[รีวิว] ฉีด PRP ผม คืออะไร? หยุดปัญหาผมร่วง ผมบางได้จริงหรือ?
ปัญหาผมร่วงผมบาง เป็นปัญหาที่ยุ่งยาก สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ประสบปัญหาอย่างมาก ทั้งความมั่นใจที่ลดลง เสียบุคลิก และหมดกำลังใจในการทำให้ตนเองดูดี อยากจะแก้ปัญหาให้ผมกลับมาดกดำเหมือนเดิม แต่ทำอะไรก็ไม่ได้ผล ทานยาก็ไม่ช่วย ครั้นจะไปผ่าตัดปลูกผมก็ไม่มีเวลา ไม่สะดวกพักฟื้น
หากคุณกำลังประสบปัญหาเหล่านี้ สิ่งที่เราจะนำเสนอให้คุณรู้จักในบทความนี้คือ การทำ PRP ผม นั่นเอง PRP ผมคืออะไร? PRP ย่อมาจากอะไร? แล้วเขาทำกันอย่างไร? มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง? บทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักการทำ PRP ผม ที่จะทำให้คุณหมดปัญหาเรื่องผมร่วงผมบางไปเลย
การฉีด PRP ผม คืออะไร?
การฉีด PRP ผม หรือที่บางคนอาจเรียกว่า ปลูกผม PRP คือการที่แพทย์จะฉีด PRP เข้าไปที่หนังศีรษะของเรา เพื่อไปกระตุ้นการทำงานของรากผม ทำให้รากผมที่เคยเสื่อมสภาพ หลุดร่วงบ่อย งอกน้อย กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง ผมก็จะไม่หลุดร่วงง่าย รากผมแข็งแรงขึ้น ในระยะยาวก็จะทำให้ผมกลับมาดกดำเหมือนเดิม
แต่แล้ว PRP คืออะไร? สร้างมาจากไหน? ปลอดภัยหรือเปล่า?
เกล็ดเลือดเข้มข้น (Platelet Rich Plasma) คืออะไร?
PRP หรือ Platelet Rich Plasma หมายถึง เกล็ดเลือดเข้มข้น เป็นของเหลวที่สกัดมาจากเลือดของเราเอง ผู้ที่จะทำ PRP จะถูกเจาะเลือด เพื่อนำไปปั่นจนน้ำเลือด (Plasma) แยกชั้นกับเลือด แล้วนำน้ำเลือดไปปั่นอีกครั้งจนเข้มข้น ก็จะได้ PRP ออกมา
PRP ไม่ได้มีแค่เกร็ดเลือดเท่านั้น แต่ยังมีสารต่างๆ ที่เรียกรวมกันว่า Growth Factor ซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด การสร้างและแบ่งตัวของเซลล์ รวมถึงช่วยให้แผลสมานเร็วด้วย เมื่อฉีดไปที่หนังศีรษะของเรา ก็จะไปกระตุ้นให้เซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างผมแข็งแรงขึ้น ทำงานได้ดีมากขึ้น
นอกจากในทางการปลูกผมแล้ว เทคนิคการฉีด PRP ยังถูกนำมาใช้หลากหลายในทางการแพทย์ ยกตัวอย่างในทางวิทยาศาสตร์การกีฬา แพทย์จะใช้ PRP ฉีดเพื่อให้อาการบาดเจ็บของนักกีฬาหายไวขึ้น หรือในทางความสวยความงาม แพทย์ผิวหนังก็ใช้ PRP ในการฉีดที่ผิวหน้า เพื่อฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนวัยมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การทำ PRP ยังปลอดภัยมากๆ แทบไม่มีผลข้างเคียงเลย อาการแพ้ก็พบได้น้อยมาก เนื่องจากเลือดที่ใช้ทำ PRP เพื่อนำมาใช้ฉีด ก็เป็นของคนไข้เอง จึงมั่นใจได้ว่าการทำ PRP ความเสี่ยงต่ำมาก และปลอดภัยแน่นอน
ข้อดี ข้อจำกัด ของการทำ PRP ผม
ข้อดีของการรักษาผมร่วง ผมบางด้วยการฉีด PRP
ข้อดีของการรักษาผมร่วง ผมบางด้วยการฉีด PRP ที่สำคัญที่สุดคือ ไม่ต้องผ่าตัด หลายคนอาจคิดว่าถ้าผมบาง ศีรษะล้านแล้ว ทางเลือกเดียวคือการปลูกผมที่ต้องผ่าตัด ความจริงนั้นไม่ใช่เลย
การทำ PRP ผมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ได้ผลมากๆ นอกจากการปลูกผมแบบผ่าตัด ก่อนเข้ารับการรักษา แพทย์จะดูก่อนว่าผมลักษณะนี้ สามารถรักษาได้ด้วยการฉีด PRP ผมไหม ถ้ารากผมแค่เสื่อม จนผมเส้นเล็กบาง ไม่ค่อยงอก แต่ก็พอที่จะงอกกลับมาได้ แพทย์จะแนะนำให้ทำ PRP ก่อน ถ้าไม่ได้จริงๆ ถึงจะไปที่การปลูกผมแบบผ่าตัด
