เพียงคำชี้แจง อาจทำร้ายเด็กจนถึงตายได้อย่างไร
1. หลายต่อหลายคนเคยได้อ่านคำชี้แจง เรื่องที่มีน้องนักเรียนหลายคนถามว่า ถ้าเกิดป่วยหรือมีอาการคล้ายๆป่วยเป็นโควิด ติดไวรัส จะมีโอกาสสอบได้หรือไม่
1.1 แต่ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบกลับตอบว่า ไม่มีสิทธิ์ ต้องไปรอปีหน้าและไม่จัดสอบซ่อม ทั้งยังบอกด้วยว่า เขาทำแบบนี้มาหลายปีแล้ว เป็นกฎระเบียบเพื่อความเสมอภาค แล้วยังบอกว่าคำชี้แจงนี้ได้กลั่นกรองมาแล้ว
1.2 พวกเขาหารู้ไม่ว่า มันคือ ตรรกะวิบัติ หรือ "fallacy" พวกเขาไม่เคยเรียนรู้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเด็กเลย เด็กที่ป่วย ประสพอุบัติเหตุกระทันหัน เกิดความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย จิตใจ มากขนาดไหน เรียนรู้บทเรียนแล้วแก้ไขหรือไม่ สอบซ่อมแล้วเกิดผลดีหรือผลเสียอย่างไร ซึ่งนี่คือสถิติความน่าจะเป็นทั้งสิ้น โอกาสของเด็ก ความเสียหายต่อเด็ก ล้วนประเมินอะไรไม่ได้และไม่ใช่ของเล่นที่มาพูดมาเขียนกันพล่อยๆ
นี่คือการทำร้ายเด็กอย่างทารุณที่สุด
2. แล้วคำชี้แจงแบบนี้ ทำร้ายเด็กให้ถึงตายได้อย่างไร
2.1 หลายคนคิดว่าแคำคำไม่กี่คำถึงกับฆ่าคนได้หรือ ไม่ได้ทำให้ตายทุกคน แต่มันคือความน่าจะเป็น ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ บทความนี้จะบีบให้เล็กลงเฉพาะ ผลเสียทางตรง ที่ทำให้ตาย บาดเจ็บสาหัส พิการ และสาเหตุอะไรที่ทำให้ เจ็บ/ตาย ได้
2.1.1เด็กนักเรียนทุกเพศส่วนมาก จิตใจและร่างกาย เปราะบางต่อทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเฉพาะนักเรียนหญิง
2.1.2 เด็กที่เจ็บป่วย ประสพอุบัติเหตุ นอกจากร่างกายจะเจ็บป่วยแล้ว จิตใจยังบอบช้ำอีกด้วย ถ้าเขาหวังสิ่งใดเอาไว้ด้วย ยิ่งสร้างความเครียดให้เพิ่มเติมอีก ถ้ายิ่งสูญเสียโอกาส หรือได้ยินคำพูด ได้อ่านคำเขียนที่กระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง จะทำให้โรคนั้น ดำเนินอาการที่รุนแรงมากขึ้น มากขึ้น และมากขึ้น จนถึงกับเสียชีวิตไปก็มี ถ้ารอดชีวิต บางคนอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้า โรค ptsd ซึ่งมันคือความพิการ
2.1.3 โดยเฉพาะเด็กที่ติดโควิด ป่วย เข้าโรงพยาบาล ต้องอยู่โดดเดี่ยว ทั้งเครียดทั้งกังวล แน่นอนจิตใจย่อมแหลกสลาย โอกาสที่จะอาการหนักขึ้นนั้นมีแน่นอน
2.2 สาเหตุที่ทำให้ตายนั้น ถ้าอย่างปกติคือความเครียด ตั้งแต่เครียดจนอาการหนักขึ้นซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป
จนถึงขั้น เครียดจนหัวใจเต้นแรง ความดันเลือดสูงขึ้น สูงมากจนเส้นเลือดในสมองแตก หมดสติ จนกระทั่งเสียชีวิต หรือไม่ก็ทำให้เส้นเลือดในช่องอก เส้นเลือดเล็กๆในปากในลำคอแตกจนเกิดอาการ
bleed coughing ได้
อาการกระอักเลือด นอกจากโรคหรือเส้นเลือดในปอดในหลอดลม
ยังเกิดได้จากสาเหตุอื่น เช่น ความดันเลือดสูงผิดปกติจนหัวใจบีบตัวอย่างแรงทันใด จนกระทั่งเส้นเลือดแตก ไหลออกทางปากทางจมูก เรื่องเหล่านี้มีประปราย ไม่ค่อยเป็นข่าว แต่เคยไปถามเทคนิคการแพทย์ที่รู้จักกันเขาบอกให้ฟังว่าเป็นไปได้เละเคยมี แต่ไม่เป็นทางการ
