เปิดข้อมูลทำไมต้องแก้จมูก ราคาแพงไหม? แก้แบบไหนได้บ้าง อันตรายหรือไม่?
เช็ค 5 อาการแบบไหนต้องแก้จมูก ราคาแพงไหม พักฟื้นกี่วัน เลือกทรงได้หรือไม่
เช็คความผิดปกติ อาการแบบไหนต้องแก้จมูก อันตรายหรือไม่ ราคาแพงไหม แก้แบบไหนได้บ้าง สามารถเลือกทรงได้หรือไม่ ใช้เวลาพักฟื้นกี่วัน ที่นี่มีคำตอบ
ปัจจุบันการศัลยกรรมจมูก เป็นหัตถการเสริมความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เพราะราคาไม่แพง และใช้ระยะเวลาพักฟื้นน้อย ก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าได้ แต่ก็ใช่ว่าทุกคนที่เสริมจมูกมาแล้วจะพึงพอใจกับผลลัพธ์ หลายคนต้องกลับมาแก้จมูก รือเปลี่ยนทำใหม่ ก็มีอยู่ให้เห็น ทำไมต้องกลับมาแก้จมูก สาเหตุเกิดจากอะไร หากจำเป็นต้องกลับมาแก้ไขจมูก ราคาแพงไหม ทำวิธีไหนได้บ้าง ใช้เวลาพักฟื้นนานหรือไม่ ทุกข้อที่สงสัย สามารถศึกษาข้อมูลได้ที่นี่
สาเหตุที่ต้องแก้จมูก
สาเหตุที่ทำให้ต้องกลับมาแก้จมูก มีหลายประการ ทั้งจากอาการผิดปกติไม่พึงประสงค์หลังผ่าตัดเสริมจมูก และจากการไม่พอใจผลลัพธ์ เช่นไม่ชอบทรง หรืออยากเปลี่ยนแนวเป็นทรงอื่น โดยสามารถสรุปสาเหตุหลักได้ 5 ข้อ ดังนี้
1. จมูกไม่เท่ากัน เบี้ยว บิด คด หรือเอียง
หลังเสริมจมูกไปแล้วพบว่าจมูกไม่เท่ากัน เบี้ยว บิด คด หรือเอียง อาการเหล่านี้ถือเป็นอาการที่พบได้บ่อยเมื่อเทียบกับอาการไม่พึ่งประสงค์อื่น ๆ พบได้ทั้งโคนจมูกเอียง ปลายจมูกเอียง หรือจมูกเอียงทั้งแท่ง มีสาเหตุจากการวางตำแหน่งซิลิโคนจมูกที่ไม่เหมาะสม วางซิลิโคนเบี้ยว วางไม่แนบกับฐานกระดูก รวมไปถึงเลือกชนิด หรือขนาดของซิลิโคนไม่พอดีกับฐานโครงสร้างจมูก (เป็นเรื่องของเทคนิคการเสริมจมูกของแพทย์ที่ต้องอาศัยประสบการณ์ในการทำ) ทั้งนี้อาการจมูกไม่เท่ากัน เอียง เบี้ยว อาจเกิดจากคนไข้มีโครงสร้างฐานจมูกเดิมที่เบี้ยว จมูกเอียง อยู่เดิม หากทำการเสริมจมูกกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ก็จะสามารถแก้ไขได้ด้วยการเหลาตกแต่งซิลิโคนจมูก ปรับทรงจมูกให้ดูเอียงน้อยลง หรือใช้เทคนิคทำการแก้ไขที่โครงสร้างก่อนการเสริมจมูก ในทางกลับกัน หากเสริมจมูกกับแพทย์ที่ขาดประสบการณ์ก็อาจเสี่ยงจมูกเอียง ไม่เท่ากันมากกว่าเดิมได้เช่นกัน
2. จมูกทะลุ
ปัญหาจมูกทะลุสามารถเกิดได้ในเคสที่เสริมจมูกด้วยการใช้ซิลิโคนสำเร็จรูป ที่ขนาดไม่พอดีกับโครงสร้างจมูกคนไข้ ส่งผลให้หลังเสริมจมูกซิลิโคนสำเร็จรูป ตัวซิลิโคนจะเข้าไปดันเนื้อจมูก ทำให้จมูกค่อย ๆ บางลง และเกิดการอักเสบ เมื่อปล่อยไว้นานก็จะทำให้จมูกทะลุได้ โดยบางคนสามารถสังเกตเห็นเป็น ตุ่ม ๆ นูน ๆ ในจมูก หรือ จมูกงุ้มลงกว่าเดิม จากซิลิโคนไหล และรู้สึกเจ็บ
