เทคนิค วิธีลดน้ำหนักด้วยตัวเอง แบบเร่งด่วน สุขภาพดี ไม่พึ่งยา ไม่โยโย่!
หลายคนเจอกับปัญหาน้ำหนักเยอะ อ้วน ทำอย่างไรน้ำหนักก็ไม่ลดลงสักที แถมบางคนก็ใช้ วิธีลดน้ำหนัก แบบผิดๆ จนตามมาซึ่งปัญหาสุขภาพมากมายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นโยโย่ ขาดสารอาหาร อ่อนเพลีย สูญเสียกล้ามเนื้อ เป็นต้น ดังนั้นวันนี้เราจึงจะมาแนะนำ วิธีลดน้ำหนักง่ายๆ ที่สามารถทำด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย โดยวิธีนี้จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว แถมดีต่อสุขภาพ ปลอดภัย ไม่ต้องกลัวโยโย่และไม่ต้องพึ่งยาอีกด้วย ซึ่งวิธีลดความอ้วนก็มีหลายแบบด้วยกัน คุณสามารถเลือกที่เหมาะสมกับตัวเองได้เลย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เอาเป็นว่าเราไปดูกันเลยดีกว่า
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีลดน้ำหนัก
การจะลดน้ำหนักให้ได้ผล อันดับแรกคุณต้องทำความเข้าใจกับ วิธีลดน้ำหนัก ที่มีคุณภาพก่อน ไม่ใช่ว่าจะใช้วิธีไหนหรือทำยังไงก็ได้ เพราะหากทำผิดวิธี นอกจากไม่ได้ผลแล้ว ยังจะทำให้มีปัญหาสุขภาพตามมาอีกด้วย ซึ่งหลักการง่ายๆ เลย ให้จำไว้ว่าจะต้องลดน้ำหนักให้มีหุ่นดี พร้อมกับสุขภาพที่ดีด้วย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเลือกวิธีลดความอ้วนที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด และไม่หักโหมจนเกินไป
ซึ่งหลายคนมักจะลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ด้วยการใช้สูตรลดน้ำหนักแบบสุดโหด ไม่กินอะไรเลยนอกจากน้ำเปล่ากับนมเท่านั้น หรือออกกำลังกายแบบไม่พักเลยตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว และเกิดการเจ็บป่วยในที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะเริ่มต้นลดความอ้วน แบบจริงจัง ต้องเริ่มจากการศึกษาหาข้อมูลการลดน้ำหนักแบบต่างๆ และดูว่าวิธีไหนเหมาะกับตัวเอง พร้อมกับจัดตารางวิธีลดน้ำหนักง่ายๆ แบบไม่หักโหม เท่านี้ก็เตรียมมีหุ่นสวยพร้อมกับสุขภาพที่ดีได้แล้ว
วิธีลดน้ำหนัก แบบไหนดี ที่เหมาะกับเรา
วิธีลดน้ำหนักมีมากมาย แต่จะเลือกวิธีไหนดีให้เหมาะกับตัวเอง ทำแล้วได้ผลแน่นอน ก็คงจะต้องมาทำความเข้าใจกับแต่ละวิธีก่อนแล้วล่ะ เพื่อจะได้รู้ว่าวิธีไหนเป็นอย่างไร มีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง โดยให้เลือกวิธีที่คิดว่าตนเองน่าจะทำได้มากที่สุด
วิธีลดน้ำหนักด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน
การลดน้ำหนักด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเองใหม่ จะมีวิธีที่ทำแล้วได้ผลดีอยู่ 6 วิธีด้วยกัน ได้แก่
1.วิธีลดน้ำหนักด้วยการควบคุมปริมาณอาหาร
