เกย์ไม่แสดงออก จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นเกย์
คำถามนี้เป็นคำถามที่ตอบยากมากนะครับ ในฐานะที่ผมเองก็ผ่านการใช้ชีวิตเกย์มานานพอสมควร นับจากรู้ว่าตัวเองเป็นเกย์ก็เกือบ 40 ปีแล้ว สามารถถ่ายทอดประสบการณ์เรื่องราวเพื่อเป็นประโยชน์กับสังคมเกย์ได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
เกย์ไม่แสดงออกแบบผมนั้น จริงๆแล้วเป็นเกย์กลุ่มที่ยากต่อการเลือกคู่ครองหรือคู่ชีวิตมากที่สุดครับ ความยากมันเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ขั้นแรกเลยครับ คือ จะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เราชอบเป็นเกย์ แม้การไม่แสดงออกสาวของผมมันจะดีต่อใจตัวเองและต่อคนรอบข้าง แต่อีกมุมหนึ่งการไม่แสดงออกของผมมันก็ทำให้ผมมีโอกาสหาคู่ได้ยากมากขึ้นเช่นกัน ในลุคผมแบบแบ้ดบอยขาวหน้าตาตี๋ๆ สกินเฮด มีลอยสักที่กล้ามแขน ชอบเล่นเวท ชอบว่ายน้ำ ชอบเดินป่า ชอบปีนเขา เตะบอลกับเพื่อนชาย ลุคแบบนี้ เกย์จะมองออกได้ยากมากครับ เพราะมันเป็นลุคของผู้ชายแมนๆทั่วไป ผมไม่มีอาการหลุดออกสาวแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะตอนเรียน ตอนทำงาน หรือแม้แต่ตอนอยู่ในกลุ่มเพื่อน ในอดีตผมเองก็เคยจีบสาว และมีสาวๆเข้ามาชอบผมมากมายหลายคน เพราะจะว่าไปจริงๆ ลุคแบบผม คือ ลุคที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ชอบครับ มันเป็นพิมพ์นิยม ผมยอมรับว่า ผมมีสาวเข้ามาจีบนับเป็นร้อยๆ คนเลยครับ แต่แทบจะไม่มีเกย์เข้ามาหาผมเลยสักคน
การที่ผมเป็นเกย์ไม่แสดงออก มันจึงเป็นดาบสองคม คนที่เข้ามาหากับเป็นคนที่ผมรู้ตัวว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบทั้งนั้นเลย ผมต้องวางตัวดีมากเลยครับกับเหตุการณ์แบบนี้มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เพราะการปฏิเสธสาวที่เข้ามาจีบหนุ่มลุคแบบผม มันต้องมีวิธีการปฏิเสธ ผมเป็นคนที่ไม่ชอบเข้าหาใครก่อนครับ ยอมรับว่า สมัยนี้ ผู้หญิงเข้ามาจีบผู้ชายก่อนจริงๆ สิ่งที่ผมทำก็คือ ผมมักทำตัวให้เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงมาก และยากต่อการเข้าถึงของสาวๆ การเป็นบุคลิกอินดี้ มีโลกส่วนตัว ทำให้คนรอบข้างเข้าถึงผมได้ยาก ผมจะไม่สนิทกับใครเป็นพิเศษมากนัก โดยเฉพาะกับคนที่ทำงาน จะคุยเพียงเรื่องงงาน และไม่เน้นเรื่องส่วนตัว ไม่สนใจความสัมพันธ์แบบที่เพื่อนร่วมงานอยากให้เป็น แม้หลังเลิกงานบางทีจะมีเพื่อนสาวชวนไปทานข้าวบ้าง ผมก็มักจะอ้างนู่นนี่นั่น หรือ แกล้งทำงานหลังเลิกงานไปจน 2 ทุ่ม หรือ บางทีก็รีบกลับบ้านก่อน เหมือนเป็นคนมีธุระอะไรอยู่ตลอดเวลา และไม่มีเวลาที่จะให้คนอื่น ไม่นานสาวๆพวกนี้จะหายไปทีละคนเองครับ
ทีนี้ ในเมื่อลุคแมนๆแบบนี้ จะทำให้เกย์คนอื่นรู้ว่าผมเป็นเกย์ได้ยังไง แล้วเมื่อไหร่ผมจะหาเจอคู่ชีวิตหละ จริงๆแล้ว ผมเองไม่ใช่คนขี้อายซะทีเดียวครับ ออกจะเป็นคนกล้าหาญมากเกินไปเสียด้วยครับ ความกล้าหาญนั้นผมจะไม่ทำตลอดเวลาครับ แต่จะทำเมื่อมันจำเป็นและถึงเวลาครับ มันคือยังไง ? คือว่า...จริงๆปัจจุบันผมถือได้ว่าผมมีคู่ชีวิตที่คบมานานมากแล้วครับ ถามว่า คู่ชีวิตผมก็ไม่แสดงออก แมนๆ เหมือนกัน เขารู้ได้ไงว่าผมเป็น และ ผมเองก็รู้ได้ไงว่าเขาเป็นครับ อย่างที่ผมเล่าให้ฟัง เราเจอกันครั้งแรกที่สระว่ายน้ำครับ ผมเห็นเขามาคนเดียวตลอดทุกครั้งในวันเสาร์ ผมชอบเขาก็หาโอกาสไปเจอในเวลาที่เขามา ผมเองก็ไม่กล้าทักเขาก่อน เขาก็ไม่ทักผม ผมกับเขาแปปล่อยเวลาเนิ่นนานแบบนั้นเป็นเดือนๆ เจอหน้า อยากคุย แต่ไม่กล้า จนในที่สุดผมก็รวบรวมความกล้า เข้าไปทักเขาก่อน ทักทายทั่วไปแบบผู้ชายนี่แหละครับ ถามว่าอยู่แถวนี้หรอ เห็นมาว่ายน้ำที่นี่ตลอดเลยครับ อะไรแบบนี้ บลาๆๆ ตลอดเวลาที่ถาม ผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นเกย์อยู่ดีแหละครับ มันไม่มีอะไรที่แสดงออกมาให้เห็น ดังนั้นมันคือหน้าที่ที่ผมต้องค้นหา เพราะเขาคือคนที่ใช่สเปคผม
ผมก็ขอเบอร์ไงครับ ไม่ขอวันแรกทีเดียว เดี๋ยวเสียฟอร์ม ผ่านไปหลายๆวัน ให้ใจผมมันได้ข้อสรุปว่า คนๆนี้ใช่นะ คือสเปคผมนะ ใจมันจะตอบเอง หลังจากนั้นอาทิตย์ต่อมา ผมก้ได้เบอร์เขา คุยแบบนี้ทักทายแบบเพื่อน ชวนไปออกกำลังกาย ทานข้าว หลังๆ เขาก็เริ่มสนิทกับผมมากขึ้น เมื่อเวลาพร้อม ผมก็ถามเขาไปเองครับ ว่า คุณชอบผมไหม? ทั้งที่การแสดงออกที่ผ่านมา ผมก็รู้คำตอบแล้วหละว่า เขาชอบผมหรือไม่ ? แต่การถามนั้น เพื่อยืนยันครับ และเพื่อนำไปสู่คำถามถัดไป ก็คือ คุณอยากคบผมเป็นแฟนไหม?
มันก็แค่นั้นเอง...