หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

10 ปืนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา (จัดอันดับตามขนาดลำกล้อง) / 10 Biggest Guns Ever Made (Ranked By Caliber Size)

แปลโดย landmass70

ตั้งแต่ระยะการจนถึงพลังในการยิง เมื่อพูดถึงปืน ขนาดนั้นมีความสำคัญ มนุษยชาติมักกระตือรือร้นที่จะค้นหาวิธีการประหัตประหารซึ่งกันและกัน ซึ่งกระบวนการนี้ เป็นการขับเคลื่อนนวัตกรรม แม้ว่าหลังจากการปฏิวัติอุตสาหกรรมเริ่มขึ้น
เราเริ่มเห็นยักษ์ใหญ่ตัวจริงลงสู่สนามรบ ปืนเริ่มมีขนาดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อคู่แข่งจากมหาอำนาจ แข่งขันกันเพื่อชิงอำนาจที่เหนือกว่า อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ก็จบลงด้วยการโจมตีด้วยจรวด และนี่คือปืนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาจนถึงปัจจุบัน

12. 100-ton gun
Year : 1877-1906
Barrel length : 9.22 m
Weight : 103 tons
Shell : 910 kg
Calibre : 450 mm
Range : 6 Kg

หรือที่เรียกกันว่าปืน 100 ตันอาร์มสตรอง ปืนลำกล้อง 450 มิลลิเมตร ผลิตโดยบริษัทสรรพาวุธ Elswick บริษัทผลิตอาวุธสัญชาติอังกฤษ โดยมีวิลเลียม อาร์มสตรองเจ้าของ ปืน 15 กระบอกที่อาร์มสตรองสร้างขึ้นนั้น
ถูกใช้เพื่อติดอาวุธให้กับเรือประจัญบานอิตาลีสองลำ และเพื่อติดตั้งในป้อมปราการของอังกฤษ ที่มอลตาและยิบรอลตาร์ โดยปืนแต่ละกระบอกต้องการลูกเรือ 35 นาย และ 18 นายเพื่อจัดการกับกระสุน ซึ่งปืนสามารถยิงกระสุนได้ทุกๆหกนาที

11. BL 18-inch railway howitzer
Year : 1920–1945
Barrel length : 16 m
Weight : 85.7 tons
Shell : 1,134 kg
Calibre : 457.2 mm
Range : 21 Kg

ปืนรถไฟอังกฤษ ที่พัฒนาขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ส่วนหนึ่งในความก้าวหน้าของปืนใหญ่ขนาดใหญ่กว่า ที่พัฒนาช้าเกินไปสำหรับสงคราม ในไม่ช้าอาวุธขนาดใหญ่ก็ถูกเก็บเข้าคลัง จนเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2
ซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับป้องกันแนวชายฝั่ง ปืน 4 กระบอก ที่นำไปใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ถูกทิ้งทั้งหมดในช่วงหลังสงคราม มีเพียงปืนกระบอกที่ 5 ชื่อ "ลำกล้องหนึ่ง" เท่านั้นที่ยังอยู่ ซึ่งถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ปืนใหญ่ที่ฟอร์ตเนลสัน, นิวแฮมป์เชียร์

10. 46 cm/45 Type 94 naval gun
Year : 1940–1945
Barrel length : 21.13 m
Weight : 147.3 tons
Shell : 1,460 kg
Calibre : 460 mm
Range : 42 km

ปืนใหญ่นาวิกโยธินขนาด 46 ซม. ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยติดตั้งบนเรือรบ ถูกติดตั้งบนเรือรบ ยามาโตะ และมูซาชิ ของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กำหนดให้เป็นปืนขนาด 40 ซม. ที่เล็กกว่า เพื่อพยายามซ่อนขนาดที่แท้จริง
ปืนจำนวน 27 กระบอกถูกสร้างขึ้น สำหรับเรือประจัญบานสามลำ (ลำละ 9 กระบอก) สำหรับเรือยามาโตะ และมูซาชิ ซึ่งทั้งสองถูกจม โดยการโจมตีทางอากาศ ส่วนเรือลำที่สาม ชินาโนะ ถูกดัดแปลงเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน และถูกจมโดยเรือดำน้ำ

