หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

นักสู้จากฟอซาน ที่ทำให้ทหารญี่ปุ่นต้องกลัว (สปอยแบบเต็มเม็ด)

เนื้อหาโดย thankuu

สวัสดีครับ มาพบกันอีกครั้งที่ช่องแมงวันมูวี่ สำหรับวันนี้ ผมมีภาพยนตร์แนวกังฟู ที่ใครต่างก็รู้จักกันดีครับ เพราะเขาคนนี้ มีตัวตนจริงใน
ประวัติศาสตร์ นั้นก็คือ ยิปมัน ปรมจารกังฟู กับมวยหย่งชุน ที่ว่ากันว่า เป็นมวยสายอิทสตรี แต่เขาก็พิสูจน์ให้เห็นว่า มันคือสุดยอดของ
การต่อสู้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไร 1 ซับ 1 ไลท์ แล้วไปติดตามรับชมกันเลยครับ

โดยเรื่องราวนี้ เกิดขึ้นในปี 1935 ที่ฟอซาน ในประเทศจีน ซึ่งช่วงนั้นการตั้งสำนักมวยเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก มีอาจารย์หลายท่าน มาตั้ง
สำนักติดๆ กัน แทบจะประตูชนประตูกันเลยทีเดียว ซึ่งวันหนึ่ง อาจารย์มวยสวยบู๊นามว่า อาจารย์เหลียง ก็ได้ข่าวว่า ท่านอาจารย์ยิปมัน
คือคนหนึ่งที่มีฝีมือ อาจารย์เหลียงก็อยากจะมาประลองฝีมือซักหน่อย แต่บังเอิญว่า ยิปมันไม่สะดวก เพราะกินข้าวอยู่ อาจารย์เหลียงก็
บอกว่า "ไม่เป็นไร..ผมรอได้ เชิญท่านกินข้าวให้เรียบร้อยก่อน" แต่แหม.. อาจารย์เหลียงก็มาซะเช้าเกิน ข้าวปลาก็คงยังไม่ทันกิน
อาจารย์ยิปมันเลยชวนมากินข้าวจิบชากันสักหน่อย ดูแล้วเหมือนไม่น่าจะใช่ชวนมาตีกันเลย

เมื่อกินเสร็จเรียบร้อย คำสั่งจากเมียก็บอกว่า อย่าทำข้าวของเสียหายล่ะ ว่าแล้วก็เดินเข้าไปในห้องและให้พ่อบ้านปิดประตู ประดุจ
เหมือนจะประลองกันลับๆ เมื่อทั้งคู่พร้อม อาจารย์เหลียง ก็พุ่งเข้าใส่กันไม่ยั้งทันที แต่ทุกกระบวนท่าของอาจารย์เหลียงเหมือนเป็นเด็ก
ที่มาเล่นตบแพละกับยิปมันก็ว่าได้ ทำได้แค่เฉียดไปก็เฉียดมา สุดท้ายก็พลาดท่า โดนสกัดจนล้ม ยิปมันเลยทำเป็นชกลมบริเวณหน้า
ประดุจว่าถ้าไม่รั้งมือไว้ คงตายคาที่ อาจารย์เหลียงเลยขอบคุณที่ยอมปะมือด้วย และขอให้เรื่องนี้เป็นความลับ เพราะเป็นถึงเจ้าสำนักมวย
แต่แพ้ไม่เป็นท่าแบบนี้ คงจะแย่ แต่ยิปมันก็บอกว่าสบายใจได้ เขาไม่พูดแน่นอน... แต่นั้นแหละครับ หารู้ไม่ว่า มีเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
ปีนมาเก็บว่าว และเห็นเหตุการณ์การต่อสู้ทุกอย่างในครั้งนั้น

ซึ่งเด็กคนนั้นคือ ซานต้าหยวน เป็นน้องชายของ อาหลิน เถ้าแก่เจ้าของร้านยาในเมืองนั้นเอง ซานต้าหยวนก็มาโม้ให้คนอื่นฟัง
ว่าอาจารย์เหลียงโดนส้นตีนซะยับหน้าแหกกลับบ้าน ซึ่งในวันนั้น อาจารย์ยิป ก็มาหาเพื่อนคนสนิทที่ร้านอาหารเช่นกัน โดยได้มีการ
พูดคุยในการขอให้อาจารย์ยิปมาร่วมหุ้นเปิดกิจการโรงทอฝ้ายด้วยกัน

 

เรื่องที่ซานต้าหยวนไปพูดนั้น ทำให้ลูกศิษย์อาจารย์เหลียงนำเรื่องมาบอก และถามว่าจริงหรือไม่.. อาจารย์เหลียงก็แหม.. มันจะเป็น

อย่างนั้นได้อย่างไร ใครเป็นคนพูด "ซานต้าหยวน ร้านขายยาครับ" อาจารย์เหลียงก็เลยรีบแหน็บไปหาทันที

พอไปถึง ก็จะซัดกันเลยทันทีเช่นกัน พูดอย่างนั้นมาได้ยังไง นี่กูคืออาจารย์มวยชื่อดังนะเว้ย กูไม่เคยแพ้ใครนะ แต่ซานต้าหยวนก็บอกว่า
งั้นก็ไปถามอาจารย์ยิปด้วยกันเลย เขามากินข้าวอยู่ที่นี่ พูดจบก็รีบวิ่งไปหา อาจารย์ยิป ส่วนอาจารย์เหลียงนี่หน้าเครียดกันเลยทีเดียว