วิธีลดน้ำหนักง่ายๆ แบบเบสิค ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพียงแค่ควบคุมปริมาณอาหารที่กินในแต่ละวันเท่านั้น จากเดิมที่เคยกินเยอะ ก็ลดลงมาครึ่งหนึ่ง เปลี่ยนจากขนมจุกจิกมาเป็นผลไม้ ผักสลัดแทน ที่สำคัญอย่าลืมนับ Kcal ด้วย เพื่อควบคุมไม่ให้ได้รับแคลอรี่ในแต่ละวันเกินจากที่กำหนดนั่นเอง
- ข้อดี เป็นวิธีที่ลดน้ำหนักได้อย่างยั่งยืน ไม่กลับมาโยโย่อีก และไม่ต้องอดอาหาร แค่ลดปริมาณลงและเลือกกินอาหารที่แคลอรี่ต่ำเท่านั้น
- ข้อจำกัด ต้องคอยนับ kcal ก่อนกินทุกครั้ง และจำนวนแคลอรี่ก็ไม่ได้เป๊ะเสมอไป ขึ้นอยู่กับวิธีการปรุงด้วย
2.วิธีลดน้ำหนักแบบคีโต (Ketogenic Diet)
หากพูดถึงการลดน้ำหนักในช่วงนี้ เราก็มักจะได้ยินคำว่ากินคีโตบ่อยๆ โดยเป็นวิธีการกินไขมันเพื่อกำจัดไขมัน แต่จะกินเฉพาะไขมันชนิดดีเท่านั้น และกินโปรตีนให้น้อยลง รวมถึงหลีกเลี่ยงอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตอย่างเด็ดขาด ซึ่งการกินแบบนี้จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะคีโตซิส ทำให้มีการเผาผลาญไขมันมากขึ้น จึงลดน้ำหนักได้นั่นเอง
- ข้อดี ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว กินอาหารได้หลากหลายไม่ต้องอดของอร่อย เพียงแค่เลี่ยงอาหารบางประเภทเท่านั้น
- ข้อจำกัด เครื่องปรุงและวัตถุดิบในการกินคีโตมีราคาสูง และอาจมีผลข้างเคียงได้ ไม่เหมาะกับคนที่เป็นโรคตับ โรคไต และโรคเบาหวาน
3.วิธีลดน้ำหนักแบบ if
การลดน้ำหนักแบบ if เป็นการกำหนดช่วงเวลากินและเวลาอด ซึ่งจะมีหลายแบบตั้งแต่เบสิคไปจนถึงแบบโหดๆ กันเลยทีเดียว แต่สำหรับผู้เริ่มต้น แนะนำให้เริ่มจากสูตร 8/16 ก่อนดีกว่า นั่นคือกินได้ 8 ชั่วโมงและให้อด 16 ชั่วโมงนั่นเอง โดยช่วง 8 ชั่วโมงคุณจะกินอะไรก็ได้ แต่ถ้าอยากลดเร็วก็ควรควบคุมปริมาณอาหารไปด้วย
- ข้อดี ลดน้ำหนักได้จริง พร้อมกับมีสุขภาพที่ดีขึ้น เลือกรูปแบบการทำ if ที่เหมาะกับตัวเองได้เลย
- ข้อจำกัด อาจมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย ไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังตั้งครรภ์ ความดันต่ำ และเป็นโรคเบาหวาน
4.วิธีลดน้ำหนักด้วยไข่ต้ม
ไข่ต้ม เป็นอีกหนึ่งวิธีลดความอ้วนที่ได้ผลรวดเร็ว โดยจะกินไข่ต้ม 2 ฟองทุกเช้า และอาจเสริมด้วยกล้วย 1 ลูก หรือขนมปังโฮลวีต 1 แผ่นก็ได้ ส่วนมื้ออื่นๆ ก็จะเน้นเป็นสลัดผัก หรือผักต้ม และผลไม้ ซึ่งช่วง 2 สัปดาห์แรกน้ำหนักจะลดลงอย่างรวดเร็ว เห็นผลลัพธ์ได้ทันใจเลยทีเดียว
- ข้อดี ลดน้ำหนักได้รวดเร็ว เพราะไข่ต้มและผักมีแคลอรี่ต่ำ
- ข้อจำกัด ช่วงแรกๆ จะรู้สึกหิวมาก และอาจขาดสารอาหารบางอย่างได้
5.วิธีลดน้ำหนักด้วยการกินแบบเน้นอาหารจากพืช