อีกอาการหนึ่งคือ เครียดจัดจนเกิดน้ำกรดในกระเพาะ กัดผนังกระเพาะจนถูกเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลออกมา พอเกิดอาการระคายเคือง ก็ไหลออกมาทางปาก แบบนี้พบบ่อย ถ้าเกิดไปโดนส่วนสำคัญเข้า อาจเสียชีวิตได้
ส่วนเส้นเลือดในสมองแตก เครียดจนหมดสติ อันนี้ ทำให้ตายได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นต้องระวัง แล้วสิ่งที่เขาห้ามพูดห้ามทำกับคนซึมเศร้า คนที่เป็นแผลสงคราม คนที่จะฆ่าตัวตาย เราต้องไม่ทำ
3. วิธีแก้ไข การสอบซ่อมคือทางแก้ที่ดีที่สุด ไม่เกิดความเสียหายใดๆ และเกิดความเสมอภาคต่อเด็กด้วย ทำให้เด็กที่ขาดโอกาส กลับมามีโอกาสอีกครั้งหนึ่ง น้ำใจของเด็กนักเรียนสมัยนี้ไม่เหมือนก่อนแล้วแม้จะอยู่ต่างที่ต่างครอบครัวตามสถาบัน เขาพร้อมจะเสียสละเพื่อนักเรียนด้วยกันตลอด อย่าประเมินผิดพลาด
3.1 จัดสถานที่พิเศษให้ สอบ หรือไม่ก็ส่งเอกสารไปถึงที่ๆเด็กอยู่ ให้เด็กได้สติแล้วสอบทีละข้อๆ ไปเรื่อยๆจนเสร็จ หายป่วยแล้วค่อยตรวจถ้าผ่านก็ให้ทางมหาวิทยาลัยรับไปเรียน ถึงจะช้ากว่าคนอื่น แต่เราต้องหาทางชดเชยให้ได้อยู่เสมอ
3.2 สร้างมาตรการรองรับล่วงหน้าหากเกิดปัญหานี้ขึ้น และปรับแก้ได้ตลอดเวลาตามสถานการณ์ ตามสภาพเด็กแต่ละคนโดยเฉพาะเด็กพิเศษ
อย่าลืมจดจำบทเรียนทุกอย่างเอาไว้แก้ไข ใช้ไหวพริบให้เป็น รู้จักเสียสละให้เด็กเพราะมันคือหน้าที่ของครูอาจารย์ที่เสียสละได้แม้ชีวิต งบประมาณเรามีพอ ไม่พอก็ขอเอาจากคนมีเงิน ไม่เป็นภาระ
3.3 ถ้าเด็กที่ป่วยเกิดตายระหว่างที่สอบ หรือหลังสอบแล้วยังป่วยจนตาย เราต้องแสดงน้ำใจ หาชุดที่เด็กอยากจะเป็นไปบริจาค ตอนทำบุญก็พับชุดใส่พานไว้ อันนี้ ทุกภาคส่วนโดยเฉพาะคณะกรรมการต้องแสดงน้ำใจ แม้จะใช้เงินน้อย แต่จะซื้อใจคนได้มาก
4. เด็กสมัยนี้ไม่เหมือนคนสมัยก่อน เขาถามเขาต้องการเรื่องความน่าจะเป็น เหตุผลที่คิดเป็นตัวเลขได้
เปรียบเทียบได้ มีที่มาที่ไป ไม่ใช่คำตอบที่ห้วนๆไร้น้าหนักแฝงอำนาจ เขาไม่สนใจยศศักดิ์ ไม่สนใจอายุ เขาสนใจเหตุผล ที่มาที่ไป ข้อดีข้อเสีย เรื่องในสามกาลเวลา อดีต ปัจจุบัน อนาคต ผลดี ผลเสีย ไม่คิดแบบในยุคอดีต ถ้าตอบไม่เป็นก็ไม่ต้องตอบ ขอคำชี้แนะ เด็กยุคนี้วุฒิภาวะสูงกว่าเด็กยุค 30 ปีก่อน เพราะพวกเขาสะสมความรู้ความคิดความอ่านจากยุคก่อน มากขึ้นๆเรื่อยๆ จนกลายเป็นเหตุเป็นผลที่จะโต้เถียงได้เสมอตัวกัน เวลาโต้เถียงกัน สิ่งใดที่ดีรับไว้สิ่งไม่ดีปล่อยมันให้หายไปถ้าเราพิจารณาแล้วมีข้อเสียจริงๆต้องแก้เสียในเวลานั้นอย่าลืมว่า
เรียนผูกต้องเรียนแก้
รูปไม่เกี่ยวกับเรื่อง แต่ให้ดูตัวอย่าง ที่จริงน้องเขาต่อสู้จนบาดเจ็บ
อ้างอิงจาก: https://today.line.me/th/v2/article/96qzjx
https://www.sikarin.com/health/เครียดลงกระเพาะ
https://www.phyathai.com/ทำไมเครียดแล้วความดันสูง
https://mobile.twitter.com/tanawatofficial/status/1484522688412794880
https://twitter.com/cnew888/status/1484572600303235073
https://www.zerochan.net/94916