มอง "ทวีปแอนตาร์กติกา"และเหล่าสัตว์จากขั้วโลก ผ่านภาพถ่ายของ "พอล นิกเคลน" ช่างภาพสารคดีระดับโลก
เราไม่สามารถที่จะทำความรู้จัก "โลก" ในอีกซีกโลกหนึ่งที่อยู่ไกลออกไป รวมทั้งชีวิตหลากหลายของผู้คน สัตว์ และความเป็นไปของธรรมชาติได้เลย หากไม่ได้ติดตามชมจากสารคดี ข่าว ภาพยนตร์ ละคร รวมทั้งภาพถ่ายจากช่างภาพ ที่ซึ่งหลาย ๆ คน ได้เดินทางไกล เดินทางด้วยความยากลำบาก และอดทนรอ เพื่อให้ได้ภาพถ่าย ที่เล่าเรื่องราวของโลกได้โดยไม่ต้องมีข้อความใด ๆ ด้วยซ้ำ "พอล นิกเคลน" (Paul Nicklen) เป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภาพถ่ายของเขา เล่าเรื่องราวชีวิตของสัตว์ต่าง ๆ จากขั้วโลก และอีกหลาย ๆ สถานที่ รวมทั้งภาพถ่าย "ทวีปแอนตาร์กติกา" ได้อย่างน่าประทับใจ และหลาย ๆ ภาพ หลาย ๆ เหตุการณ์ก็ยังสะท้อนให้เห็นว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับบรรดาสัตว์ทั้งหลาย ในช่วงเวลาที่โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะจาภภาวะโลกร้อน
"พอล นิกเคลน" วัน 53 ปี เป็นช่างภาพชาวแคนาดา สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยวิกตอเรีย ทางด้านชีววิทยาทางทะเล และมีความปรารถนาที่จะถ่ายภาพสัตว์ป่า เพราะเขาผูกพันกับธรรมชาติ ณ เกาะแบฟฟิน (Baffin Island) เกาะที่ใหญ่ที่สุดใน อาร์กติกเซอร์เคิล (Arctic Circle) ของประเทศแคนาดา และใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 5 ของโลก เพราะในวัยเด็กนั้น ครอบครัวของเขาซึ่งประกอบด้วยคุณพ่อ คุณแม่และน้องชาย ได้มาใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเล็ก ๆ บนเกาะแห่งนี้ ได้เห็นถึงธรรมชาติรอบตัว รวมทั้งวิธีการใช้่ชีวิตให้รอดจากความหนาวเย็นเช่นเดียวกับชาวเอสกิโม ด้วยประสบการณ์ในวัยเด็ก และความฝันที่อยากเติบโตขึ้นมาเป็นช่างภาพ ที่ถ่ายภาพธรรมชาติจากดินแดนแห่งน้ำแข็งขั้วโลกนี้ ปัจจุบัน "พอล นิกเคลน" เป็นช่างภาพนิตยสาร “National Geographic” เป็นผู้สร้างภาพยนตร์ นักเขียน และนักชีววิทยาทางทะเลที่ได้รับการยกย่อง และได้ชื่อว่าเป็นช่างภาพสัตว์ป่าที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในอินสตาแกรม ผู้เขียนเป็นคนหนึ่งที่ติดตาม IG : paulnicklen ประทับใจมาก ๆ กับการถ่ายภาพเชิงอนุรักษ์ของเขาที่งดงามและบอกเล่าความเป็นไปของโลกในปัจจุบัน
"พอล นิกเคลน" เดินทางไปถ่ายภาพสัตว์ต่าง ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก
และ "ทวีปแอนตาร์กติกา" เป็นการเดินทางครั้งสำคัญของเขาและทีมงาน
ที่จะบอกเล่าให้ทุกคนได้รู้ว่า "ขั้วโลก"
อยู่ในสถานการณ์วิกฤตจากภาวะโลกร้อนอย่างไร ?