9. Mons Meg
Year : 1449 - 1680
Barrel length : 2.80 m
Weight : 6.6 tons
Shell : 175 kg
Calibre : 510 mm
Range : 3.2 km

ปืนใหญ่ยุคกลาง ถูกสร้างขึ้นในปี 1449 ตามคำสั่งของดยุคแห่งเบอร์กันดี และมอบให้เป็นของขวัญแด่พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งสกอตแลนด์ในปี 1457 เพื่อแสดงการสนับสนุนกษัตริย์สก็อต ซึ่งได้ช่วยเจรจาในการแต่งงาน
ปืนใหญ่ถูกปลดประจำการในทศวรรษที่ 1540 และถูกใช้เฉพาะในโอกาสพระราชพิธีเท่านั้น ปืนถูกยิงเมื่อปี 1680 เพื่อเฉลิมฉลองการมาเยือนของ พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งทำให้ลำกล้องปืนแตก ซึ่งถูกมองว่าเป็นลางร้ายสำหรับราชวงค์ในอนาคต

8. Obusier de 520 modèle 1916
Year : 1918 - 1942
Barrel length : 11.9 m
Weight : 263 tons
Shell : 1,370 and 1,654 kg
Calibre : 520 mm
Range : 14.6 - 17 m

ปืนใหญ่รถไฟฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยยิงกระสุนหนัก 1,370 และ 1,654 กิโลกรัม แต่ไม่ได้เข้าประจำการจนสงครามสิ้นสุดลง ปืนกระบอกแรกถูกทำลายในการทดลองยิง และกระบอกที่เหลือถูกยึดโดยเยอรมัน
หลังฝรั่งเศสยอมจำนนในปี 1940 และถูกใช้ในการบุกเลนินกราด และปืนถูกทำลายเมื่อกระสุนระเบิดก่อนเวลา ซากปรักหักพังที่ถูกทิ้งร้าง ถูกยึดโดยโซเวียตระหว่างปฏิบัติการอิสครา ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลาย แวร์มัคท์ในปี 1943

7. Karl-Gerät
Year : 1941–1945
Barrel length : 4.2 m
Weight : 126.35 tons
Shell : 2.1 tons
Calibre : 600 mm
Range : 42 km

หรือรู้จักในชื่อ มอร์ตาร์คาร์ล ปืนใหญ่อัตตาจรของเยอรมัน ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ออกแบบและสร้างโดยไรน์เมทัล โดยกระสุนที่หนักที่สุดมีขนาด 24 นิ้ว และหนัก 2,170 กก. ซึ่งปืนแต่ละกระบอกจะต้องมาพร้อมกับปั้นจั่น รถรางบรรทุกหนักสองคัน
และรถถังดัดแปลงหลายคันเพื่อขนกระสุน ปืนถูกสร้างขึ้นทั้งหมด 7 กระบอก โดย 6 กระบอกพบเห็นในการต่อสู้ระหว่างปี 1941 - 1945 ปืนส่วนใหญถูกทิ้งหลังสงคราม แต่มีหนึงคันถูกยึดโดยกองทัพแดง ซึ่งถูกจัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ คูบินก้า แทงค์ ประเทศรัสเซีย