วิธีนี้จะเน้นกินอาหารจากพืชเป็นหลัก โดยกินแต่ผัก ผลไม้ และธัญพืชต่างๆ นั่นเอง เพราะมีแคลอรีต่ำ เส้นใยอาหารสูง ช่วยในการลดน้ำหนักได้ดี แถมยังมีวิตามินและแร่ธาตุหลากหลายชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกายสุดๆ โดยคุณสามารถนำพืชผักมาทำได้หลากหลายเมนูเลย แต่ควรเลี่ยงเมนูผัด ทอด และใส่เครื่องปรุงให้น้อยที่สุด
- ข้อดี น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว และดีต่อสุขภาพ ไม่ต้องมาคอยนับแคลอรี เพราะอาหารจากพืชมีแคลอรีต่ำอยู่แล้วจึงไม่ต้องกังวลว่าแคลอรีจะเกิน
- ข้อจำกัด การกินพืชอย่างเดียวจะทำให้ขาดสารอาหารพวกโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้
6.วิธีลดน้ำหนักด้วยการกินแบบเมดิเตอร์เรเนียน
การลดน้ำหนักแบบนี้สามารถกินไขมันและคาร์บได้ แต่จะต้องเลือกกินที่ดีต่อสุขภาพ เช่น ไขมันจากพืช ปลาทะเล และกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกกินพวกผักผลไม้ ธัญพืช เนื้อปลา ไข่ ถั่ว และอาหารที่ทำจากนม โดยลดหรือเลี่ยงการกินเนื้อแดงให้มากที่สุด
- ข้อดี ช่วยเผาผลาญไขมัน ลดน้ำหนักได้ดี และลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคหัวใจได้ด้วย
- ข้อจำกัด ต้องเลือกกินอาหารให้หลากหลายและเหมาะสม ไม่อย่างนั้นจะทำให้ได้รับสารอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป จนมีผลเสียได้
วิธีลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย
นอกจากควบคุมอาหารแล้ว การออกกำลังกายก็สำคัญเช่นกัน โดยควรทำอย่างสม่ำเสมอสัปดาห์ละ 4-5 วัน และหากทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารได้ด้วยก็จะดีมาก โดยวิธีออกกำลังกายที่นิยม ได้แก่
1.วิธีลดน้ำหนักด้วยคาร์ดิโอ
คาร์ดิโอ เป็นการออกกำลังกายที่กระตุ้นการเผาผลาญได้ดี ทำให้เลือดสูบฉีด หัวใจเต้นเร็ว เช่น การวิ่ง ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค และปั่นจักรยาน ควรทำเป็นประจำจะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก
- ข้อดี สลายไขมัน ลดน้ำหนักได้เร็ว และเพิ่มความแข็งแรงให้กับหัวใจ ปอด
- ข้อจำกัด ไม่ควรหักโหมเกินไป จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการบาดเจ็บได้
2.วิธีการลดน้ำหนักด้วยการกระโดดเชือก
กระโดดเชือก การออกกำลังกายที่ทำได้ง่ายมาก ช่วยเผาผลาญไขมันได้ทุกส่วนของร่างกาย และไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะอีกด้วย ใครอยากผอมต้องมากระโดดเชือกกันเลย
- ข้อดี ทำที่บ้านได้ ช่วยเผาผลาญแคลอรี และทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรง
- ข้อจำกัด หากกระโดดผิดวิธีจะทำให้มีปัญหาข้อเข่าเจ็บ อักเสบได้