3.จมูกติดเชื้อ
อาการจมูกติดเชื้อ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากอุบัติเหตุชนกระแทก การสัมผัสแผลจากมือที่ไม่สะอาด จากอาหารที่รับประทาน เช่น ของหมักดอง ของดิบ หรือพฤติกรรมบางอย่างที่กระทบต่อแผลผ่าตัด อย่างการไอจามรุนแรง ในช่วงระยะเวลาพักฟื้นที่แผลยังไม่หายสนิท ทำให้เกิดอาการอักเสบ อาการอักเสบของจมูกสามารถสังเกตได้จาก แผลจะบวมแดง รู้สึกปวดบางเวลา บางรายมีสิวหัวช้างปลายจมูก ในบางรายอาจมีหนองไหลออกจากแผลเป็นต้น
4.ปลายจมูกเชิดขึ้น รั้งจมูก
หลังเสริมจมูกหากไม่มีประเมินการหดตัว จะทำให้จมูกรั้งขึ้น หรือ เชิดขึ้น เนื่องจากร่างกายจะสร้างพังผืดรัดซิลิโคนเพื่อปกคลุมซิลิโคน กรณีหดตัวมากไปจะทำให้จมูกเสียทรง มองเห็นรูปทรงซิลิโคนชัดเจนขึ้น ปลายจมูกรั้งตึง และปลายจมูกบางใส เสี่ยงจมูกทะลุ หากไม่รีบผ่าตัดแก้ไขจมูก
5. อยากเปลี่ยนทรงจมูกใหม่
เป็นอีกกรณีที่ทำให้คนไข้กลับไปแก้จมูก ไม่มีอาการใด ๆ แต่อาจเกิดความไม่พึงพอในรูปทรงของจมูกที่เสริมในระยะต่อมา คนไข้ต้องการเปลี่ยนรูปทรงจมูกใหม่ตามเทรนด์นิยม เช่น ทรงบาร์บี้ไลน์ ทรงหยดน้ำ ทรงจมูกปลายเชิด ซึ่งแต่ละทรงจะเป็นความนิยมในแต่ละยุคสมัย บางช่วงเวลาอาจจะเน้นทรงจมูกที่พุ่งและโด่ง หรือบางเทรนด์ก็เน้นเสริมความเป็นธรรมชาติเป็นต้น
แก้จมูกมีกี่แบบ
วิธีการแก้จมูก สามารถแก้ได้หลากหลายวิธี แต่ที่แพทย์ส่วนใหญ่เลือกใช้คือ วิธีการผ่าตัดแบบเปิด หรือแก้จมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) ซึ่งช่วยแก้ไขรูปร่างของจมูกให้สมบูรณ์ โดยเฉพาะการ แก้จมูกผู้ชายที่ต้องแก้โครงสร้างจมูกมีปัญหาฮัมพ์สูง โดยการผ่าตัดแบบเปิดจะช่วยให้แพทย์มองเห็นโครงสร้างจมูกชัดเจน สามารถเอาซิลิโคนเก่าออกได้ และเลาะพังผืดออกได้หมด เหมาะกับการแก้จมูกไม่เท่ากัน จมูกคดเบี้ยว ปรับจมูกสั้นให้ยาวขึ้น โดยใส่ซิลิโคนชิ้นใหม่ที่ออกแบบมา ได้ตามรูปทรงและความเหมาะกับคนไข้ ข้อดีของการแก้จมูกopen คือแพทย์จะสามารถตกแต่งปลายจมูกได้เนียนสวยเป็นธรรมชาติ และยังป้องกันปัญหาผิวจมูกบางหรือทะลุในอนาคตได้อย่างดี กรณีที่หลายคนสงสัยจมูกทะลุแก้ได้ไหม แก้วิธีไหนดี จริงแล้วการผ่าตัดแบบเปิด สามารถแก้จมูกได้ทั้งจากสาเหตุจมูกอักเสบ ติดเชื้อ หรือจมูกทะลุ โดยผ่าตัดเอาซิลิโคนเดิมออก และวรักษาอาการติดเชื้อให้เรียบร้อย ก็จะกลัยมาเสริมจมูกใส่ซิลิโคนชิ้นใหม่ได้
ซิลิโคนจมูก มีอะไรบ้าง?