เมื่อซานต้าหยวนมาถึงหน้าห้องโต๊ะอาหาร ก็ตะโกนถามทันทีว่า อาจารย์ยิป เรื่องที่อาจารย์ยิปชนะการประลองกับอาจารย์เหลียง
จริงหรือไม่... แต่อาหลิว รีบกลับมาห้ามน้องชาย เองจะพูดแบบนั้นไม่ได้ ไม่ว่าเรื่องที่แกพูด มันจะจริงหรือไม่จริง แกก็ไม่ควรพูด
มันทำให้คนอื่นเขาเสียหน้า "มันจะเสียหน้ายังไง..ก็เขาแพ้จริงๆ" สุดท้ายก็โดนพี่ชายสั่งสอนจนอับอาย และหนีไปทันที

ไม่นาน ตำรวจนายหนึ่งก็มา "เฮ้ยๆๆ...เกรงใจข้าบ้างสิเว้ย จะมาท้าต่อยท้าตีอะไรกัน นี่มันยุคไหนแล้ว เดี๋ยวนี้เขาใช้ปืนกันหมดแล้ว
ไอ้พวกบ้าพลัง" ตำรวจพูดจบ ก็คว้าปืนมาจ่อหน้าอาจารย์ยิป อาจารย์ยิปเลยเอามือไปล็อคมือตำรวจไว้ จากนั้นก็ใช้นิ้วดันรังเพลิง
กระสุนทีเดียวหลุดออกมาเลย

"ต้องขอโทษคุณตำรวจด้วยนะครับ พวกเราเป็นชาวยุทธ บางทีก็รั้งพลังไม่ค่อยได้ หรือพูดจาโผงผางเสียงดังไป แต่จริงๆ เราก็ไม่มีอะไร
มันเป็นเรื่องปกติของพวกเราอยู่แล้วครับ" เรียกได้ว่าตำรวจเสียหน้ากันเลยทีเดียว เพราะปืนที่ว่าแน่ โดนนิ้วอาจารย์ยิปเขี่ยทีเดียวถึงกับพัง

ตกค่ำคืนนั้น อาจารย์ยิปให้เพื่อนไปหาที่บ้าน และให้เงินไปก้อนหนึ่ง โดยบอกว่าให้เอาไปทำทุน เขาไม่เหมาะกับการทำธุรกิจเท่าไหร่
ไว้มีเงินมาจ่ายคืนเมื่อไหร่ก็ได้ โดยที่เพื่อนคนนี้ ก็ได้ร้องขอให้ยิปมัน ช่วยรับลูกชายเป็นศิษย์หน่อย แต่เขาก็ไม่ได้รับไว้ ส่วนอาหลิว
ก็มาหาอาจารย์ยิป บอกว่าได้มีกระบวนท่าใหม่ อยากจะมาลองฝีมือ ก็เลยปะมือกันเล่นๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ลูกชาย ได้วาดรูป
แล้วอยากมาอวดพ่อยิป แต่พ่อยิปไม่สนใจ ไล่ให้ไปเล่นกับแม่ก่อน.. เมียอาจารย์ยิปเลยโมโห จะบ้าพลังท้าต่อยท้าตีอะไรกันนักหนา
...เท่านั้นแหละครับ วงแตกกระจายหนีกับบ้านกันหมดเลยทีเดียว

หลังจากนั้นไม่นาน มีกลุ่มชายบ้านนอก ที่มาจากแดนเหนือ นามว่า จินซางโถ โดยที่เขาเองอยากจะมาเปิดสำนักมวยที่นี่ เพราะทราบ
ว่าที่นี่มีสำนักมวยมากมาย จึงเริ่มมาขอท้าประลองกับสำนักต่างๆ สำนักพี่น้ำตาลเป็นสำนักแรกที่โดนขอประลองตีนด้วย มันหยามกันชัดๆ
ลูกศิษย์ฝึกซ้อมเต็มไปหมด มาท้าแบบนี้ก็เจอดิ.. ว่าแล้วก็งัดวิชาหมดเสือของสำนักมาต่อสู้ แต่ก็โดนหมัด จินซางโถ ไล่ถลุงอยู่หลาย
กระบวนท่า สุดท้ายก่อนจะโดนคอมโบเตะยอดหน้า พร้อมต่อยเข้าที่คางจนกระเด็นสลบนอนหลับฝันดีไปเป็นรายแรก จากนั้นก็มอง
สำนักเฮียน้ำเงินที่อยู่ใกล้ๆ แล้วเดินตรงไปหาทันที

 

