นัดครั้งแรกของผมกับแฟน (ชช)
ประสบการณ์ส่วนตัวของผม ตัวผมมีผ่านการมีแฟน ชช มาแล้ว 4 คนครับ ปัจจุบันผมก็ยังคบแฟนคนปัจจุบันอยู่ ซึ่งคบหามาได้นับสิบปีแล้วครับแฟนทุกคนในอดีตที่ผมเคยคบหา ผมจะเริ่มต้นที่หน้าตาและหุ่นก่อน ซึ่งต้องยอมรับว่าเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจแรกให้เราอยากค้นหาคนๆนั้นครับ ผมเองไม่ถนัดกับเกย์ที่มีบุคลิกที่แสดงออกมากเท่าไหร่ หรือดูกระตุ้งกระติ้งผมก็ไม่ชอบครับ ดังนั้น ผมมักจะเลี่ยงที่จะคบหาคนที่มีบุคลิกที่ผมอ่านออกได้ เช่น เกย์ออกสาว แม้เพียงนิดเดียว ผมก็อ่านและจับได้เลยครับ การแต่งตัวก็มีผลมากครับ ผมชอบคนที่แต่งตัวแมนๆ เสื้อยืดกางเกงยืนธรรมดาแบบผู้ชายทั่วไปนี่แหละครับ ซึ่งสามารถมองเห็นหุ่นที่ชัดเจนได้ โดยเฉพาะ บริเวณกล้ามเนื้อหน้าอกครับ ผมชอบคนที่มีกล้ามเนื้ออกแน่นแบบชาย ไม่มีเนินนมแบบผู้หญิง ไหล่ต้องกว้าง ไม่ห่อลีบเล็ก ที่สำคัญ ต้องไม่มีพุง หรือมีพุงนิดหน่อยได้ แต่ต้องไม่ล้ำหน้าหน้าอกครับ แนวหุ่นนักกีฬาว่ายน้ำอะครับ จะเป็นหุ่นที่ผมชอบมาก ยอมรับว่าเป็นคนเรื่องมากกับเรื่องนี้
แน่นอนว่า การมองที่บุคลิก รูปร่างหน้าตา และการแสดงออกภายนอก มันเป็นเรื่องพื้นฐานของการให้ความสนใจ และการสร้างความประทับใจกันตั้งแต่ครั้งที่เจอกันครั้งแรกครับ หลังจากนั้น จะเป็นเรื่องการพูดจา การพูดคุยกันครับ ในครั้งแรกที่เจอกันนั้น ไม่ว่าคนที่ผมสนทนาด้วยจะมีบุคลิก รูปร่างยังไง ผมก็จะพูดจาคุยอย่างสุภาพกับทุกคนครับ แต่จากครั้งนั้น จะได้เจอกันครั้งที่ 2 หรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นตามมาเอง หากว่า คนๆนั้น ใช่สเปคของผมนะครับ แต่ถ้าไม่ใช่ ผมก็จะหายเงียบไปเฉยๆ ก็เป็นอันรู้กันครับ ว่าคงจบกันเพียงเท่านั้น
ส่วนใหญ่ผมมักจะเป็นเอ่ยปากนัดมาเจอเองมากกว่าครับ โดยเลือกร้านอาหารในห้างเป็นที่นัดเจอ และผมจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหาร ค่าตั๋วดูหนัง ทั้งหมดให้กับทุกคนที่เจอครับ มีบางคนผมสงสารผมก็ให้เงินกลับไปด้วยครับ ที่ที่ผมไปบ่อยในอดีตช่วงหาแฟนนั้น ก็คือ เดอะมอลล์ บางกะปิ หรือไม่ก็เซ็นทรัล ลาดพร้าวครับ เพราะผมเองสะดวกในย่านนั้น เดินทางไม่ไกลจากบ้านครับ แต่หลังจากคุยกันในครั้งแรกแล้ว ผมจะรู้ว่า ผมจะอยากเจอคนๆนั้นอีกเป็นครั้งที่ 2 อีกหรือไม่ครับ
ผมเจอคนมามากมายในช่วงวัยรุ่นครับ ในราวๆ 100 คนที่ผมเคยนัดเจอครั้งแรกนั้น มีเพียง 2 คน ที่ผมจะมีโอกาสได้เจอกันอีกเป็นครั้งที่ 2 ครับ และ 2 คนนี้ คนหนึ่งก็กลายเป็นอดีตแฟนเก่าของผมคนหนึ่งครับ ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นการนัดเจอกันครั้งที่ 2 ที่ห้าง หลังจากเจอกันครั้งแรกที่สระว่ายน้ำมาก่อนครับ คนๆนี้ คือ แฟนคนปัจจุบันของผมครับ