3.วิธีลดน้ำหนักด้วยการทำโยคะ
แค่เล่นโยคะ ก็สามารถลดน้ำหนักได้ดีเช่นกัน เพราะจะกระตุ้นให้มีการเผาผลาญมากกว่าเดิม แม้ว่าจะเป็นท่าออกกำลังกายแบบง่ายๆ ที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างหนักหน่วงเหมือนการวิ่งก็ตาม โดยท่าที่ลดน้ำหนักได้ดี เช่น ท่าสามเหลี่ยม ท่านาวาสนะ ท่าตั๊กแตน และท่าสะพาน เป็นต้น
- ข้อดี สามารถทำที่บ้านได้ ไม่ต้องมีอุปกรณ์ใดๆ ลดไขมันเฉพาะส่วนได้ดี
- ข้อจำกัด ต้องทำโยคะอย่างถูกวิธี ทั้งท่าทางและการหายใจเข้าออก ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาสุขภาพได้
วิธีลดน้ำหนักด้วยการนอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอก็จะช่วยลดน้ำหนักได้ เพราะระบบต่างๆ ในร่างกายได้รับการซ่อมแซม ฟื้นฟู โดยเฉพาะระบบเผาผลาญ จึงทำงานได้ดีขึ้น ที่สำคัญการเข้านอนเร็วจะช่วยเลี่ยงการกินอาหารมื้อดึกได้ดีอีกด้วย
วิธีลดน้ำหนักแบบปลอดภัย ไม่โยโย่
โยโย่ (Yo-yo Effect) คือ การที่น้ำหนักเพิ่มขึ้นกลับมามากกว่าเดิม หลังจากที่ลดน้ำหนักได้แล้ว ซึ่งเป็นเพราะการใช้วิธีลดน้ำหนักแบบผิดๆ อย่างเช่น การอดอาหาร และใช้ยาลดความอ้วน ซึ่งวิธีลดความอ้วนแบบไม่โยโย่นั้น จะต้องกินอาหารให้ครบทุกมื้อ ควบคุมปริมาณอาหารให้น้อยลง เลือกกินอาหารที่มีแคลอรีต่ำ มีประโยชน์ เลี่ยงอาหารที่มีไขมันและน้ำตาลสูง รวมถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็ไม่ต้องกลัวโยโย่แล้ว เป็นวิธีลดน้ำหนักง่ายๆ ที่ได้ผลยั่งยืนมากกว่า
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีการลดน้ำหนัก
หลายคนอาจจะมีคำถามเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก ซึ่งเราก็ได้นำคำถามที่พบบ่อย พร้อมคำตอบมาบอกให้รู้กันแล้ว ดังนี้
งดมื้อเย็น ลดน้ำหนักได้จริงหรอ?
การงดมื้อเย็นจะทำให้ลดน้ำหนักได้ไม่ยั่งยืน เสี่ยงต่อการโยโย่สูง และอาจทำให้ระบบเผาผลาญพังอีกด้วย ดังนั้นควรเปลี่ยนมาเป็นลดปริมาณอาหารเย็นลง และเลือกกินอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำแทน
วิธีลดน้ำหนัก 20 กิโล ใน 1 เดือน ทำได้จริงไหม?
ลดน้ำหนัก 20 กิโลใน 1 เดือน สามารถทำได้จริง แต่ต้องแลกมาด้วยสุขภาพที่พัง และผิวที่เหี่ยวย่น ย้วย ไม่กระชับอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นควรลดแบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่า
สรุปวิธีการลดน้ำหนัก
การลดน้ำหนักสามารถทำได้หลายวิธี คุณสามารถเลือก วิธีลดน้ำหนัก ที่เหมาะกับตัวเองได้เลย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และอย่าลืมทำควบคู่กันไปทั้งการควบคุมอาหารและออกกำลังกายด้วย จะทำให้คุณได้ทั้งหุ่นสวยและมีสุขภาพที่ดีไปพร้อมๆ กัน