"เฮ้ย...เจ้าสำนักอยู่ไหน"... "กูอยู่นี่" ทุกคนหันคว่ำเห็นเจ้าสำนักพี่น้ำเงินถือง้าวให้รอท่า... งานนี้กะว่าคงฟันกันเอาตาย จินซางโถ
เลยใช้ดาบคู่ใจ ใส่กระบวนท่าซัดกันทันทีเช่นกัน ด้วยความยาวของง้าว กลับไม่ได้เปรียบอะไรเลยแม้แต่น้อย สุดท้ายโดนสันดาบตบ
เข้าที่หน้า ก่อนจะโดนดาบมาจ่อคอไว้ทันที "เฮ้ย..เองคิดจะฆ่าข้าเหรอวะ" จากนั้นเห็นสำนักพี่ดำที่อยู่ใกล้ๆ แต่ลูกศิษย์ก็ชิงพูดก่อนว่า
"เจ้าสำนักไม่อยู่..ไปจ่ายตลาด"

เรื่องนี้รู้ถึงหูอาหลิว เลยรีบไปหาอาจารย์ยิปเพื่อแจ้งข่าวทันที ว่ามีกลุ่มคนบ้านนอกจากแดนเหนือ มาหาเรื่องสำนักมวยในเมือง
ตอนนี้แพ้กันยับ แลมันเก่งมากๆ ด้วย อาจารย์ว่างๆ อยากให้ไปดูหน่อย.. แต่อาจารย์ยิปดูแล้วเหมือนจะไม่ค่อยสะดวกซักเท่าไหร่
ซึ่งในขณะเดียวกัน การท้าต่อยของ จินซางโถ ก็มาถึงสำนักอาจารย์เหลียง กับวิชาหมัดจกชายแขนเสื้อซึ่งดูแล้วเหมือนเกือบดี แต่ไม่นาน
ก็โดนทั้งตีน ทั้งหมดประเคนไม่หยุด ก่อนจะโดนถีบกระเด็นลอยไกลไปถึงดาวอังคาร "เห๊อะ..ที่ฟอซานมันไม่มีคนเก่งเลยหรือไงวะ"

 

ว่าแล้วพวกเขาก็ไปกินก๋วยเตี๋ยว วางแผนจะเปิดสำนักมวยที่นี่ เพราะดูแล้วไม่มีใครสู้เขาได้เลย แต่ตาลุงขายก๋วยเตี๋ยวบอกว่า
อย่ามาขี้คุยนักเลย ไอ้ที่แกชนะ มันก็แค่นักสู้ปลายแถว ลองเจอคนเก่งจริงๆ พวกแกก็ไม่รอด ... "ใครวะอาแปะ ที่ว่าเก่ง".. อาแปะ
หันมาแล้วพูดว่า "...อาจารย์ยิปไง..เก่งที่สุดแล้ว"

ว่าแล้ว จินซางโถ ก็เรียกทุกคนไปดูการประลอง เพราะเขาจะไปต่อยหน้าอาจารย์ยิปให้ดู เพื่อจะได้รู้กันไปว่าใครเก่งที่สุดในฟอซานแห่งนี้
เมื่อไปถึง ตอนนั้นอาจารย์แกก็กำลังผ่อนคลายดูดบุหรี่อยู่ในบ้าน "เฮ้ย..คนไหนอาจารย์ยิปวะ" พูดจบก็ถีบประตูกรูกันมาถึงหน้าบ้านทันที

"อาจารย์ยิป ผม จินซางโถ ต้องการมาประลองกับท่าน เพราะผมเองอยากจะเปิดสำนักมวยที่นี่ ก็เลยอยากท้าดวลกันท่านนิดหน่อย"
"เดี๋ยวใจเย็น ไอ้ทิด.. ถ้าเองอยากจะเปิดค่ายมวย แค่หาทำเลดีๆ แกก็เปิดได้เลย ไม่ต้องมาท้าประลอง เชิญกลับไปได้ ผมจะไม่ปะลอง
กับใครทั้งนั้น " พูดจบก็เดินหันหลังหนีทันที

 

"อะไรกันท่านยิป ตกลงไม่มีใครสู้กับผมเลยเหรอ.. ว้า บ้านเมืองนี้มีแต่คนกระจอกจริงๆวะ" พอพูดเท่านั้นแหละ เมียอาจารย์นี่ถึงกับ
ขึ้นกันเลยทีเดียว "แกคิดว่าที่นี่เป็นค่ายมวยกันรึไงห๊ะ เอะอะก็มาท้าตีท้าต่อย นี่มันบ้านคนนะเว้ย" ... "ได้ยินแล้วใช่ไหม..เชิญ"
อาจารย์ยิปนี่ไหลตามเมียกันเลยทีเดียว

"โด่ที่แท้ก็กลัวเมีย .. เห็นว่าอาจารย์ใช้มวยหย่งชุน มวยของอิสตรีซะด้วย สมแล้ว ที่ตามตูดเมียต้อยๆ เอานี้.. ผมสัญญาผมจะใช้มือเดียว
แต่ถ้าคิดว่ามากไป ผมจะไม่ใช้สักมือเลยก็ได้นะ " นี่มันแบบหยามกันสุดๆ "ไอ๊หย๋า หมดแล้วฟอซาน ไม่มีคนกล้าเลย" ด้วยคำพูดนี้
เท่านั้นแหละครับ เมียอาจารย์ยิปเลยบอกว่า "อย่าทำให้ข้าวของเสียหายล่ะ".. เป็นอันรู้กันว่าใครจะโดนตีน

