วาจาสร้างความเกลียดชัง ยังคงเฟื่องฟู บนเฟสบุ๊กของเมียนมา

     หลายปีหลังจากถูกตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน เกี่ยวกับการมีส่วนทำให้เกิดความรุนแรง ทางชาติพันธุ์และศาสนาในเมียนมา บริษัทเฟซบุ๊กยังคงประสบปัญหา ในการตรวจหาและกลั่นกรองวาจาสร้างความเกลียดชัง และ ข้อมูลที่ผิดบนแพลตฟอร์มของตน ในประเทศบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

     เมื่อ 3 ปีที่แล้ว บริษัทเฟสบุ๊กได้จัดทำรายงานที่พบว่า "เฟสบุ๊ก" ถูกใช้เพื่อ "ปลุกระดมความแตกแยก และ ปลุกระดมความรุนแรงในประเทศ" ทางบริษัทเฟสบุ๊กสัญญาว่า "เราจะทำให้ดีขึ้น พัฒนาเครื่องมือ และ นโยบายหลายอย่าง เพื่อจัดการกับคำพูดที่แสดงความเกลียดชัง..." แต่ถึงอย่างไรก็แล้ว การละเมิดนั้น ก็ยังคงมีอยู่

     เมื่อเลื่อนดูเฟสบุ๊กในวันนี้พบว่า "มีโพสต์ที่คุกคาม การฆาตกรรม และ การข่มขืนในเมียนมา เยอะแยะมากมาย"

     วิดีโอความยาวประมาณ 1 นาทีกว่าๆ ที่โพสต์เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 2021 ที่โพสต์โดยผู้สนับสนุนกองทัพ ที่เรียกร้องให้ใช้ความรุนแรง ต่อกลุ่มต่อต้าน ซึ่งมีผู้ชมมากกว่า 56,000 ครั้งแล้ว!!

     ซึ่งใจความในคลิป กล่าวประมาณว่า “ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เราเป็นเทพเจ้าแห่งความตาย สำหรับทุกคน!!” และ “พรุ่งนี้มาดูกันว่า คุณเป็นชายแท้หรือตุ๊ดกันแน่!?”

     บัญชีหนึ่งโพสต์ที่อยู่บ้านของผู้แปรพักตร์ และ โพสต์รูปถ่ายภรรยาของเขา และ ยังมีโพสต์อื่นๆนอกเหนือจากวันที่ 29 ต.ค. 2021 ซึ่งมีรูปถ่ายของทหาร ที่นำชายที่ถูกมัดและปิดตา เดินไปตามทาง พร้อมกับคำบรรยายภาพที่เขียนประมาณว่า "อย่าจับพวกมันแบบเป็นๆสิ!!"

     "Htaike Htaike Aung" ผู้ให้การสนับสนุนนโยบายอินเทอร์เน็ต ของเมียนมากล่าวว่า "เฟสบุ๊กได้กลายเป็น “แหล่งเพาะพันธุ์ กลุ่มหัวรุนแรง” และ "เฟสบุ๊กได้นำเสนอประเด็นต่างๆ และ นำเสนอกลไกในการป้องกันแพลตฟอร์ม เช่น การรายงานโพสต์ แต่มันก็ไม่ได้ผลในเมียนมา"

     "มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก" กล่าวว่า “วาจาสร้างความเกลียดชัง เป็นภาษาที่จำเพาะเจาะจง!! มันเป็นเรื่องยากที่เราจะหายโพสต์เกลียดชังเจอ" และ "เราจำเป็นต้องเพิ่ม ความพยายามเป็นอย่างมาก ในการหาโพสต์เหล่านั้น!!”