6. Malik-i-Maidan
Year : 1549 - 1686
Barrel length : 4.2 m
Weight : 55 tons
Shell : -
Calibre : 700 mm
Range : -

เจ้าแห่งสนามรบ เรียกอีกอย่างว่าเบิร์จ-อี-เชิร์ซ ปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดีย ถูกหล่อขึ้นในปี 1549 โดยมูฮัมหมัด บิน ฮูเซน รูมี วิศวกรชาวตุรกี ภายใต้สุลต่านบูฮัน นิซาม ชาห์ที่ 1 แห่งอาเหม็ดนาการ์ ปืนใหญ่ถูกมอบให้แก่อาลี ชาห์ บุตรเขยของเขา
ในปี 1565 ปืนใหญ่ ถูกใช้ในยุทธการ ตาลิโกตา ซึ่งหลังจากชัยชนะปืนใหญ่ก็ได้รับการตั้งชื่อว่า มาลิก-อี-ไมดัน ในปี 1624 ปืนใหญ่ถูกขนส่งด้วยช้างศึก ไปยังโชลาปูร์และใช้ในยุทธการภัทวาดิ

5. Schwerer Gustav
Year : 1941 - 1945
Barrel length : 32.5 m
Weight : 1,350 tons
Shell : 7.1 tons
Calibre : 800 mm
Range : 47 km

ปืนใหญ่รถไฟของเยอรมัน ปืนที่มีลำกล้องที่ใหญ่ที่สุดที่เคยใช้ในการต่อสู้ ได้รับการพัฒนาโดย Krupp ตั้งแต่ปี 1937 จุดประสงค์เพื่อทำลายป้อมปราการหลัก สาย Maginot ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งที่สุดที่มีอยู่ในขณะนั้น
แต่การโจมตีผ่านเบลเยี่ยมรุกคืบอย่างรวดเร็ว และแยกแนวป้องกันสาย Maginot บังคับให้ฝรั่งเศสต้องยอมจำนนในที่สุด ต่อปืนถูกส่งไปประจำการในสหภาพโซเวียต และถูกย้ายไปที่เลนินกราด อาจมีจุดประสงค์เพื่อใช้ในการปฏิวัติวอร์ซอ
แต่การจลาจลเกิดขึ้นก่อนที่จะพร้อมยิง กุสตาฟที่ถูกทำลายโดยเยอรมัน เมื่อใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของสงครามในปี 1945 ที่จะหลีกเลี่ยงการถูกยึดโดยกองทัพแดงของโซเวียต

4. Pumhart von Steyr

Year : Early 15th century
Barrel length : 2.5 m
Weight : 8 tons
Shell : 690 kg
Calibre : 800 mm
Range : 600 m
ปืนลำกล้องใหญ่ยุคกลาง จากสติเรีย ออสเตรีย ผลิตขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 15 และสามารถยิงลูกหินขนาด 80 ซม. ที่มีน้ำหนัก 690 กก. เป็นระยะทางประมาณ 600 ม. หลังจากบรรจุดินปืน 15 กก. และตั้งไว้ที่ระดับ 10°
ปัจจุบันถูกจัดแสดงในห้องโถงปืนใหญ่ ของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์การทหาร เวียนนา นอกจากนี้ ยังมีปืนใหญ่ของยุโรปสมัยศตวรรษที่ 15 อีกจำนวนหนึ่ง เช่น Mons Meg, Dulle Griet, Faule Mette, Faule Grete และ Grose Bochse

3. Tsar Cannon
Year : 1586 -
Barrel length : 4.9 m
Weight : 39.3 tons
Shell : 0.9 tons
Calibre : 890 mm
Range : 1.2 km

อนุสาวรีย์ศิลปะปืนใหญ่รัสเซีย หล่อด้วยสัมฤทธิ์ในปี 1586 ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามคลังอาวุธ หันหน้าไปทางวุฒิสภาเครมลิน ในกรุงมอสโก ปืนไม่เคยใช้ในสงคราม แต่ก็มีร่องรอยการยิงอย่างน้อยหนึ่งครั้ง รถม้าและปืนใหญ่ได้รับการตกแต่งอย่างหรูหราในปี 1835
ที่โรงงานเบร์ดในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ลูกเหล็กทรงกลมที่ตั้งอยู่ด้านหน้าปืนใหญ่นั้น แต่ละอันมีน้ำหนักประมาณหนึ่งตัน ผลิตขึ้นในปี 1834 เพื่อใช้เป็นเครื่องตกแต่ง และมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะใช้ยิงได้