แต่ไม่ทันไร ตำรวจคนเดิมก็มาอีกแล้ว "เฮ้ยๆ มีเรื่องราวอะไรกัน..." แล้วก็เดินมาอยู่ข้างๆ อาจารยยิป "เราก็แค่กำลังจะท้าประลองกัน
เดี๋ยวคุณตำรวจ ช่วยพาทุกท่านออกไปก่อน แล้วปิดประตูให้ผมด้วยนะครับ... ตำรวจถึงกับเดินมากระซิบใกล้ๆ ว่า "ช่วยกู้หน้าให้
ฟอซานด้วย ท่านต้องชนะนะ" พูดจบก็ไล่ต้อนคนอื่นออกไปทันที

 

จากนั้นทั้งคู่ก็ปะมือใส่กันทันทีครับ โดยที่หลักๆ ทางอาจารย์ยิปเหมือนจะดูเชิงและเป็นฝ่ายตั้งรับเพียงอย่างเดียว ไม่นานข้าวของเริ่ม
เสียหาย โดยที่ฝ่ายท้าก็บอกว่า เดี๋ยวจะชดใช้ให้ อะไรที่มันเสียหาย แต่ก็เหมือนยิ่งเละไปเรื่อยๆ จนลูกชายอาจารย์ยิปปั่นจักรยานมา
บอกว่า " ท่านแม่สั่งว่า ถ้าท่านไม่ชกเขาคืนบ้าง ของในบ้านจะเสียหายหมด" จากนั้น อาจารย์ยิป ก็เริ่มตั้งท่าเอาจริงขึ้นมาทันทีเช่นกัน
จากที่เป็นฝ่ายตั้งรับมาหลายกระบวนท่า กลายเป็นออกหมัดไม่กี่เพลง เล่นเอาคนท้าถึงกับกันเด็นกลิ้งเป็นลูกขนุน ไม่รู้ว่าโดนอะไร
มันวูบเดียวจริงๆ ใช้หมัดคงไม่ได้เรื่อง เลยเอาดาบกะปลิดชีพอาจารย์ยิปซะเลยว่างั้น อาจารย์ยิปเองก็เลยไปคว้าเอาไม้ขนไก่มาสู้
อาวุธนี่ต่างกันราวฟ้ากับเหตุ แต่สุภาษิตจีนที่ว่า "หากกระบี่จะคมเพียงใด แต่หากเยี่ยมยุทธแล้วไซร์ ใช้เพียงกิ่งไผ่ ก็ไร้เทียมทาน"
จึงทำให้อาจารยิป ใช้ไม้ขนไก่ฟาด ยังกับครูตีเด็ก และพ่ายแพ้ไปในที่สุด

พอประตูบ้านเปิดออก ทุกคนอยารู้ผลการแข่งขัน แต่ตำรวจบอกว่า "ดูหน้าพวกมันก็รู้แล้วว่าใครแพ้.." ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความดีใจ
ที่อาจารย์ยิปสามารถชนะได้โดยไร้การบาดเจ็บ จึงทำให้เป็นขวัญใจชาวบ้าน ต่างก็ให้ของฝาก มากของขวัญกันล้นมือ และมีชาวบ้าน
จำนวนมาก อยากมาขอเป็นศิษย์ด้วย แต่อาจารย์ยิป ยังไม่เคยรับศิษย์คนใดเลยสักคน

 


เวลาผ่านไปจนถึงช่วงปี 1938 ช่วงสงครามที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดดินแดนในประเทศจีน หนึ่งในนั้นก็คือฟอซานด้วยเช่นกัน ซึ่งบ้านอาจารย์ยิป
ที่ใหญ่ สุดท้ายก็โดนญี่ปุ่นยึดไปเป็นสำนักงานกองทัพญี่ปุ่น โดยมีนายพลมิอุระ คอยดูแลในเขตนี้ ช่วงนั้นทุกคนยาจกมากครับ
อาจารย์ยิปเองจากที่มีเงินใช้มากมายจากมรดกของพ่อแม่ สุดท้ายก็มาอยู่ห้องพักเล็กๆ ในฟอซาน และใช้สมบัติที่ตัวเองมีทยอยไปแลก
ข้าวมากิน จนวันหนึ่งเมียได้ล้มป่วย และคิดว่า คงอยู่เฉยแบบนี้ต่อไปไม่ได้ เพราะสมบัติก็ใกล้หมดแล้ว เลยคิดไปหางานทำ ด้วยการ
ไปเป็นแรงงานขนถ่านหิน ซึ่งวันแรกที่ไป ก็พบกับอาหลิว เถ้าแก่ร้านยา ที่ผันตัวเองมาใช้แรงงานด้วยเช่นกัน โดยที่เขาเองก็บอกว่า
ตั้งแต่คราวที่น้องชายไปรบกวนอาจารย์ยิป เขาก็ไม่เคยเจอซานต้าหยวนอีกเลย ..

