พลังของภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนกว่า 90% คอนเสิร์ตที่มีคนร่วมงานกว่า 385,000 คน พบติดเชื้อเพียง 0.05% หรือ 203 คน
นครชิคาโกได้จัดเทศกาลดนตรีครั้งใหญ่ (Lollapalooza)ในรอบปี
ซึ่งต้องยกเลิกไปเมื่อปีที่แล้ว จากการระบาดของโควิดในสหรัฐอเมริกา
ปีนี้ จัดเป็นเทศกาลต่อเนื่องกันสี่วัน เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมถึงหนึ่งสิงหาคม 2564 ที่ City Grant Park
หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ ได้มีการติดตามผู้ที่มีการติดเชื้อไวรัสที่มีความสัมพันธ์กับการมาร่วมงานเทศกาลดนตรี
พบว่าจากประมาณการผู้มาร่วมงานเทศกาล 385,000 คน พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 203 คน คิดเป็น 0.05%
เป็นผู้ที่อยู่ในนครชิคาโกเอง 58 ราย(มีอาการ 22%) มาจากในรัฐอิลลินอยส์
แต่อยู่นอกนครชิคาโก 138 ราย และมาจากนอกรัฐ 7 ราย
ในจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมดนี้
80% มีอายุน้อยกว่า 30 ปี และไม่มีใครป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลและไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
โดยมาตรการสำคัญ ที่ทางนายกเทศมนตรีบอก คือ การเข้มงวดกับผู้ที่มาร่วมงานทุกคน
จะต้องแสดงบัตรว่าได้ฉีดวัคซีนครบแล้วสองเข็ม หรือถ้าไม่ได้ฉีดวัคซีนมา
จะต้องมีใบที่แสดงการตรวจว่าไม่มีเชื้อไวรัส ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนมาร่วมงาน
ด้วยมาตรการดังกล่าว มีการประมาณการว่า ผู้ที่มาร่วมงานกว่า 90% ได้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว
และเมื่อเก็บตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้ง 203 รายนี้ พบว่า
มาจากกลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน 76 รายและมาจากกลุ่มที่ฉีดวัคซีน 127 ราย
เมื่อปรับตัวเลขสัดส่วน 90% ฉีดวัคซีน และ 10% ไม่ได้ฉีดวัคซีน
พบว่าการติดเชื้อเกิดในกลุ่มไม่ได้ฉีดวัคซีน สูงกว่ากลุ่มที่ฉีดวัคซีน มากถึงห้าเท่าตัว
นั่นหมายความว่า วัคซีนช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ดีกว่ากลุ่มที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนชัดเจน
และในขณะเดียวกัน ในกลุ่มประชากรที่ฉีดวัคซีนแล้ว 90% การติดเชื้อที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่
(Superspreader) แต่อย่างใด
นับเป็นข้อมูลที่น่าสนใจมาก จะต้องติดตามในที่อื่นๆต่อไป ว่าตัวเลขสัดส่วนผู้ติดเชื้อในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่
ที่ฉีดวัคซีนจนมีภูมิคุ้มกันหมู่แล้ว จะเป็นอย่างไร แตกต่างกับที่นครชิคาโกครั้งนี้มากน้อยอย่างไร
หรือไทยเราต้องเอาอย่างเขา ต้องมีภูมิคุ้มกันหมู่



