นอกจาก PRP ผมจะไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นแล้ว PRP ยังให้ผลลัพธ์ที่ดี เห็นผมที่หนาขึ้นจริง ประสิทธิภาพสูง ทั้งยังปลอดภัยมาก เนื่องจากสารที่นำมาฉีดก็เป็นสารในร่างกายของเราเอง ปราศจากสารเคมีเพิ่มเติม นอกจากนี้ยังรักษาด้วยวิธีอื่นๆร่วมกับ PRP ผมได้ด้วย เช่น การใช้เลเซอร์ หรือการทานวิตามิน
ข้อดีอีกข้อคือ PRP ผมเป็นการปลูกผมที่ราคาไม่แพงเท่าการปลูกผมแบบอื่น ใครที่กำลังหาว่าฉีด PRP ผม ราคาเท่าไหร่ ปลูกผม PRP แพงไหม เราขอตอบตรงนี้เลยว่าไม่แพงเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ ราคาจะอยู่ที่ครั้งละ 5,000 - 10,000 บาท ซึ่งในแต่ละคลินิกราคาก็จะต่างกันไป
ข้อจำกัดของการทำ PRP
แม้ข้อดีจะมีมาก แต่ PRP ก็ไม่ได้ทำได้ทุกคน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ผู้ที่เป็นมะเร็ง ผู้เป็นโรคผิวหนังบางชนิด ผู้มีโรคเกี่ยวกับเลือด หรือทานยาเกี่ยวกับการสลายตัวของลิ่มเลือด ยาต้านเกล็ดเลือด นอกจากโรคดังกล่าว สตรีมีครรภ์ หรือผู้ที่เคยแพ้ PRP ก็ไม่ควรทำ
ในขั้นตอนก่อนการรักษาคนที่จะทำ PRP ก็ควรบอกข้อมูลด้านสุขภาพให้กับแพทย์ให้ครบถ้วน แพทย์จะได้ประเมินว่าทำ PRP ผมได้ไหม มีความเสี่ยงหรือเปล่า หรือควรรักษาอาการผมบาง ผมร่วงด้วยวิธีอื่นแทนการทำ PRP ผม
การเตรียมตัวก่อนการทำ PRP ผม
การเตรียมตัวก่อนการทำ PRP ผมเป็นเรื่องที่สำคัญ เนื่องจากสิ่งที่เราเอามาใช้ในการรักษาคือเลือดของเรา ถ้าดูแลตัวเองไม่ดี เลือดก็จะมีคุณภาพไม่ดีไปด้วย อาจจะทำให้การรักษาเห็นผลน้อยลง โดยสิ่งที่ควรเตรียม มีดังนี้
- คืนก่อนทำควรนอนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงเพื่อเตรียมร่างกาย
- ก่อนผ่าตัดควรทยอยดื่มน้ำ 1.5 - 2 ลิตร
- ควรระวังอาหารการกินช่วงก่อนทำ PRP ผม ไม่ควรทานอาหารไขมันสูง และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์รวมถึงงดสูบบุหรี่ก่อนการปลูกผม PRP ผมเป็นเวลา 4 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำ
- ในวันที่ทำ PRP ก็ควรสระผมมาก่อน รวมถึงไม่ควรให้เจล หรือน้ำมันใส่ผม เพื่อความสะอาด
ขั้นตอนการฉีด PRP ผม
ขั้นตอนการทำสามารถแยกออกได้เป็น 2 ส่วนใหญ่ คือขั้นตอนการเตรียม PRP และขั้นตอนการฉีด PRP ผม
- ขั้นตอนการเตรียม PRP
ในขั้นตอนการเตรียม ขั้นแรกแพทย์จะเจาะเลือดเราออกมา ใครที่กลัวการเจาะเลือดเยอะๆไม่ต้องกลัวเลย เพราะแพทย์จะใช้เลือดเพียง 100 มิลลิลิตรเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าการบริจาคเลือดครั้งหนึ่งถึงสี่เท่า จากนั้นแพทย์ก็จะนำเลือดของเรามาปั่นในเครื่องแยก plasma 2 รอบ เมื่อเข้มข้นแล้ว ก็เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการเตรียม PRP
- ขั้นตอนการฉีด PRP ผม
ขั้นตอนนี้ยิ่งไม่เจ็บเลย เพราะแพทย์จะฉีดยาชาให้กับเราก่อนทำ เมื่อยาชาออกฤทธ์ แพทย์จะกระตุ้นหนังศีรษะเราเล็กน้อย ก่อนจะฉีด PRP ผมลงไป