ไม่นานกองทัพญี่ปุ่นก็ขับรถเข้ามา โดยนายตำรวจคนเดิมตอนนี้ ได้ผันตัวเองไปเป็นล่ามให้กับทหารญี่ปุ่น โดยบอกว่า ท่านนายพลมิอุระ
ชอบศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างมาก อยากจะขอคนที่มีความสามารถ มาแลกเปลี่ยนความรู้ด้วยกัน โดยเราจะมีข้าวให้ ไม่ว่าแพ้หรือชนะ
ซึ่งอาหลิวเองก็อยากจะไป แต่ไม่ได้อยากได้ข้าว อยากไปต่อยหน้าพวกญี่ปุ่น แม้อาจารย์ยิปจะห้าม แต่ก็ไม่สนใจ และฝากอาจารย์
หากล่องเหล็กให้หน่อย มันหล่นหายไปแถวๆ เนี้ย ก่อนจะขึ้นรถไปกับพวกญี่ปุ่นทันที

 

พอไปถึง ก็เจออาจารย์เหลียง กำลังซัดพวกทหารญี่ปุ่นคาราเต้สายดำ ไม่รู้ว่าบั้ง 7 หรือ 9 แต่ก็โดนซัดซะเละก่อนจะได้ข้าวเป็นรางวัล
โดยได้เดินมาบอกพวกคนจีนด้วยกันว่า "อัดพวกมันให้เละ" แต่บังเอิญว่ารอบนี้ นายพลมิอุระ อยากโชว์สกิลด้วย เลยบอกว่าให้จัด
พวกคนจีนมา 3 คน เขาจะลุยเอง ไม่ว่าแพ้หรือชนะ ก็จะได้ข้าวกลับไป

โดยที่ 2 คนที่ลงมา คืออาจารย์มวยที่เคยเปิดสำนักที่ฟอซาน และอาหลิว แต่พอเริ่มชก โดนอัดคนละทีสองที ก็ร่วงกันเรียบร้อย
และก็ไม่อยากให้ลุกไปสู้ แกล้งยอมแพ้ไม่ต้องเจ็บตัวมากเพื่อแลกข้าวดีกว่า แต่ศักดิ์ศรีอาหลิวสูงยิ่งนัก เลยลุกขึ้นพยายามไปบวกแต่
ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายโมโห พ่นเลือดใส่หน้า ทำให้นายพลมิอุระบอกว่าแกตายซะเถอะแบบนี้ ว่าแล้วก็ใช้หมดชกเข้าที่หัวใจ ทีเดียว
ถึงกับกระเด็นลงไปนั่งช็อคกับพื้นตายคาที่กันเลยทีเดียว

วันถัดมา อาจารย์ยิปก็ไม่เจออาหลิว ถามคนที่ไปมาเมื่อวานก็ไม่มีใครตอบอะไร พอนายตำรวจเบ้ทหารมาหนนี้ ก็มาหานักมวยไปชกอีก
อาจารย์ยิปถามมันก็ไม่อยากจะตอบอะไร อาจารย์ยิปเลยขอไปด้วย พออาจารย์ยิปไป ทำให้หลายคนอยากไปด้วยทันที เมื่อไปถึง
ก็กำลังเห็นอาจารย์เหลียง ไล่เตะพวกนักคาราเตะจนชนะได้ข้าวมาอีกครั้งพอดี แต่ดูเหมือนว่ายังไม่เหนื่อยมาก อาจารย์เหลียงเลย
บอกว่า เขาอยากสู้ต่อ แต่ขอเจอทีเดียว 3 คนเลย นายพลเลยจัดให้

 

แต่พอสู้กันไม่กี่ที ถึงกับโดนเตะกระเด็น เลยขอยอมแพ้ พอกำลังจะหยิบข้าว ก็โดนทหารคนหนึ่งยิงทิ้งซะอย่างนั้น เล่นเอาอาจารย์ยิป
และคนอื่นๆ ถึงกับเหว๋อกันเลยทีเดียว นายพลมิอุระก็เลยด่าทหารตัวเอง บอกว่าที่นี่โรงฝึก แกจะใช้ปืนที่นี่ไม่ได้

 

อาจารย์ยิปเลือดขึ้นหน้า เลยขอเข้าท้าประลองด้วย และบอกว่า ผมขอเจอทีเดียว 10 คน เล่นเอานายพลมิอุระถึงกับอึ้ง ว่าไอ้คนนี้มัน
บ้าหรือว่ามันเก่งจริง ว่าแล้วก็จัดให้ 10 คนตามคำขอ เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น บอกได้เลยว่า เราจะได้เห็นอาจารย์ยิปโหดที่สุดก็ซีนนี้
ขาหักได้หัก แขนหักได้หัก บางคนโดนต่อยซะหน้ายับ บางคนโดนอัดซะร่างกายผิดรูป เรียกได้ว่า 10 คนที่ลงมา เผลอแว๊บเดียว
เหลือแค่คนเดียวเท่านั้น คนสุดท้ายนี่โดนซะยับเลย จากนั้นนายพลมิอุระ ก็เลยลงมาทักทาย พร้อมบอกว่าให้มาอีกวันหลังนะ

และสั่งให้ทหารโยนข้าวให้ 10 ถุง แต่อาจารย์ยิป กับเอาข้าวที่เต็มไปด้วยเลือดของอาจารย์เหลียงกลับไปเพียงแค่นั้น โดนได้นำ
ไปให้กับขอบครัวของอาจารย์เหลียงนั้นเอง

