เพราะผมมีเคล็ดลับการคืนชีพเหล็กดัดอายุมากกว่า 10 ปี ที่มีสภาพตามอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทั้งเก่าและเป็นสนิมเขรอะ ให้กลับมาดูสวยเงางาม ราวกับเราติดตั้งเหล็กดัดประตูหน้าต่างด้วยของใหม่
สำหรับอุปกรณ์ที่เราต้องเตรียม สามารถหาได้ง่ายๆ
1.สีเคลือบเงาทากันสนิมยี่ห้อไหนก็ได้ (ในที่นี้ผมเลือกใช้ BegerShield)
ขึ้นอยู่กับจำนวนบานเหล็กดัด ประตูหน้าต่าง
2.น้ำยาลอกสี
3.ถุงมือยาง
4.ผ้าใบกันสีเลอะเทอะพื้นที่หน้างาน
5.ทินเนอร์ทำความสะอาดพื้นผิว
6.แปรงขูดพื้นผิวทำความสะอาดและแปรงทาสีไซส์ต่างๆ
7.กระดาษทรายสำหรับขัดพื้นผิว
ถ้าจะให้เราทาสีได้ง่ายขึ้น สิ่งที่ต้องทำตั้งแต่แรก ก็คือ การขัดพวกสนิมเก่าๆ หรือสภาพสีเก่าๆ ที่เสื่อมสภาพออกให้หมด ตรงนี้ถ้าเตรียมพื้นผิวได้ดี การทาสีก็จะง่าย และทำให้สีออกมาดูสวย ดูเงามากขึ้น
ประตูเหล็กดัดหน้าบ้าน เราก็ทำการขัดสนิม ลอกสีเก่าที่พุพังออกให้หมด ก่อนที่จะทาสีใหม่ไป แก้ปัญหาทั้งเรื่องของสนิมและการยึดเกาะของตัวสีใหม่ที่ทารอบนี้ ให้มีการยึดเกาะได้ดีขึ้น อีกทั้งยังไม่ต้องกังวลเรื่องของการกัดกินของตัวสนิมเดิมที่จะลุกลามเพิ่ม เพราะสีตัวนี้เค้าป้องกันทั้งสนิมเดิมและหยุดการลามของสนิมใหม่ด้วย
ส่วนในห้องครัว เลือกใช้สีเทา จากสภาพสีเดิมที่พึ่งทาใหม่ อายุสี ฟิล์มสียังไม่เสื่อมสภาพ ก็สามารถที่จะใช้สี Beger griptech ทาทับไปได้เลย เพราะฟิล์มสีเดิมยังดีอยู่ รอบนี้เราตั้งใจเลือกสีกันสนิมเกรดที่คิดว่าดีที่สุด แล้วไม่อยากได้สีที่ต้องผสมหรือมีขั้นตอนที่ยุ่งยาก ก็เลยได้ตัวนี้มา Beger griptech คนขายบอกว่าตัวนี้ เปิดฝาทาสีได้เลย
ผมชอบอยู่อย่างกับสีน้ำมันกันสนิมตัวนี้ ส่วนตัวรู้สึกว่ามันทาง่าย ขนาดว่าเราไม่ใช่ช่างทาสียังทาได้ง่าย รู้สึกว่า เหล็กดัดต่ออันเราใช้เวลาทาแค่ 30-45 นาทีมั่ง แล้วเนื้อสีมันเงา แห้งไว ทาทิ้งไว้ กลับมาทารอบที่สองจากบนลงล่างได้เลย
หากทาสีไปสักระยะ แล้วในกระบะสีเกิดสีแห้ง หรือเหนียวหนืดๆ ก็สามารถที่จะผสมทินเนอร์ เข้าไปนิดหน่อย เพื่อให้เนื้อสีกลับมาลื่นขึ้น สามารถทาสีได้ง่ายขึ้นเหมือนเดิมนั่นเอง
ปกติแล้ว หากเราจะทาสีพื้นผิวชิ้นงานเหล็ก เราจะต้องเริ่มต้นด้วยการทารองพื้นกันสนิมไปก่อน รอให้แห้งแล้วถึงจะเริ่มทาสีอื่นๆ ทับได้ แต่ด้วยนวัตกรรมรูปแบบใหม่ เราสามารถทาสี Beger griptech ได้เลย ทำให้ประหยัดเวลาขึ้นมากๆ ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ว ต่อ 1 บานประตูเหล็กดัดหน้าบ้าน รู้สึกว่าผมใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนลูกกรงหลังบ้านก็ใช้เวลาทาซ้ำประมาณ 2 รอบ แต่ละรอบก็ใช้เวลาทาไม่ถึงชั่วโมงเช่นกัน
หลังจากลอกสีเดิมกับขี้สนิมเดิมเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มที่จะทาสีประตูเหล็กดัดหน้าบ้าน ด้วยสีน้ำตาลเข้ม
จากภาพบอกเลยว่ามันทาไม่ยาก กลิ่นไม่ฉุน แถมสีต้วนี้แห้งไวขึ้นเงาสวยงามอีกด้วย ถูกใจผมทั้ง 2 เฉดเลย ทั้งตัวสีเทาที่ทาลูกกรงห้องครัวหลังบ้านและ สีน้ำตาลที่ทาประตูเหล็กดัดหน้าบ้าน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนประตูใหม่ได้เยอะมากๆ
ลูกกรงประตูหลังบ้าน เราเลือกใช้สีเทา เพราะต้องการโทนสีอ่อนไม่ให้สีดูโดดเด่นเกินไป
ผมรู้สึกว่าการทาสีรอบนี้ง่ายกว่าที่คิดไว้มาก ตอนแรกคิดว่าต้องวุ่นวายทาสีหลายวัน แต่เราใช้เวลาทาสีแค่ 2 วันเท่านั้น ไม่ต้องไปหาจ้างช่างทาสีให้วุ่นวาย ทำกันเองที่บ้านก็ได้ แค่ช่วยกันจับๆ ถอดๆ ทาๆ ก็สวยได้เหมือนที่เราต้องการ เหล็กดัดประตูหน้าต่างเก่าๆ ลูกกรงห้องครัวสีหมอง ๆ ก็หลับมาดูดีสวยงามได้อีกครั้งได้อย่างไม่ยากเย็น
นอกจากนี้ สี Beger griptech ยังสามารถทา ชิ้นงานพื้นผิวอื่นๆ ได้อีกด้วย พวก พื้นผิวไม้ ท่อพีวีซี กระเบื้อง พลาสติก ดินเผา ผมว่ามันโอเคนะ ถ้าจะมีติดไว้ที่บ้านสักกระป๋อง 2 กระป๋อง สำหรับงานสีเล็กๆ น้อยๆ หรืองานซ่อมสีต่างๆ ประหยัดเงินในกระเป๋าเราไปได้เยอะเลย
ผมก็หวังว่า ข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ที่ผมหยิบมาเล่าให้ฟัง ก็น่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยไว้เป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่กำลังคิดว่าจะเปลี่ยนเหล็กดัดประตูหน้าต่างๆ ชุดเก่าๆ ทิ้ง แล้วซื้อชุดใหม่มาติดตั้ง ลองเอาทริคเล็กๆ น้อยๆ ของผมไปปรับใช้ดูได้นะครับ