ปล่อยตัว ปล่อยใจ ปล่อยเวลาไปกับการดูซีรีส์เรื่องโปรด
หากการที่เราจะใช้เวลาหลายชั่วโมงในวันหยุดของเราไปกับการดูหนัง ดูซีรีส์เรื่องโปรดแล้วล่ะก็ เราอย่าได้รู้สึกผิดหรือรู้สึกแย่กับตัวเองเลยว่าเราเอาเวลาว่างมาใช้อย่างไม่เกิดประโยชน์ เพราะมันไม่ใช่อย่างนั้น ตราบใดที่เราทำแล้วมีความสุขและตอบสนองต่อความต้องการของเรา เราไม่ควรที่จะรู้สึกผิดกับสิ่งนั้น เพราะแต่ละคนก็เลือกที่จะใช้เวลาว่างตามที่ตนเองต้องการ เนื่องมาจากเรามีความชอบที่หลากหลาย เช่น หลายคนชอบการปลูกต้นไม้ เมื่อมีเวลาว่างก็จะคอยสรรหาพันธุ์ไม้ต่างๆมาปลูก
เมื่อได้เอนหลังลงบนที่นอน โซฟานุ่มๆ เปิดซีรีส์เรื่องโปรด เราเหมือนได้ปล่อยตัว ปล่อยใจ เคลิบเคลิ้มไปกับเวลาแห่งความสุขเหล่านั้น เป็นกิจกรรมที่ทำได้ทั้งคนโสดและคนมีคู่ หรือจะเป็นเวลาแห่งครอบครัวก็ได้ เพราะซีรีส์สำหรับเด็กก็มีให้ได้ดูมากมาย โดยเฉพาะการ์ตูนจากช่องดิสนีย์ นอกจากนี้ยังมีอนิเมะพากย์ไทย ให้แฟนๆที่ชื่นชอบอนิเมชั่นได้ติดตามผลงาน ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าจะทำให้การดูซีรีส์ดูหนังเหมือนการได้ไปดูในโรงภาพยนตร์ เราก็สามารถสร้างบรรยากาศเสริมเข้าไปได้ ไม่ว่าจะเป็นทำป็อปคอร์นรสชาติต่างๆ นำโปรเจคเตอร์มาฉาย เป็นต้น นอกจากนี้เว็บไซต์ home kapok ได้แชร์ไว้ว่า เทคนิค ดูหนังอยู่บ้านยังไงให้ “ฟิน” เลือกดู Soundtrack เท่านั้น เชื่อว่าคงมีเพื่อนๆหลายคนที่ชอบและติดตามหนังต่างประเทศอยู่บ่อย ๆ ซึ่งหากว่าคุณต้องการความฟินและความสนุกที่มากยิ่งขึ้นแล้ว ต้องบอกเลยว่า การดูหนังแบบ Soundtrack นั้นจะทำให้คุณสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของนักแสดงที่ถูกถ่ายทอดผ่านเสียงได้มากกว่าการดูแบบพากย์เสียง ไม่ว่าจะเป็นการโทนการพูด จังหวะ หรือ แม้กระทั่งเสียงหายใจเบา ๆ ที่บางครั้งการพากย์เสียงก็อาจจะตกหล่นในรายละเอียดส่วนนี้ไป ซึ่งนั่นอาจจะเปลี่ยนความรู้สึกในการดูหนังเรื่องนั้นของคุณไปเลยก็ได้ และในหลายๆครั้งที่บทถูกออกแบบมาสำหรับภาษาต้นฉบับเท่านั้น ทำให้การแปลภาษาออกมานั้นดูแปลก ๆ และอาจจะทำให้เกิดความคลาดเคลื่อนจนทำให้เราไม่เข้าใจเนื้อหา หรือใจความสำคัญที่หนังเรื่องนั้นต้องการจะสื่อก็เป็นได้ ดังนั้นแล้วถ้าหากว่าการอ่านซับไทเติ้ลนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคกับคุณมากนัก เราขอแนะนำให้คุณดูหนัง soundtrack เพื่อเพิ่มความฟิน แถมยังเป็นการทักษะการอ่านและฝึกภาษาไปในตัวอีกด้วย จอใหญ่ เต็มตา ก็ฟินกว่า แน่นอนว่า การไปดูหนังในโรงนั้นก็จะทำให้คุณได้ดูจอใหญ่ที่ภาพและเสียงคมชัดเต็มตา แต่ว่าเทคโนโลยีในสมัยนี้ก็ได้พัฒนาจอทีวีให้สามารถรองรับความคมชัดระดับ 4K หรือ Ultra 4K เทียบเท่ากับที่ฉายในโรงหนังได้แล้ว หรือสำหรับใครที่คิดว่าจอ 4K นั้นอาจจะเกินงบประมาณที่คุณมองหาไปสักหน่อย อาจจะเลือกทีวีจอใหญ่ แบบ Full HD ที่ขายกันในปัจจุบันก็เรียกได้ว่าความละเอียดคมชัดและภาพสวย พอจะให้คุณสามารถดูหนังโปรดของคุณได้แบบอินสุดๆแล้ว ส่วนจะเลือกขนาดจอใหญ่แค่ไหนก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ในกระเป๋าของคุณและขนาดของห้องที่เหมาะสม