โดยที่อาจารย์ยิป ก็ได้ต่อว่าตำรวจที่เป็นล่ามว่าพวกขายชาติ เห็นพวกพ้องตายก็ได้แต่ยืนนิ่ง
"ผมก็มีปากมีท้องเหมือนกัน จะให้ผมทำอย่างไร ผมก็ต้องเอาตัวเองให้รอด ผมไม่ใช่พวกขายชาติโว้ย" เขาโวยวายขึ้นมา ในขณะที่
อาจารย์ยิป ก็ได้เดินจากไปแล้ว

อาจารย์ยิปกลับมาบ้าน ก็มานั่งตัดพ้อกับภรรยา ว่าจริงๆ แล้วเขาด้อยค่ามาก นอกจากกังฟูแล้ว เขาก็ทำอะไรไม่ได้เลย แต่ภรรยาก็
บอกว่าไม่เป็นไร ขอแค่มีเราอยู่ด้วยกัน อยู่ที่ไหนฉันก็มีความสุข เลยทำให้อาจารย์ยิปเริ่มคลายกังวลไปได้บ้าง

วันถัดมา รถของโรงงานฝ้ายกำลังจะนำของไปส่ง แต่ก็โดน จินซางโถ มาดักรอปล้น โดยมี ซานต้าหยวน เป็นลูกมือคนสนิทด้วยอีกคนจากนั้น ก็รีบขับรถไปที่โรงงานทอฝ้ายทันที โดยได้บอกว่า รถคันนี้เขาเก็บมาได้ ดังนั้น เอาเงินมาแลกซะดีๆ แต่เถ้าแก่ก็บอกว่าไม่มีเงินเลยจริงๆ เลยโดนอัดซะยับ แถมลูกชายก็มาตั้งท่ามวยหย่งชุน ที่จินซางโถเคยแพ้มาก่อน เลยรู้สึกโมโห ตบสังสอนไปที พร้อมให้เถ้าแก่ไปหาเงินมา

ซึ่งตอนนั้น หลังจากที่ลูกเถ้าแก่โดนตบ ก็ไปตามอาจารย์ยิปมาช่วย โดยในตอนนั้น จินซางโถเลยตัดสินใจ
จะนำรถกลับไปด้วย แล้วจะมาใหม่ ให้หาเงินเตรียมไว้ เมื่ออาจารย์ยิปมาถึง พวกมันก็ไปกันหมดแล้ว โดยที่เพื่อนที่เป็นเถ้าแก่ ก็พูดว่า
เมื่อก่อนเขาไม่ชอบกังฟู แต่พอเหตุการณ์วันนี้ทำให้รู้ว่า การที่เรียนรู้ไว้ อย่างน้อยๆ ก็ป้องกันตัวเองได้ ถ้านายไม่ลำบาก อยากให้นาย
สอนพวกเรา เราจะได้ป้องกันตัวเองได้

หลังจากวันนั้น ก็เริ่มถ่ายทอดมวยหย่งชุนให้กับเพื่อนที่เป็นเถ้าแก่ และพนักงานในโรงทอฝ้าย และนี่น่าจะเป็นศิษย์รุ่นแรกของยิปมัน
เลยก็ว่าได้ ทุกคนก็พอเลิกงาน ก็เลยมาฝึกกันทุกวัน

มาดูที่กองทัพญี่ปุ่นกันบ้าง ตอนนี้นายพลมิอุระ เริ่มไม่พอใจ ว่าทำไมยิปมันมันไม่เคยมาอีก และได้อัดสั่งสอนตำรวจล่าม ให้ไปตามล่า
ตัวยิปมันมาให้ได้ โดยในวัดถัดมา เขาก็เลยไปหายิปมัน บอกว่านายพลมิอุระอยากให้ท่านไป แต่เขาก็ปฏิเสษไป แต่คงยาก เพราะว่า
ลูกน้องของนายพล ก็ดันมาด้วย แถมเอาปืนมาจ่อลูกชายยิปมันเล่นจนยิปมันตกใจ ว่าพวกเอ็งเล่นอะไรแบบนี้ พอลูกน้องนายพลเห็น
เมียยิปมัน ก็อยากจะขึ้นไปข่มขืนซะ ยิปมันเลยอัดแหลกซะน่วม 3 คนหลับคาตีน ส่วนตำรวจล่ามก็ให้ยิปมันหนี เพราะอยู่ที่นี่คงไม่ได้แล้ว
แต่ก็นั้นแหละครับ สุดท้ายตำรวจล่ามก็โดนตีซะยับ โทษฐานจับตัวยิปมันไม่ได้ เลยให้โอกาสไปล่าตัวมา ซึ่งจริงๆ กลายเป็นว่า
ตำรวจล่าม ได้พายิปมันและครอบครัวหลบหนีมาที่บ้านหลังหนึ่งนั่นเอง

 

หลายวันถัดมา จินซางโถ และลูกน้อง กลับมาที่โรงงานทอผ้าอีกครั้ง เพื่อติดตามทวงเงิน แต่พนักงานกลับตั้งท่ามวยหย่งชุนกันซะงั้น
จินซางโถ ก็เลยให้ลูกน้องไปกระทืบทุกคนที่ต่อต้านทันที อัดกันไปอัดกันมา ยิปมันก็มาถึงพอดีเช่นกัน เลยไล่ตะบันหน้าเรียงตัวซะยับ