ซิลิโคนจมูกเป็นอุปกรณ์สำหรับในการผ่าตัดเสริมจมูก และยังเป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้หลาย ๆ คนกลับมาแก้จมูก เพื่อให้คนไข้สามารถการตัดสินใจแก้จมูกเป็นไปอย่างราบรื่น ผลลัพธ์ออกมาดี คนไข้ต้องเลือกซิลิโคนจมูกที่เหมาะกับตัวเองให้ได้เสียก่อน โดยต้องเป็นซิลิโคนเสริมจมูกที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน และเป็นซิลิโคนที่ผลิตขึ้นมาใช้ในทางการแพทย์เท่านั้น เรียกว่า เมดิคัล เกรด ซิลิโคน (Medical Grade Silicone) โดยซิลิโคนเสริมจมูก มีให้เลือก 2 แบบ คือ
- ซิลิโคนจมูกแบบสำเร็จรูป : เป็นซิลิโคนพร้อมใช้ที่แพทย์สามารถนำมาใส่เข้าไปในจมูกได้เลย
- ซิลิโคนจมูกแบบแท่ง: เป็นซิลิโคนที่แพทย์ต้องมาเหลาขึ้นรูปทรงจมูกเอง ค่อนข้างเป็นที่นิยมในแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะสามารถเหล่าซิลิโคนได้เหมาะสมและแนบกับฐานจมูกของคนไข้ได้ ซิลิโคนจมูกแบบแท่ง ยังแบ่งออกเป็น 4 ชนิด ตามลักษณะความอ่อน-แข็ง คือ แข็ง(Hard) แข็งปานกลาง(Medium) นุ่ม(Soft) นุ่มมาก(Ultra Soft)
โดยลักษณะความอ่อน-แข็งของเนื้อซิลิโคนจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน เหมาะกับคนไข้แต่ละคน ขึ้นอยู่กับรูปทรง และการประเมินของแพทย์ ที่ยังพิจารณาแหล่งผลิตของซิลิโคนเหล่านี้ด้วย โดยวัสดุซิลิโคนที่นิยมนำมาใช้เสริมจมูกในปัจจุบัน มาจาก 3 ประเทศแหล่งที่มา คือ
- ซิลิโคนญี่ปุ่น (Japan) : นิยมมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เน้นการใข้งาน ราคาไม่แพง แต่แพทย์ที่ใช้ต้องมีฝีมือ การเหล่า ปัจจุบันมักไม่มีความนิยม
- ซิลิโคนอเมริกา (USA) : มีความบริสุทธิ์ 100% มีความปลอดภัย มีความนิ่ม บิดปรับรูปทรงได้ง่าย
- ซิลิโคนเกาหลี (Korea) : เน้นมาตรฐานปลอดภัยระดับสากล มีความนิ่ม บิดได้ ค่อนข้างเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย เพราะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ
นอกจากนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังเคยได้ยินว่ามีการใช้ซิลิโคนจากประเทศอื่น ๆ ในบางคลินิก เช่น ซิลิโคนบราซิล ซิลิโคนจีน ซิลิโคนไต้หวัน หรือซิลิโคนไทย
หากถามว่าแล้วจะควรจะเลือกซิลิโคนแบบไหนดี คงต้องบอกก่อนว่าซิลิโคนแต่ละแบบก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ขึ้นอยู่กับโครงสร้างฐานเดิมของคนไข้ ทรงจมูกที่ต้องการ และเทคนิคความชำนาญของแพทย์แต่ละคนด้วย
แก้จมูกแบบไหนที่เรียกว่าสวย
ทรงจมูกที่สวยงาม ขึ้นอยู่กับพึงพอใจให้กับเจ้าของใบหน้า ซึ่งลักษณะทรงจมูกที่ได้สัดส่วนรับกับใบหน้าจะมีอัตราส่วนที่ยอมรับอย่างสากล หรือที่เรียกกันว่า “สัดส่วนทองคำ” โดยมีหลักสัดส่วนดังนี้
- จมูกมีลักษณะไม่สั้นหรือยาวเกินไป ควรมีขนาดอยู่ที่ ⅓ ของความยาวรูปหน้า และความกว้าง ⅕ ของปีกจมูกกับรูปหน้า และระยะห่างระหว่างจมูกและปากอยู่ที่ 1:1.6
- องศาระหว่างกึ่งกลางจมูกควรทำมุม 120- 140 องศา สันจมูกและปลายจมูกคางตรงเป็นเส้นเดียวกัน โดยสันจมูกจะต้องเริ่มทำมุมจากหน้าผาก สโลปสวยงาม
- ความชัน หรือความโด่งควรอยู่ที่ 36 – 40 องศา หากมุมที่ต่ำกว่านี้ จะทำให้จมูกดูต่ำ ดูไม่มีดั่ง แต่หากจมูกโด่งเกินไปจะดูไม่เป็นธรรมชาติ มองเห็นเป็นแท่ง
- การทำมุมระหว่างจมูกกับร่องเหนือริมฝีปากผู้ชายอยู่ที่ 90 – 95 องศา และผู้หญิงจะอยู่ที่ 95 – 100 องศา (ตา จมูก ปาก สมดุลกันทุกจุด)
โดยลักษณะทรงจมุกที่ได้รับความนิยมและเหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของคนไทย ได้แก่ จมูกทรงสโลปปลายพุ่ง จมูกทรงปลายเชิด จมูกทรงหยดน้ำ จมูกทรงหยดน้ำปลายงุ้ม จมูกทรงบาร์บี้ เป็นต้น
แก้จมูกราคาเท่าไหร่?