แล้ว PRP ผม ต้องทำกี่ครั้ง? ฉีดครั้งหนึ่งอยู่ได้นานแค่ไหน? ในการทำครั้งแรก แพทย์จะแนะนำให้ทำเดือนละครั้ง ต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ผมที่บางจะค่อยๆ กลับมาหนา และเห็นผลชัดขึ้นภายใน 3-6 เดือนหลังจากฉีด PRP ครั้งแรก หลังจากนั้น แพทย์จะแนะนำให้มาฉีดทุก 3-6 เดือน จะได้ผลที่ต่อเนื่อง ผมไม่กลับไปร่วง หรือบางลงอีก
การดูแลตนเองหลังการฉีด PRP ผม
หลังฉีด PRP หนังศีรษะในส่วนที่ฉีดจะค่อยข้างบอบบาง ในบางรายอาจจะบวมหรือช้ำได้ ผู้ที่ทำ PRP ผมควรดูแลตนเองดังนี้
- ในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังปลูกผม ห้ามสระผม หรือให้ผมโดนน้ำ รวมทั้งไม่ควรใช้เจล สเปรย์ หรือน้ำมันจัดแต่งทรงผม ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ ห้ามออกกำลังกาย
- 2-3 วันแรกห้ามทานยาจำพวกไอบูโพรเฟ่นและแอสไพริน
- ในช่วงสัปดาห์แรกให้ใช้ยาสระผมสูตรอ่อนโยน สระเบาๆ ห้ามเกาหรือขยี้รุนแรง เมื่อครบ 1 สัปดาห์จึงกลับมาสระผมได้ปกติ
- งดนวดบริเวณใบหน้าหรือศีรษะ เพราะจะทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
- อาการบวมช้ำคือเรื่องปกติ อาการบวมจะหายใน 2-3 วัน ส่วนการฟกช้ำจะหายไปใน 1 สัปดาห์
ผลลัพธ์ที่ได้จากการฉีด PRP ผม
ผลลัพท์ที่ได้จากการฉีด PRP ผม คือ เซลล์ในบริเวณที่ฉีดถูกกระตุ้น เมื่อฉีดที่หนังศีรษะ PRP ก็จะไปกระตุ้นให้รากผมเกิดขึ้นมาใหม่ ซ่อมแซมเซลล์รากผม หรือทำให้รากผมแข็งแรงขึ้น ผลที่ได้จะทำให้ผมเส้นใหญ่ขึ้น ดูหนาขึ้น เส้นผมไม่หลุดร่วงมากเท่าเดิม นอกจากนี้ยังป้องกันการผมบางจากกรรมพันธุ์ หรือฮอร์โมน และจากการขาดวิตามินได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ผลลัพท์ที่ได้จะต่างกันในแต่ละคน ผมจะหนาขึ้นมากน้อยแค่ไหน ใช้เวลานานเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับสภาพของรากผม และการตอบสนองต่อ PRP ต่อร่างกายแต่ละคน หากอยากให้เห็นผลมาก ก็รักษาร่วมกับวิธีอื่นๆไปด้วยได้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เห็นผลไวขึ้น
รีวิวการปลูกผมด้วยการฉีด PRP
ผลลัพธ์ของการรักษาผมบางที่ไม่จำเป็นต้องปลูกผม จากการฉีด PRP ผมของ Absolute Hair Clinic โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ทำ PRP ผม ที่ไหนดี?
ทำ PRP ผมที่ไหนดี? ก่อนตัดสินใจเลือกทำ PRP กับที่ไหน ให้ศึกษาหาข้อมูลดีๆก่อน เนื่องจากคลินิกแต่ละที่ราคาต่างกัน ความชำนาญของแพทย์ก็ต่างกัน ไหนจะเรื่องความสะอาดกับเครื่องมือที่ใช้อีก ที่ Absolute Hair Clinic เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ดีมาก แพทย์ที่ทำ PRP ผมให้กับทุกเคส เป็นแพทย์เฉพาะทางด้านหนังศีรษะ ทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นคลินิกที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย สะอาด มีอุปกรณ์ครบครัน และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับคุณอย่างแน่นอน
สรุปเกี่ยวกับการทำ PRP ผม
การทำ PRP ผม เป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากอย่างหนึ่งของผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดเพื่อปลูกผม หรือไม่มีเวลาพักฟื้นมากพอที่จะผ่าตัด แม้จะไม่ได้เห็นผลมากเท่าการผ่าตัดปลูกผม แต่ PRP ผมก็เป็นวิธีที่ปลอดภัยมากๆ ทั้งยังให้ผลลัพธ์ที่ดี ประสิทธิภาพสูง สามารถแก้ปัญหาผมร่วมผมบางได้ในระยะยาวด้วย