"เฮ้ย ยิปมัน แกอีกแล้วเหรอวะ ตอนที่ฉันจะเปิดค่ายมวย แกก็ขัดขวาง นี่พอจะทำมาหากิน แกก็มายุ่งอีก..ฆ่ามัน" พูดจบ บรรดา
ลูกกระจ๊อกทั้งหลาย ก็หยิบมีดหยิบขวานเข้ามาบวกทันที โดยที่ยิปมันเองก็หยิบไม้ไผ่ยาว มาเป็นอาวุธรับมือ ฟาดไม่กี่ที จินซางโถ
โดนฟาดเข้ากกหูจนเลือดออก เลยหนีกันทันที

ส่วนยิปมันได้มาคุยกับ ซานต้าหยวน ว่าพี่ชายนายตายไปแล้ว เขาตามหานายตลอด นายต้องเลือกเอง ว่านายจะเดินต่อไปอย่างไร
แล้วก็มอบกล่องเหล็กให้ โดยในนั้นมีกระดาษว่าวของน้องชายเก็บไว้อยู่นั้นเอง

วันหนึ่งขณะที่นอนพัก ตำรวจล่ามบอกว่า พวกญี่ปุ่นได้มาหานายที่โรงทอผ้า นายอย่าโผล่ไปเด็ดขาด เดี๋ยวเขาจะไปจัดการให้ เมื่อไปถึง
ทหารญี่ปุ่นถามว่า ใครรู้บ้างว่ายิปมันอยู่ไหน บอกมา แต่ล่ามกลับแปลว่า ห้ามบอกพวกมันนะ ว่ายิปมันอยู่ที่ไหน จากนั้นก็เรียกเถ้าแก่
กูมาโดนซ้อมอีกแล้ว แต่ไม่ทันไร ยิปมันก็มาถึงพอดี ทีแรกจะโดนฆ่าทิ้ง แต่นายพลมิอุระมองว่า ยิปมันมีความสามารถ อาจจะเป็น
ประโยชน์แด่กองทัพ ว่าจะให้ยิปมันสอนกังฟูกับพวกทหารญี่ปุ่น แต่ยิปมันไม่เล่นด้วย และบอกว่า อยากจะซัดหน้าแก ล่ามก็เลยแปลให้ว่า
ยิปมัน อยากจะเรียนรู้วิชาศิลปะกับท่านอ่ะครับ.. เลยถูกพาตัวไปที่กองทัพทันที


ทีนี้่ ลูกน้องของนายพลมิอุระ อยากจะฆ่ายิปมันทิ้ง และไม่อยากให้เกิดการประลองขึ้น เพราะถ้าแพ้ มันไม่ได้แพ้แค่คนเดียว แต่มัน
หมายถึงศักดิ์ศรีของชาวญี่ปุ่นด้วย นายพลก็บอกว่า แกคิดว่าฉันจะแพ้เหรอวะ ถ้าแกมายุ่งเรื่องนี้ ฉันจะจัดการกับแกซะ...
ว่าแล้วก็เข้าไปหายิปมันพูดกับยิปมันเรื่องของการประลอง แต่แน่นอนว่ามันไม่มีล่าม ยิปมันก็ได้แค่คิดในใจว่า กูฟังไม่รู้เรื่อง

ก่อนที่จะโดนจับ ยิปมันขอร้องเถ้าแก่ให้พาเมียหนีไป เถ้าแก่ก็เลยจับเมียยิปมันมัดไว้แล้วขับรถพาหนี แต่เมียเขาบอกว่า ทุกครั้งที่ยิปมัน
ประลอง เขาไม่เคยอยู่ดูให้กำลังใจสามีเลย นี่อาจจะเป็นศึกสุดท้ายก็ได้ ขอร้อง ขอได้เห็นการประลองของสามีที่อาจจะเป็นวาระสุดท้าย
ก็เลยยอมพาไปดู

เมื่อถึงเวลาการประลอง มีคนจีนมาดูมากมาย และทหารญี่ปุ่นคอยคุมสถานการณ์จำนวนมาก เมื่อยิปมัน และนายพลมิอุระ ขึ้นมาเวที
พร้อมกัน ยิปมันจำคำพูดของล่ามได้เตือนไว้ว่า ถ้าแพ้ ก็คือตาย แต่ถ้าชนะ ก็ตายเหมือนกัน มันคงไม่ปล่อยให้อาจารย์ยิปรอดแน่ๆ
ยิปมันก็คงดูออก ว่านี่อาจจะเป็นศึกสุดท้ายของชีวิต พอเริ่มสู้ หย่งชุน กับ คาราเต้ ก็เริ่มใส่กันแบบไม่ยั้ง โดยการต่อสู้ที่้เกิดขึ้น
อาจารย์ยิปแทบไม่ได้เป็นรองเลยแม้แต่น้อย กลับตอบโต้ได้ทุกกระบวนท่า และใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็ตะบันหน้านายพลซะยับคาเสา
ก่อนจะปิดฉากด้วยการชกเข้าที่ลูกกะเดือก จนนายพลถึงกับนั่งสำลักเลือดตายคาเวที ทุกคนโห่ร้องด้วยความดีใจ กับชัยชนะที่โคตร
ง่ายดายของอาจารย์ยิปมัน แต่นั้น เขาก็กลับโดนยิงเข้าที่หัวไหล่ เพราะลูกน้องของนายพลมิอุระต้องการจะฆ่ายิปมัน แต่ล่ามกลับมา
ห้ามไว้ พร้อมกับหันปืนไปใส่ปากลูกน้องนายพลจนถูกยิงตายไปอีกราย คนจีนที่อยู่โดยรอบ รวมทั้งเมียของอาจาย์ยิป ก็ฝ่าดงทหาร
เข้ามาหาอาจารย์ยิปที่นอนแน่นิ่งอยู่ริมสนามการประลอง ทุกคนต่างลุกขึ้นสู้ เพื่อจะพาอาจารย์ยิปหนีออกจากเหตุการณ์ทันที