มาชมภาพถ่ายบางส่วนจากอินสตราแกรม ของ "พอล นิกเคลน" กันค่ะ
- หมีขั้วโลกตัวเมีย จ้องเขม็งผ่านก้อนน้ำแข็งทะเลที่เกยอยู่บนชายฝั่งของ เกาะซอมเมอร์เซ็ท ในนูนาวุต (Nunavut) ซึ่งเป็นดินแดนที่ใหญ่ที่สุด ใหม่ที่สุด และมีประชากรน้อยที่สุดของประเทศแคนาดา เพาะเพิ่งแยกออกมาจากนอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์ เมื่อปี 1999 นี่เอง
- วาฬเพชฌฆาต หรือ วาฬออร์กา (orca) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่สามารถพบเห็นได้ทั่วโลก "พอล นิกเคลน" ถ่ายภาพนี้จากหมู่เกาะ “สฟาลบาร์” หรือ “สวาลบาร์ด” (Svalbard) ในมหาสมุทรอาร์กติก ตั้งอยู่ระหว่างแผ่นดินใหญ่ของประเทศนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือ
- เพนกวินจักรพรรดิ (Emperor Penguin) เป็นเพนกวินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาเพนกวินชนิดต่าง ๆ เป็นการถ่ายภาพใต้น้ำ ในน่านน้ำที่เย็นยะเยือกของทวีปแอนตาร์กติกา เหล่าเพวนกวินจะปล่อยฟองอากาศขนาดเล็ก (microbubbles) จากขนของพวกมันเพื่อหล่อลื่นร่างกาย จากการเสียดสีของน้ำ ทำให้สามารถเพิ่มความเร็ว 2-3 เท่า ขณะที่ทะยานขึ้นเหนือน้ำ เพื่อป้องกันการโจมตีจาก แมวน้ำเสือดาว (leopard seal)
- นาร์วาล (narwhal) เป็นวาฬมีฟันขนาดกลาง ซึ่งใช้ชีวิตตลอดทั้งปีที่บริเวณอาร์กติก "นาร์วาลเพศผู้" มีลักษณะที่โดดเด่นคือ มีงาที่ยาว, ตรง, เป็นเกลียวที่ยื่นมาจากกรามบนด้านซ้าย ซึ่งก็คือฟันที่มีซี่เดียวหรือสองซี่ที่มีความยาวได้ถึง 3 เมตร ภาพเซ็ทนี้ "พอล นิกเคลน" ถ่ายลงมาจากเครื่องบิน ณ ทะเลของนูนาวุต แคนาดา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาตื่นเต้นและประทับใจมาก เพราะคิดว่าอาจจะเห็นเพียงไม่กี่ตัว แต่เขากลับเห็นพวกมันทั้งฝูง ซึ่งมีหลายร้อยตัว
-แอนตาร์กติกา ซึ่งงดงามจากทุกมุมที่ได้มอง ภาพที่มองลงมาจากเครื่องบิน เป็นภาพงดงามในมุมกว้าง "พอล นิกเคลน" ได้เล่าถึง "ภูเขาน้ำแข็ง" แห่งแอนตาร์กติกาว่า สิ่งที่ได้เห็นคือ 10 % เท่านั้น 90 % ของภูเขาน้ำแข็งอยู่ใต้น้ำ ส่วนใต้น้ำของภูเขาน้ำแข็งนี้อาจอยู่ลึกกว่า 200 ฟุต แม้ว่าภูเขาน้ำแข็งเป็นสิ่งที่น่ามอง แต่ก็เป็นสิ่งเตือนใจว่าธารน้ำแข็งกำลังลดน้อยลง และชั้นน้ำแข็งในทวีปแอนตาร์กติกากำลังแตกตัวเร็วขึ้น ส่งผลให้ ระดับน้ำทะเลทั่วโลกจะสูงขึ้นถึง 230 ฟุต ซึ่งครอบคลุมเมืองชายฝั่งที่สำคัญทั้งหมดในโลก ทั้งนี้เป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากมนุษย์ ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน
"พอล นิกเคลน" ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติมากกว่า 30 รางวัล จากผลงานการถ่ายภาพของเขา อาทิ ได้ที่ 1 รางวัล "เวิลด์ เพรส โฟโต้ 2013” ประเภทเรื่องราวธรรมชาติ จากภาพเพนกวินจักรพรรดิ แหวกว่ายอยู่ในน้ำทะเลรอสซี ทวีปแอนตาร์กติกา ที่ว่ายด้วยความเร็วราว 30 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้เกิดฟองอากาศมากมายเพื่อลดการเสียดสีระหว่างขนของพวกมันกับน้ำทะเลที่หนาวเย็น
ปัจจุบัน "พอล นิกเคลน" ยังคงเขียนหนังสือและถ่ายภาพ ทั้งยังได้เปิด "Paul Nicklen Gallery" ในโซโห นิวยอร์กซิตี้ นิวยอร์ก เพื่อจัดงานแสดงภาพถ่ายของเขา และได้ก่อตั้งกลุ่มพิทักษ์สิ่งแวดล้อม “Sea Legacy” (ซี เลกาซี) ขึ้นมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสัตว์ต่าง ๆ ช่วยกิจกรรมฟื้นฟูมหาสมุทร ด้วยความมุ่งมั่นว่าโลกของเราจะดีขึ้น
ติดตาม "พอล นิกเคลน"
IG: paulnicklen
https://www.instagram.com/paulnicklen/
..