แน่นอนว่าการแก้จมูกราคาสูงกว่า ราคาเสริมจมูกปกติทั่วไป เพราะการแก้จมูกแบบโอเพ่นราคาค่าใช้จ่ายจะมีขั้นตอนอื่น ๆ บางครั้งอาจต้องใช้ยาสลบในการผ่าตัด รวมถึงยังต้องเลาะพังผืด ถอดซิลิโคนเก่าออก ดูความเสียหาย หรือต้องรักษาอาการอักเสบติดเชื้อ ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม การผ่าตัดแก้ไขจมูกจะค่อนข้างยากกว่ากว่าการเสริม และต้องอาศัยความประณีต แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจึงต้องมีเทคนิคและความชำนาญ เพื่อลดโอกาสความเสียหายต่อเนื้อเยื่อจมูก จึงใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดนานกว่าปกติ ดังนั้นใครที่ต้องการแก้จมูกควรเลือกหมอแก้จมูกเก่ง ๆ มาแก้ไขจมูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าราคาแก้จมูกย่อมสูงขึ้นตาม
แก้จมูกพักฟื้นกี่วัน
โดยทั่วไปหลังแก้จมูก แพทย์จะแนะนำให้พักฟื้นประมาณสองวันหลังแก้จมูก แต่กรณีแก้ไขจมูกที่เกิดจากการที่แผลอักเสบ ติดเชื้อ จะต้องทำการถอดซิลิโคนและพักฟื้นจนกว่าจะหายดี ถึงจะกลับมาเสริมจมูกได้ ดังนั้นในกรณีแบบแก้จมูกพักฟื้นกี่วัน อาจไม่สามารถระบุจำนวนวันแน่นอนได้ แต่โดยเฉลี่ยนจะอยู่ที่อย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป เพื่อรักษาอาการอักเสบให้หายดี และขึ้นอยู่กับพิจารณาจของแพทย์
แก้จมูกกี่วันหายบวม
แก้จมูกบวมนานไหม? โดยทั่วไปหลังแก้จมูกจะมีอาการบวม 1-2 สัปดาห์ โดยจะบวมมากที่สุดในช่วง 2 วันแรก จึงไม่ควรจับ หรือสัมผัส บริเวณแผลผ่าตัด งดการไม่ใส่แว่นตา สามารถประคบได้ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อลดอาการบวม ไม่แนะนำให้สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์หรือออกกำลังกายหนัก ๆ จนกว่าแผลจะหายดี
สรุปการแก้จมูก
การแก้จมูก ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด หรือใครที่ต้องการเสริมจมูก ปรับรูปทรงจมูก แก้ปัญหา แก้จมูกใหญ่ รูจมูกไม่เท่ากัน แก้จมูกชมพู่ ตัดปีกจมูกแก้จมูกบาน ล้วนต้องอาศัยเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ ในการแก้ไขจมูกอย่างเหมาะสม
ควรศึกษาข้อมูลและเลือกคลินิกที่น่าไว้ใจ และควรสำรวจราคา ไม่ตัดสินใจเพราะราคาถูกเป็นหลัก หากเจอโฆษณาแก้จมูกราคาไม่แพง หรือถูกว่าคลินิกทั่วไป ให้ระมัดระวัง อาจเสี่ยงเจอซิลิโคนไม่มีคุณภาพ เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมาในอนาคต จนต้องกลับมาแก้จมูกซ้้ำ ๆ ไม่รู้จบ เสียทั้งเงิน เสียเวลา และยังเสี่ยงเนื้อเยื่อจมูกเสียหาย จนไม่อาจแก้ไขให้กลัมาดูดีได้อีก
อ้างอิงจาก: weclinic, wikipedia