2. Little David
Year : 1857 -
Barrel length : 6.7 m
Weight : (77 long tons, 87 short tons)
Shell : 1,656 kg
Calibre : 914 mm
Range : 9.7 km

ปืนใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี 1857 ถูกใช้สำหรับการทดสอบยิง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งในปี 1944 กองทัพสหรัฐฯ คาดว่าจะต้องพบกับป้อมปราการที่แข็งแกร่งอย่างยิ่งในระหว่างการรุกรานญี่ปุ่น การศึกษาลิตเติ้ลเดวิดเป็นปืนใหญ่ปิดล้อมจึงเริ่มขึ้น
ปืนใหญ่ถูกแปลงสำหรับเคลื่อนย้ายสองชิ้น ประกอบด้วยลำกล้อง 36 ตัน และ ฐาน 42 ตัน ที่ถูกขนส่งโดยแทรกเตอร์ M25 สองคัน พร้อมรถดันดินและปั้นจั่นพร้อมถังเพื่อขุดตำแหน่งฐาน และลิตเติ้ลเดวิดก็พร้อมที่จะยิงใน 12 ชั่วโมง

1. Mallet's mortar
Year : 1857
Barrel length : 3.4 m
Weight : 43 tons
Shell : (1.067 - 1.334 tons)
Calibre : 914 mm
Range : 2.4 km

ถูกสร้างขึ้นสำหรับสงครามไครเมีย แต่ไม่เคยใช้ในการสู้รบ ได้รับการออกแบบโดยโรเบิร์ต มัลเล็ต โดยปืนสองกระบอกถูกผลิตขึ้นในปี 1857 และสร้างขึ้นเป็นส่วนที่แยกออกจากกัน เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายได้ การทดสอบเริ่มขึ้นในปี 1857 - 1858
โดยมีการยิงทั้งหมด 19 นัด ด้วยอัตรา 4 นัดต่อชั่วโมง โดยแต่ละครั้งจบลงด้วยความเสียหายต่อปืน ปืนทั้งสองกระบอกอยู่ในชุดสะสมของคลังอาวุธหลวง ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธและชุดเกราะแห่งชาติ ของสหราชอาณาจักร

แปลโดย: landmass70
ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=vExGH3-HY2o
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
landmass70's profile


โพสท์โดย: landmass70
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เมล็ดพันธุ์ที่ช่วยบำรุงสมองไม่แพ้อัลมอนด์! สารอาหารที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้เลขเด็ด "อาม่าให้ลาภ" รับปีใหม่ งวดวันที่ 2 มกราคม 68..ซื้อหวย ร่ำรวยกันทุกคน!รวมเลขปฏิทิน งวด 2 มกราคม 2568 เลขเด็ดเลขดัง 2/1/68เลขเด็ด เลขมาเเรง เลขดัง "รวมหวยเด็ดสำนักดัง vol.20" งวดวันที่ 2 มกราคม 2568ต้นเจดีย์สิกขิม: พืชมหัศจรรย์แห่งเทือกเขาหิมาลัยใครดวงปัง ดวงพุ่ง ดวงเฮงในปี 68 มาดูกัน
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
คนโสดต้องกินองุ่น 12 ลูกใต้โต๊ะ12 วิก่อนปีใหม่….เพื่อ????ธัญพืชโปรตีนสูงกว่าถั่วเหลือง? ที่สายสุขภาพต้องลองYouTube มีแผนจะลบวิดีโอประเภท Clickbait ที่หลอกลวงผู้บริโภค โดยจะเริ่มที่อินเดียเป็นที่แรกนักวิทย์สร้าง แบตเตอรี่เพชรคาร์บอน-14 สำเร็จ ให้พลังงานกว่า 5,000 ปี กว่าแบตฯจะลดลงครึ่งหนึ่ง
ตั้งกระทู้ใหม่