เป็นเดือดยิ่งกว่าแดงเดือด!!! จัดผ้าอนามัยแบบสอดเป็นเครื่องสำอาง แล้วขึ้นภาษีอีก 30%
ถือเป็นประเด็นสุดร้อนในโซเชียลอย่างมากเมื่อมีประกาศราชกิจจานุเบกษาออกมา ให้ผ้าอนามัยแบบสอดอยู่ในหมวดเครื่องสำอางค์ที่จะทำให้มีการเก็บภาษีที่แพงขึ้น ทั้งๆ ที่ก็มีการเรียกร้องมาโดยตลอดว่าผ้าอนามัยไม่ควรที่จะมีการจัดเก็บภาษี และควรมีให้ฟรีสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยด้วยซ้ำ
คนลงนามคือนาย อนุทิน จึงถูกมองว่าเป็นผู้ชาย ไม่มีความเข้าใจของผู้หญิงที่มีความจำเป็นต้องใช้ผ้าอนามัย และต้องรับภาระในส่วนนี้เลย
ทุกคนงงกับการตีความเป็นเครื่องสำอางมาก
ต้องรอคำตอบอีกทีว่าหมายความยังไงกันแน่?
งานนี้ไม่ว่าผู้หญิง หรือเพศไหนๆ ที่เข้าใจ ต่างแสดงความเห็นกันเผ็ดร้อนผ่านแท็ก #ผ้าอนามัยไม่มีภาษี เลยจริงๆ เพราะว่าตามปกติแล้วนั้นผ้าอนามัยแบบสอดก็มีราคาสูงอยู่แล้ว ยิ่งถ้าขึ้นภาษีอีกจะนับว่าเป็นภาระของผู้หญิงในแต่ละเดือนเข้าไปอีกด้วย
ผ้าอนามัยแบบสอด อย.อเมริกาจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ มีการควบคุมคุณภาพการผลิตให้ได้มาตรฐาน และแนะนำให้เปลี่ยนทุก 4-8 ชม.เพื่อความปลอดภัย ข้อดีของผ้าอนามัยแบบสอดคือ ไม่เลอะเทอะ ใส่ทำกิจกรรมกีฬาต่างๆได้ดี ผ้าอนามัยเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ใช่เครื่องสำอาง
ผ้าอนามัยควรเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้ ปัจจุบันก็แพงอยู่แล้วและจริงๆควรฟรีด้วยซ้ำ แต่อย่างน้อยทั้งแบบผ้าและแบบสอดไม่ควรมีภาษี ทำไม Cis Men ถึงเป็นคนเข้ามาตัดสินเรื่องสุขอนามัยของผู้มีประจำเดือนโดยที่ไม่คำนึงถึงความลำบากของพวกเรา
.
ผ้าอนามัย ไม่ใช่ เครื่องสำอาง
รัฐต้องทบทวนการจัดประเภท
และทบทวนนโยบายภาษี
รัฐต้องยกเลิกภาษีทุกชนิด
เพื่อให้ราคาผ้าอนามัย
อันเป็นสินค้าจำเป็นที่ผู้หญิงต้องใช้
มีราคาถูกที่สุด ทุกคนเข้าถึงได้
ผ้าอนามัยต้องไม่แพง
.
ความสำคัญของการลดภาษีผ้าอนามัย
ด้านประเทศอื่นๆ กับผ้าอนามัย
ประเทศอินเดียยกเลิกการเก็บภาษี ผ้าอนามัย ที่มีอัตราภาษีเกือบ12%แล้วแถมราคาผ้าอนามัยก็ถูกมากแล้วขนาดไซส์แพ็คก็ 30 แผ่นตกอยู่ที่ราคาไม่ถึง 100 บาทไทย