การจะคบหาใครสักคน ผมไม่ได้คิดว่า การเจอกันเป็นเรื่องบังเอิญ แต่มันเป็นเรื่องที่ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นครับ มันต้องค้นหาถึงจะเจอครับ การได้เจอคนมาก ก็เท่ากับว่า เรามีโอกาสที่จะมีสิทธิที่จะเลือกได้มากขึ้นด้วยเช่นกันครับ และมีสิทธิที่จะได้เจอคนที่ใช่มากขึ้นตามไปด้วย คนส่วนใหญ่ที่เจอผม มักจะมองว่าผมเป็นลูกคนรวยมีเงิน จริงๆแล้วพื้นฐานผมคือ ชนชั้นกลางเท่านั้นแหละครับ แต่เลือกที่จะแต่งตัวให้เป็น เลือกที่จะพูดจาแบบคนที่มีการศึกษา ผมจบปริญญาเอกมาจากต่างประเทศครับ
ดังนั้น เรื่องภาษา และการแสดงออกแบบคนตะวันตกที่เน้นความกล้าแสดงออกจึงไม่น่าเป็นปัญหาอะไรสำหรับผมครับ ผมกล้าที่จะพูดคุยกับคนอื่นก่อนอย่างเป็นกันเอง ติดดินพอควร และไม่ถือตัวครับ แต่สิ่งที่ผมจะไม่ทำเป็นอันขาด คือ การแสดงออกสาวครับ เพราะ ผมไม่ได้ชอบการเป็นผู้หญิง ไม่ชอบความเป็นสาวครับ ผมจึงเป็นเกย์ที่มีบุคลิกนิ่งๆ แมนๆ แบบผู้ชายทั่วไป กล้าพูดจา ตรงไปตรงมา มีความเป็นตัวเองสูง เป็นผู้ใหญ่เกินอายุครับ ผมมักจะขุนให้หุ่นตัวเองมีหน้าอกใหญ่ ใส่เสื้อผ้าแนบหุ่นเพื่อให้ดูดี ผมจำได้ว่า ช่วงที่ผมหุ่นดีที่สุดก็คือ ช่วงที่ผมกำลังหาแฟนในช่วงนั้นแหละครับ ลุคในตอนนั้นผมก็คือ การตัดผมสกินเฮด ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์แบรนด์ ผมสูง 180 ซม. ครับ น้ำหนักก็ 70 กก. ครับ ผมพูดได้ 3 ภาษา คือ ไทย จีนกลาง และอังกฤษครับ
ผมจำได้ว่า ในวันที่ผมนัดเจอแฟนผมที่เซ็นทรัล ลาดพร้าว นั้น ผมนัดเจอที่ร้านแมคโดนัลด์ครับ สมัยก่อนเมื่อนานมาแล้ว จะมีร้านแมคตั้งอยู่ที่ด้านหน้าทางเข้าของห้างครับ ผมนัดเจอเขาตอน 11 โมงเช้า แฟนผมเซ็ตผมมาอย่างหล่อเลยครับ ต่างจากผมที่ไม่มีผมให้เซ็ต เพราะผมไว้ผมทรงสกินเฮดอยู่แล้วในวันนั้นครับ
ผมมีผิวขาวออกเหลืองตามแบบฉบับของลูกคนจีนครับ หน้าแบบอาตี๋ตาชั้นเดียวของผมเห็นได้ชัดเจนมาแต่ไกล ผมจึงไว้หนวดเคราเพื่อความเท่ห์และเพื่อให้หนวดเคราตัดกับหน้าขาวๆจืดๆของผม เพื่อให้หน้าตาดูสว่างขึ้นครับ และมีความเข้มมากขึ้นด้วยครับ ต่างจากแฟนผมที่ผมนัดเจอในวันนั้น ที่เป็นแนวคนไทยแท้ ผิวดำแดงเข้ม แต่ไม่ดำครับ นัยน์ตาโต ตรงข้ามกับผมเลย เขาสูง 185 ซม. ครับ และมีน้ำหนัก 71 กก. ครับ ดูภายนอกเขาเหมือนจะผอมกว่าผมหน่อยเดียว ผมจะมีหน้าอกใหญ่กว่าเขาครับ
ถามว่า ผมเขินอายไหมในวันที่เจอกันตอนนั้น ผมไม่อายเลยครับ เพราะผมเฝ้ามองเขามานานเป็นเดือนแล้วที่สระว่ายน้ำที่ผมไปว่ายประจำ แต่คนที่เขินอายมากกลับกลายเป็นเขาครับ เขาพูดจาน้อยมาก แบบถามคำตอบคำ เดินตามผม ผมชวนเขาขึ้นไปดูหนังสือที่ร้าน B2S ครับ ในระหว่างที่ผมกำลังเลือกหนังสืออยู่นั้น ผมก็หันกลับไปมองเขาที่เดินอยู่ที่ล็อคหนังสือใกล้ๆ แต่เขาไม่ได้ดูหนังสือเลยครับ เขาแอบมองผมตลอดเวลาในขณะที่ผมเลือกหนังสือ พอเขาเห็นผม เขาก็หลบสายตาผมตลอด เป็นแบบนี้หลายครั้งในร้านหนังสือนั้น มันแสดงเห็นได้ชัดเลยว่า เขาชอบผมครับ
ถามว่า เขาใช่สเปคผมไหม คำตอบคือ ใช่ครับ ผมรู้ตัวเองมาตั้งแต่ผมเจอเขาที่สระว่ายน้ำแล้ว คนเรามักชอบอะไรที่แตกต่างจากตัวเองเป็นครับ คนขาวมักชอบคนผิวเข้มกว่า คนผิวเข้มมักชอบคนขาว เมื่อมันใช่สเปคของกันและกัน และผมเองก็พร้อมที่จะมีใครสักคนในตอนนั้น ผมก็ไม่อายที่จะเอ่ยปากขอคบกับเขาในวันนั้นเลยครับ