และในที่สุด เถ้าแก่พร้อม ซานต้าหยวน ก็ได้พาอาจาย์ยิปกับครอบครัว หนีออกจากฟอซาน และมุ่งตรงไปที่เกาะฮ่องกงทันที..
และหนังก็เป็นอันจบไปครับ

ก็จบลงไปแล้วนะครับ กับยิปมัน สู้ยิปตา (ชื่อไทยแบบนี้รึเปล่าวะ) หนังเรื่องนี้สนุกมากครับ แต่ถ้าถามว่าอิงกับเรื่องจริงมากน้อยแค่ไหน
ส่วนหนึ่งก็เรื่องจริง ส่วนหนึ่งก็ถูกแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง ส่วนไหนนั้นไว้ผมจะทำสกู๊ปพิเศษให้นะครับ แล้วเดี๋ยวมาต่อกันรัวๆ
ให้ครบ 4 ภาคเลย สำหรับคลิปนี้พอแค่นี้่ก่อน ฝากกดติดตามกันด้วยนะครับ ไว้พบเจอกันใหม่ในคลิปหน้า สำหรับวันนี้..สวัสดีครับ

เนื้อหาโดย: thankuu
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
thankuu's profile


โพสท์โดย: thankuu
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เจนนี่ทำเซอร์ไพรส์ใหญ่! มอบบ้านพร้อมโฉนดให้ “ลิลลี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” ฉลองอายุครบ 20 ปีช่างภาพชาวไต้หวันใช้เวลา 17 ปีถ่ายทอดการเติบโตของลูกชายผ่านเลนส์หน้าชื่นอกตรม ภาวะโรคยิ้มซึมเศร้า Smiling Depression ยิ้มง่ายแต่ภายในแตกสลาย"เต๋า ทีวีพูล" ลั่น สินค้า "แอน จักรพงษ์" ขายหมดเกลี้ยง Miss Universe 2024 กระแสเกินต้านอะไรจะเกิดขึ้น หากปล่อยให้น้ำตาลในเลือดสูงนางเอกดังสุดเศร้า กับการสูญเสียครั้งใหญ่ โพสต์อาลัยรักสุดหัวใจนักสะสมความเสียใจ ผู้เสพติดความทุกข์ ความเศร้าเรื้อรัง Chronically Unhappy"สภาพพังยับ! ยูทูบเบอร์สาวทำเล็บที่อินเดีย รู้ราคาแล้วอยากร้องไห้"ปีเตอร์ แพน ซินโดรม ไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ อาการไร้วุฒิภาวะ พฤติกรรมของคนที่ชอบหนีความรับผิดชอบสมุนไพร คลายเครียด ลดความวิตกกังวล ต้านซึมเศร้าเทคนิคสร้างความมั่นใจง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เปลี่ยนเป็นคนใหม่ ที่มั่นใจได้เต็มร้อยทำความรู้จัก "โรคลมหลับ" กำลังทำกิจกรรมอื่นอยู่เพลิน ๆ แล้วเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว !
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ช่างภาพชาวไต้หวันใช้เวลา 17 ปีถ่ายทอดการเติบโตของลูกชายผ่านเลนส์สาวจีนเจอเนื้องอกส่วนเกินบนเล็บเท้า แพทย์ชี้เกิดจากการทำเล็บที่ไม่เหมาะสมและบ่อยเกินไป 🙁"เต๋า ทีวีพูล" ลั่น สินค้า "แอน จักรพงษ์" ขายหมดเกลี้ยง Miss Universe 2024 กระแสเกินต้านพบเส้นทางการเงินแม่นาย ส.เสือ กว่า 100 ล้านบาท เชื่อมโยงดิไอคอนเตรียมออกหมายเรียก ฟิล์ม รัฐภูมิ ในคดีที่อ้างชื่อ หนุ่ม กรรชัย เรียกร้องค่าเสียหาย 20 ล้านบาท
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
ผีป่าอาถรรพ์:"ผีป่าทมิฬ"ล่าแม่มดทริบูร์: ความกลัวที่ทำให้ชีวิตกลายเป็นเพียงเงาในประวัติศาสตร์"นิยายวาย : เดิมพันรักนักพนันแจ็คเดอะริปเปอร์: ฆาตกรที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์
ตั้งกระทู้ใหม่