เปิดสถานะ! พระสร้างบ้านพักส่วนตัว ใช้ชีวิตอยู่กับสีกาเพียงลำพัง
จากกรณีที่ทางเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้รีเทิร์น PART1 โพสต์ภาพพระสงฆ์อยู่ที่บ้านกับผู้หญิงเพียงลำพัง พร้อมข้อความ ใส่สบงแล้วทรงมาปลูกบ้านอยู่กับสีกาได้หรอ เจ้าหน้าที่

คณะอำเภอจังหวัดสงขลาตรวจสอบหน่อย พิกัดหมู่ 1 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พระมาสร้างบ้านพักส่วนตัวอยู่แถวบ้านเรามากับสีกาทุกวันโดยใช้รถยนต์ บางครั้งมานอนพักอาศัยตอนกลางคืนด้วย เห็นแล้วเสื่ อ มความศรัทธา



ล่าสุด ตำรวจ สภ.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ลงพื้นที่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านหลังนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในซอย 3 ควนทอง หมู่ 1 ต.ทุ่งตำเสา อ.หาดใหญ่ ซึ่งเป็นบ้านที่สร้างใหม่แต่ยังไม่เสร็จและไม่มีบ้านเลขที่ พบพระสงฆ์อยู่ภายในบ้านหลังนี้กับสีก าจริง โดยพระอยู่ในชุดสวมแค่สบงกับอังสะ ไม่ได้สวมจีวร เจ้าหน้าที่จึงตรวจใบสุทธิพระ พบว่าเป็นพระจริงชื่อ พระมหาสุภักดิ์ ตุ้งโรจน์ อายุ 68 ปี สังกัดวัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพฯ บวชมาตั้งแต่พ.ศ.2517 แต่ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดไทยเชตะวัน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แต่ปัจจุบันมาจำพรรษาอยู่ที่วัดคลองเรียน ใน อ.หาดใหญ่ เนื่องจากติดสถานการณ์โควิดกลับวัดที่มาเลเซียไม่ได้

ส่วนผู้หญิงที่อยู่ในบ้านชื่อ นางสาวณิชกานต์ ตุ้งโรจน์ อายุ 54 ปี เมื่อสอบถามทั้งสองคนก็บอกว่า เป็นพี่น้องแท้ๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบรายละเอียดทะเบียนราษฎร์ก็พบว่าทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันจริง มีพ่อแม่คนเดียวกัน

ต่อมา เพื่อหาข้อยุติในเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความกระจ่างกับสังคม ทางพระราชวรเวที เจ้าคณะจังหวัดสงขลา ประสานไปยังพระปลัดสุภวัฒ สุวณฺโณ เจ้าคณะตำบลทุ่งตำเสา และพระมหาสันชัย ฐิติฆโร เจ้าอาวาสวัดคลองเรียน ให้เชิญตัว พระมหาสุภักดิ์ เข้าไปสอบสวนข้อเท็จจริงที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดสงขลา ซึ่งอยู่ที่วัดโคกสมานคุณ โดยหลังจากที่มีการพูดคุยกันเกือบครึ่งชั่วโมงและทางเจ้าคณะจังหวัดสงขลาได้ตักเตือนพระมหาสุภักดิ์ ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ที่พระจะไปพักอยู่ที่บ้านกับญาติเพราะคนที่ไม่รู้จักจะเข้าใจผิ ดเหมือนที่แชร์กันในโซเชียล

เบื้องต้น ได้สั่งห้ามไม่ให้พระมหาสุภักดิ์ กลับไปที่บ้านญาติหลังนี้อีก หากมีธุระจำเป็นเร่งด่วนก็ให้แจ้งกับเจ้าคณะตำบลทุ่งตำเสาก่อนทุกครั้ง รวมทั้งให้ออกจากพื้นที่ จ.สงขลา ไปก่อนเพราะไม่ใช่พระที่สังกัดอยู่ที่วัดใน จ.สงขลา เป็นแค่พระอาคันตุกะ โดยให้ออกจากวัดคลองเรียน ไปพักอยู่ที่วัดศรีมหาโพธิ์ ที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ที่เคยไปจำวัดอยู่มาก่อน ส่วนจะเดินทางออกจากวัดคลองเรียนวันไหนนั้นทางเจ้าอาวาสวัดคลองเรียนจะดำเนินการต่อไป ซึ่งทางพระมหาสุภักดิ์ ก็พร้อมที่จะปฏิบัติตาม และบอกว่าหากสถานการณ์คลี่คลายก็จะกลับไปอยู่ที่วัดไทยเชตะวัน ทันที พร้อมกับขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ทำให้คณะสงฆ์ จ.สงขลา เสื่อมเสียเพราะชาวบ้านเข้าใจผิด















