แนวทางรักษาและป้องกัน..Syphilis
โรคซิฟิลิส ( Syphilis ) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ทริปโปนีมา พัลลิดุม (Treponema Pallidum) เมื่อร่างกายได้รับเชื้อจะกระจายไปตามกระแสเลือด และยังอาศัยอยู่ในร่างการของมนุษย์ได้เกือบทุกส่วนในร่างกาย หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้เกิดปัญหารุนแรงตามมาภายหลัง
หลังติดเชื้อประมาณ 10-90 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีตุ่มเล็กๆ ขึ้นตามผิวหนังบริเวณที่ติดเชื้อ เช่น ขึ้นที่อวัยวะเพศ ช่องคลอด แล้วแต่ว่าจะติดเชื้อที่บริเวณใดบ้าง จากนั้นตุ่มจะขยายกว้างขึ้นและใหญ่ขึ้น แตกออกกลายเป็นแผลกว้าง แผลเป็นรูปกลม โดยแผลอาจเป็นแผลเดียวหรือแผลติดกันได้ จากนั้นอีก 1 สัปดาห์เชื้อจะเข้าไปในต่อมน้ำเหลืองทำให้ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งช่วงนี้หากตรวจก็จะตรวจพบเชื้อในกระแสเลือด ทั้งนี้หากปล่อยไว้นานไม่มีการรักษา อาจส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนไปยังอวัยวะสำคัญ เช่น หัวใจ สมอง เส้นประสาท หรืออวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะนั้น เกิดอาการ “อัมพาต” ไม่สามารถทำงานได้ เช่น ตาบอด สมองเสื่อม หูหนวก
หนึ่งในวิธีการการรักษาโรคซิฟิลิส คือ การวินิจฉัยโรคให้เร็วที่สุด ซึ่งแพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายในเบื้องต้น จากนั้นจะทำการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อ ส่วนยาที่ใช้ในการรักษา คือ ยาปฏิชีวนะซึ่งแพทย์จะฉีดให้ผู้ป่วยโดยดูจากระยะเวลาในการป่วยว่าได้รับเชื้อมานานเพียงใด แต่วิธีที่ดีที่สุดกับทั้งตัวเราเอง และ คนรัก การป้องกันการติดเชื้อจากโรคซิฟิลิส โดยการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคนี้ และหากไม่มั่นใจควรสวมถุงยางอนามัยเพื่อการป้องกันทุกครั้ง แต่หากมีลักษณะอาการป่วยคล้ายกับลักษณะของอาการที่ได้กล่าวมาแนะนำให้รีบเข้าไปพบแพทย์